บล.บัวหลวงแนะซื้อหุ้น "บัตรกรุงไทย" ปีหน้ากำไรโต14%-ราคาเป้าหมาย27บ.


ผู้จัดการรายวัน(15 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บล.บัวหลวง แนะซื้อหุ้น "บัตรกรุงไทย" หลังโชว์ผลการ ดำเนินงานงวด 9 เดือนสูงกว่า 494 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี ตั้งเป้ากำไรสุทธิปีหน้าโตอีก 14% ระบุราคาเป้าหมายอยู่ที่ 27 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บัวหลวง จำกัด ประเมินผลการดำเนินงานบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ว่า ไตรมาส 3 ปี 2548 บริษัทมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสอง 3% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 10% ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ผลงาน งวด 9 เดือน กำไรสุทธิ 494 บ้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 9% หรือคิดเป็นสัดส่วน 73% ของประมาณการที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 678 ล้านบาท

ส่วนกำไรก่อนการตั้งสำรองหนี้สูญและภาษีอยู่ที่ 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 4% และจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 15% โดยระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา กำไร ก่อนการตั้งสำรองหนี้สูญและภาษีเพิ่มขึ้น 30% อยู่ที่ 1,280 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมียอดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นจากไตรมาส ก่อน 6% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกัน ของปีก่อน 53% ทำให้รายได้จากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 6% และ 41% ตามลำดับ คือมีรายได้จากดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.28 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันของการเติบโตของสินเชื่อ ส่วนงวด 9 เดือน มีรายได้จากดอกเบี้ย 3,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 40%

บล.บัวหลวงระบุ ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บริษัทมีส่วน ต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลงไตรมาสก่อนและงวดเดียวกันของปีก่อน 0.28% และ 2.05% เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนเงินทุนและการปรับลดลงของผลตอบแทนในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิสำหรับไตรมาส 3 อยู่ที่ 19.42% และงวด 9 เดือนอยู่ที่ 18.12%

"ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะมีการ ปรับตัวลดลง เพื่อรองรับการแข่งขันใน การขยายฐานสินเชื่อ อันจะทำให้ดอกเบี้ยรับสุทธิของ KTC เพิ่มขึ้นดังที่กล่าวไปแล้ว ณ ปัจจุบัน KTC ได้มีการพิจารณาในการออกหุ้นกู้จำนวน 5-6 พันล้านบาท ปัองกันการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการเงินและคงระดับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสำหรับการดำเนินงานในปีหน้า"

ด้านการตั้งสำรองหนี้สูญ ไตรมาส 3 KTC ตั้งสำรองหนี้สูญ 178 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 4% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 32% ส่วนระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมา สำรองหนี้สูญจะอยู่ที่ 538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ปีก่อนหน้า 76% ภายใต้ข้อกำหนดของทางธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในไตรมาสนี้หนี้ที่ไม่ก่อ ให้เกิดรายได้คิดเป็น 2.49% ของ สินเชื่อโดยที่มีสัดส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญ และหนี้สงสัยจะสูญจะครอบคลุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 74% เราเชื่อว่าสินเชื่อของทาง KTC เป็นสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้การการตั้งสำรองหนี้สูญที่เพิ่มสูงขึ้น และนโยบายการตัดหนี้สูญที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน

"เราเชื่อว่า KTC ยังคงเป้าหมาย สำหรับการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อสำหรับปีนี้อยู่ที่ 34% และปรับเพิ่มขึ้น 8-12% ในปี 2549 โดยมีแผนที่จะลงทุนธุรกิจในต่างจังหวัดเพื่อคงระดับผลการดำเนินงานในปีหน้า จากงบการลงทุนจำนวน 1.8 ล้านล้านบาทในสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐบาล คาดว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ในช่วงกลางปีหน้า"

จากเป้าหมายสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ KTC ทำกำไรสุทธิได้ตามเป้าหมาย 678 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.7% รวมทั้งการออกหุ้นกู้เพื่อรักษาต้นทุนดอกเบี้ยจะส่งผลให้ KTC ในปี 2549 มีกำไรสุทธิเติบโตได้ 14% ณ ปัจจุบัน KTC ซื้อขายอยู่ที่ PE 8 เท่า ในปี 2548 และ 7 เท่าในปี 2549 โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.2% ในปี 2548 และ 7.1% สำหรับปี 2549 เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" โดยมีเป้าหมาย PE อยู่ที่ 9 เท่า หรือราคาที่ 27 บาท สำหรับระยะเวลา 12 เดือน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.