จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในไอทีวี... หลัง"สรรค์ชัย"ลุกจากเก้าอี้?


ผู้จัดการรายวัน(28 พฤศจิกายน 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังจากที่คำสั่งย้ายนายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ขึ้นเป็นรองประธาน กรรมการ และดันเอา ทรงศักดิ์ เปรมสุข อดีตกรรมการผู้จัดการเอสซี แม็ทช์บ็อกซ์ ขึ้นมาเป็นกรรมการผู้จัดการแทน หลายฝ่ายเชื่อว่าจะมีความ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในไอทีวีอย่างแน่นอน

นับตั้งแต่สรรค์ชัยก้าวเข้ามา ไอทีวี ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นภาพของสถานี ข่าวรวมถึงเป็นสถานีซึ่งเน้นรายการสาระได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้ามือเป็น หลังมือ กลายเป็นสถานีซึ่งเน้น รายการ บันเทิงมากขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ Best News + Best Entertainment ที่นายสรรค์ชัยเคยประกาศไว้ เพราะต้นทุนของสถานีอันเนื่องมาจากสัญญา สัมปทานที่ของเดิมเคยทำไว้นั้น มหาศาลเกินกว่าที่รายได้จากรายการข่าวเพียงอย่างเดียวจะครอบคลุมได้ทั้งหมด พูดได้ว่าภาวะเลือดไหลออกของไอทีวียังมีอยู่ตลอดเวลา

สรรค์ชัยเคยยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่มีสถานีไหนที่อยู่ได้ เพราะ รายการข่าว ทั้งๆที่รายการข่าวของไอทีวีนั้นมีโฆษณาเต็มตลอด ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเพิ่มรายการบันเทิงโดยเฉพาะรายการ ละครหลังข่าว เพราะเขาเชื่อว่า เมื่อมีละครแล้ว โฆษณาต่างๆจะเข้ามา เพราะในหลายช่อง อาทิ ช่อง 7 และช่อง 3 เม็ดเงินในช่วงโฆษณาของ ละครโทรทัศน์ถือเป็นบ่อเงินบ่อทองที่สามารถเลี้ยงสถานีได้

แต่กระนั้นจำนวนโฆษณาที่เข้ามากลับไม่ดีอย่างที่คิดไว้ ส่วนหนึ่งเป็น เพราะคุณภาพของละครของไอทีวีในช่วงเปิดตัวนั้นไม่ได้มีทีท่าที่จะสู้กับช่อง อื่นได้เลย ทั้งในแง่ของการเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ หรือในแง่ความสนุก สนาน การลงทุนทำละคร แต่โฆษณาไม่เข้านั้นจึงยิ่งไปการเฉือนเนื้อตัวเองไปเรื่อย เพราะในความเป็นจริงต้นทุน การผลิตละครต่อตอนของไอทีวีก็สูงไม่แพ้ละครของช่องอื่นเหมือนกัน แต่เมื่อปรากฏว่า ละครอย่าง อมตะ , ส่วย, ทะเล จำปี ดนตรี ทราย ฯลฯ กลับไม่ติดความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย

แม้ว่าระยะหลังๆจะมีผู้จัดฝีมือ เยี่ยมๆเริ่มเดินเข้ามาสู่ไอทีวีแล้ว แต่ดูเหมือนภาพละครโทรทัศน์ที่ไม่น่าดูยังติดตาอยู่เสมอ นอกจากนั้นข่าวของ ผู้จัดที่ไม่ค่อยจะมีภาพลักษณ์ที่ดีเท่าไหร่ก็ออกมาเรื่อยๆ อย่างล่าสุดกรณีของ หลงไฟ ละครที่สร้างจากเรื่องที่ดีได้รับรางวัลมามากมายของ กฤษณา อโศกสิน ก็ยังไม่ได้ฤกษ์ลงจอเสียที กลายเป็นปัญหาคาใจคนดูอยู่ตลอด

หลายฝ่ายเชื่อว่าเรื่องของรายการ ละครจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง แน่นอนเป็นประการแรก นอกจากนั้น ที่จะสวนทางก็คือ การเพิ่มเวลาการ นำเสนอรายการข่าว เพราะในขณะนี้ โฆษณาที่เข้ามานั้นล้นจนอาจจะต้องขยายเวลาออกไปอีก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่อง ดีสำหรับคอข่าวไอทีวี

"จุดเด่นที่สุดของไอทีวีก็คือข่าว สิ่งที่เราจะเสริมเข้าไปก็คือการนำเสนอ ข่าวให้รวดเร็วและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น" คือคำพูดที่ทรงศักดิ์ยืนยันตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับหน้าที่

ความเปลี่ยนแปลงประการถัดมาก็คือ ในยุคของสรรค์ชัยไอทีวียังมี นโยบายสุดหรูอยู่อย่างหนึ่ง นั้นคือ การเซ็นสัญญากับดาราพร้อมจ่ายเงินเดือนให้ด้วย ถือเป็นนโยบายแปลกใหม่ เพราะดาราเหล่านั้นสามารถ ไปรับงานของช่องอื่นต่างค่ายได้อีกด้วย แต่กระนั้นดาราที่เข้ามาอยู่ในสังกัดก็ยังถือว่าเป็นดาราไม่ใหญ่เท่าไหร่ อาทิ อุ้ม ลักขณา นางเอกกระสือ เหมียว เสาวรส อดีตรองนางสาวไทย เมย์ กุลฑีรา สัตบงกช ฯลฯ จนคนต้องตั้งข้อสงสัยว่า ทำไปทำไม และไอทีวีได้ประโยชน์จากงานนี้อย่างไร?

เรื่องของการเซ็นสัญญาเพื่อจ้าง ดาราให้อยู่ในสังกัดเป็นเวลาอย่างต่ำ 2 ปีอาจจะต้องมีการปรับเช่นเดียวกัน

ประการที่สามก็คือ การกลับมาของละครเกาหลี - ญี่ปุ่น ในช่วงดึก ซึ่งถูกโยกย้ายเวลาไปอยู่ในตอนเย็นซึ่งยากลำบากต่อแฟนๆกลุ่มนี้น่าจะได้รับไฟเขียวให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งแฟนๆหลายคนกังขา เพราะซีรี่ส์ของหนังเกาหลี - ญี่ปุ่นเหล่านี้ ถือเป็น หน้าเป็นตาของช่องเสียด้วยซ้ำไป แม้ ว่าไอทีวีจะไม่ได้เป็นช่องแรกที่บุกเบิก แต่การทำงานอย่างต่อเนื่องทำให้ภาพลักษณ์ความเป็นเจ้าแห่งละครเกาหลี - ญี่ปุ่นของไอทีวีโดดเด่นอย่างยิ่ง และกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนดู เป็นไปได้ว่า แฟนๆไอทีวีน่าจะยิ้มออก

เหล่านี้น่าจะเป็นความเปลี่ยน แปลงระลอกแรกที่อาจจะทำให้ภาพของไอทีวีที่เคยดูล้ากลับมาเข้มข้นและ กลายเป็นสถานีน้ำดีอีกรอบหนึ่ง



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.