|
ไทยบริการฯ"เตรียมขาย IPO35 ล้านหุ้น
ผู้จัดการรายวัน(22 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ไทยบริการฯ" จะเสนอขาย IPO 35 ล้านหุ้น เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาด mai โดยให้ประชาชนทั่วไป 33 ล้านหุ้นและให้ ESOP 2 ล้านหุ้น โดยแต่งตั้งให้บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายธีรพล เต็มสุข กรรมการบริหาร บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (TIES) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai ) โดยได้ยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)แล้วเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ 2548
ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปจำนวน 33 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 24.4% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนอีกจำนวน 2 ล้านหุ้น ต่อกรรมการผู้บริหารและพนักงานของบริษัท โดยบริษัทได้แต่งตั้งให้บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเงินที่ได้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ
"เรามีความมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัท ถึงแม้ว่าในปัจจุบันธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้นมีการแข่งขันค่อนข้างสูงในการประมูลโครงการต่างๆ และยังมีปัจจัยลบ ทั้งราคาน้ำมันที่ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูง แต่เรามั่นใจว่านโยบายของบริษัทในการบริหารปริมาณงานก่อสร้างให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและการบริหารการเงินและต้นทุนที่รอบคอบ รัดกุมจะทำให้บริษัทประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ " นายธีรพล กล่าว
ด้านนางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.ธนชาต ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ไทยบริการฯ มีทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง พร้อมมีฐานลูกค้าในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ครอบคลุมธุรกิจอุตสาหกรรมหลายประเภท ทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศ และบริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจ
ปัจจุบัน TIES มีทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 135 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัท ในปี 2547 บริษัทมีรายได้รวม 628.53ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.69% และกำไรสุทธิ 42.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 640.01% จากปี 2546 ซึ่งมีรายได้ 213.29 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 7.82 ล้านบาท ตามลำดับส่วนอัตรากำไรสุทธิของบริษัทในปี 2547 อยู่ที่ 6.72% ซึ่งนับว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเดียวกันอันเป็นผลสะท้อนมาจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2548 บริษัทมีรายได้รวม 685.80 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 22.27 ล้านบาทตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทมีโครงการก่อสร้างซึ่งอยู่ ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างจำนวน 6 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 1,116.6 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|