|
ทรูอกหักสนามบินสุวรรณภูมิ ทีโอทีเซ็นสัญญาทอท.ปิดทาง
ผู้จัดการรายวัน(22 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ทีโอทีเซ็นสัญญากับทอท. เรียบร้อยแล้วสำหรับการเป็นผู้ให้บริการหลักระบบโทรศัพท์พื้นฐานและระบบสื่อสารโทรคมนาคมในสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเวลา 10 ปีด้วยการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทอท. 5-15% ปิดโอกาสกลุ่มทรู หลังมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในสัญญา
นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอทีกล่าวว่าได้ลงนามในสัญญากับบริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือทอท.ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อให้บริการระบบโทรศัพท์และสื่อสารโทรคมนาคมภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นระยะเวลา 10 ปีตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ โดยสัญญาระบุชัดเจนว่าทีโอทีเป็นผู้ให้บริการหลักในการให้บริการระบบโทรศัพท์พื้นฐาน และระบบสื่อสารโทรคมนาคม (fixed line and wire line networks) โดยทีโอทีเป็นผู้ลงทุนจัดหาอุปกรณ์หลักและโครงสร้างพื้นฐานในบริเวณท่าอากาศยานทั้งหมดยกเว้นเฉพาะในส่วนที่ทอท.ได้เดินสายไว้แล้ว
ทีโอทีได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 925 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งหมด 1,300 ล้านบาท ส่วนการลงทุนระหว่างปีนอกเหนือจากนี้ หากต้องมีการลงทุนอะไรเพิ่มเติมก็จะต้องมีข้อตกลงร่วมในแต่ละกรณีไป และตามสัญญาทีโอทีจะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทอท.ระหว่าง 5-15% ขึ้นอยู่กับประเภทของบริการและระยะเวลาที่ให้บริการคือ
1.บริการโทรศัพท์พื้นฐาน,ไอเอสดีเอ็น,โทรศัพท์ระบบไอพีและบริการสื่อสารข้อมูล ( fixe line,ISDN,IP Phone and data service) จ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทอท.ปีแรก 5% ปีที่2-ปีที่ 5 จ่าย 10% และเมื่อถึงปีที่ 6-10 จ่าย 15%
2.บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ จ่ายส่วนแบ่งรายได้ปีแรก 10% และตั้งแต่ปีที่ 2 จ่าย 15%
3.บริการโทรศัพท์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Web phone) จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 5%ตลอดสัญญา
และ 4.บริการโทรศัพท์สาธารณะแบบหยอดเหรียญและใช้บัตร (combine payphone) จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 7% ตลอดสัญญา
“ทีโอทีจะมีรายได้จากบริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฉลี่ยปีละ 300-400 ล้านบาท ซึ่งอาจจะมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับทราฟิก และการปรับใช้บริการของประชากรในพื้นที่ด้วย”
สำหรับในส่วนของบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเคยถูกระบุว่าจะเข้ามาเป็นผู้ให้บริการเพิ่มอีก 1 รายนั้น นายธีรวิทย์กล่าวว่า ยังไม่มีการลงนามสัญญาอื่นใดที่ระบุถึงบริษัท ทรู ซึ่งสัญญานี้พูดถึงทีโอทีเป็นผู้ให้บริการรายหลักซึ่งจะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ให้ทอท.เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในสัญญายังระบุด้วยว่ากรณีที่ทอท.จะให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น เข้ามาให้บริการด้วยนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
แหล่งข่าวในกระทรวงไอซีทีกล่าวว่า ประเด็นที่สัญญาระบุว่ากรณีที่ทอท.จะให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น เข้ามาให้บริการด้วยนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมเท่ากับเป็นการปิดโอกาสบริษัท ทรู เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงบางประโยคในสัญญา จากเดิมที่ใช้คำว่าผู้ประกอบการรายอื่นก็เปลี่ยนเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น ทำให้บริษัท ทรูซึ่งปัจจุบันมีสถานะเป็นบริษัทคู่สัญญาร่วมการงานกับทีโอที และยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งก็หมายถึงบริษัท ทรู ไม่ถือเป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงทีโอทีและบริษัท กสท โทรคมนาคม เท่านั้นที่เป็นผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม ที่ได้รับใบอนุญาตจากกทช.ถูกต้องตามกม.ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
“การเปลี่ยนเนื้อหาในสัญญา โดยเพิ่มคำว่าผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมรายอื่น เท่ากับทำให้บริษัทคู่สัญญาร่วมการงานหมดสิทธิทันที”
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|