|
ทรูโชว์ตัวเลขไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 732 ล้าน
ผู้จัดการรายวัน(15 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ทรูขาดทุนไตรมาส 3 สุทธิ 732 ล้านบาทลดลงจากไตรมาส 2 ที่ขาดทุนสุทธิ 964 ล้านบาทโดยส่วนใหญ่เป็นผลจากอัตราแลกเปลี่ยน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับบริการที่มีการเติบโตสูง ซึ่งประกอบด้วย ทีเอ ออเร้นจ์ บริการบรอดแบนด์ สำหรับลูกค้าทั่วไป บริการสื่อสารข้อมูล และบริการอินเทอร์เน็ต พร้อมกับการ ควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน
"คาดว่าทีเอ ออเร้นจ์ จะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 4 นี้ และจะมีรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ARPU) เพิ่มขึ้นนับตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2549 หลังจากที่โปรโมชันราคาต่ำสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคมนี้ โดยทีเอ ออเร้นจ์จะสามารถบรรลุเป้าหมายจำนวนผู้ใช้บริการ 4.2 ล้านรายได้ภายในสิ้นปี 2548 และจะสามารถทำกำไรได้ในไตรมาส 1 ปี 2549 หากราคาไม่เปลี่ยนแปลง"
นอกจากนั้น ในกลุ่มบริการ Non Voice ของทีเอ ออเร้นจ์ก็มีการเติบโตสูง โดยในระยะเวลา 8 เดือนแรกนับจากการเปิดให้บริการ "Color Ring" ซึ่งเป็นบริการเสียงรอสาย มีผู้สมัครใช้บริการนี้มากกว่า 20% ของลูกค้าทั้งหมด ทำให้รายได้จากบริการเหล่านี้เพิ่มขึ้น และมีสัดส่วนคิดเป็น 6.7% ของรายได้รวมของทีเอ ออเร้นจ์ จาก 5% ในไตรมาส 2
เช่นเดียวกับธุรกิจบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไปยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น 5.8% เป็น 499 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นรายได้ทั้งสิ้น 1.4 พันล้านบาท โดยรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการมีระดับคงที่ เทียบกับไตรมาสที่แล้วที่ 739 บาท และจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 49,731 รายในไตรมาสนี้ เปรียบเทียบกับ 36,394 รายในไตรมาส 2 ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการ รวมทั้งสิ้น 294,713 ราย และมีส่วนแบ่งตลาด 85% เชื่อซื้อ UBC ช่วยเสริมแกร่ง
ก่อนหน้านี้ (4 พ.ย. 2548) คณะกรรมการของบริษัททรู คอร์ปอเรชันได้มีมติตกลงที่จะเข้าซื้อหุ้น UBC 30.6% จากบริษัท MIH และจะทำคำเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ ของยูบีซี 29.3% และในขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัทฯ ยังมีมติตกลงเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท MKSC จากบริษัท MIH ซึ่งจะทำให้บริษัทเข้าถือหุ้นในบริษัท เคเอสซี ประมาณ 40% นั้นนายศุภชัยกล่าวว่า การตัดสินใจในครั้งนี้เป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัททรู ในการเป็นผู้ให้บริการสื่อสารครบวงจรหนึ่งเดียวที่ตอบสนอง และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ตรงใจลูกค้า เข้าสู่การเป็นผู้นำไลฟ์สไตล์และ Conver-gence Player รวมทั้งเป็นผู้นำบริการ เสียง ข้อมูล และภาพ (Triple Player)
"แผนการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ยูบีซี จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับทรู ในการให้บริการบรอดแบนด์ และเคเบิลทีวีในประเทศ สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยีของโลก ด้วยเหตุผลว่ากลุ่มข้อมูล คอนเทนต์ และบริการ non voice ถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการขยายตัวมากที่สุดของบริษัทฯ"
นอกจากนั้นนายศุภชัยยังกล่าวว่า "การให้บริการด้านคอนเทนต์ ใหม่ผ่านเว็บไซต์พอร์ทัล trueworld. net ซึ่งได้มีการเปิดตัวไปแล้วในไตรมาส 3 ถือเป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์ของทรูในการผสมผสานบริการ ด้านคอนเทนต์แก่ลูกค้าทุกระบบ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าและสร้างความ เติบโตให้แก่ธุรกิจบรอดแบนด์ของบริษัทในอนาคต"
นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน กล่าวเสริมว่า ทรูได้ดำเนินการลดหนี้สินอย่างต่อเนื่อง โดยได้ชำระคืนหนี้รวมกว่า 1.2 พันล้านบาทในไตรมาส 3 ทำให้มียอดชำระคืนหนี้รวมทั้งสิ้น 2.7 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ และส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA สำหรับงวด 9 เดือนแรกลดลงเป็น 4.8 เท่า จาก 6.0 เท่า ณ ปลายปี 2547
"ทรูยังคงมีเงินสดเพียงพอสำหรับรายจ่ายลงทุนในปีนี้ โดย ณ สิ้นไตรมาส บริษัทฯ มีเงินสดรวมจำนวน 6.5 พันล้านบาท รวมเงินสดจาก ทีเอ ออเร้นจ์ จำนวน 2.3 พันล้านบาท"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|