เครื่องดื่มญี่ปุ่นมาแรงโออิชินำเข้าโอลิโกะ


ผู้จัดการรายวัน(11 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

โออิชิเทงบ 100 ล้านบาท ปีหน้า หวังปั้นแบรนด์เครื่องดื่ม "อะมิโน โอเค" ติดตลาดวัยรุ่นและกลุ่มคนรักสุขภาพ ชี้เทรนด์สินค้าใหม่ที่จะเปิดตลาดในไทยจะอิงกระแสญี่ปุ่นเป็นหลัก เล็งนำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโอลิโกะบุกตลาดไทย เผยมูลค่ารวมชาเขียวปีนี้หล่นเป้าไม่ถึง 1 หมื่นล้านบาท เหตุปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจและตลาดชาเขียวโดนเล่นงานบ่อย

นายตัน ภาสกรนที ประธานบริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีหน้าบริษัทฯ เตรียมงบประมาณ 100 ล้าน ในการทำตลาดและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มผสมวิตามิน "อะมิโน โอเค" อย่างเต็มที่ ส่วนปีนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่นี้อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พ.ย.48 นี้ ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะมิโน โอเคนี้ส่วนหนึ่งเพื่อสร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากชาเขียวที่โดนจ้องเล่นงานมาโดยตลอด รวมถึงบริษัทฯ ต้องการขยายฐานลูกค้าเพิ่มในกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ยังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายของอะมิโน โอเค จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือคนทำงานที่ห่วงใยในสุขภาพ และผู้ที่ต้องการเติมความสดชื่นให้แก่ร่างกาย

นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทฯ เตรียมทำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มแบบกล่องขนาด 1.5 ลิตร โดยได้มอบหมายให้บริษัทเสริมสุข เป็นตัวแทนการจัดจำหน่ายไปยังตู้แช่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดบริษัทดีทแฮล์มเป็นผู้รับผิดชอบกระจายสินค้า ซึ่งทั้งสองส่วนจะเสริมให้เครื่องดื่มชาเขียวโออิชิมีจุดแข็งในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การเปิดตัวเครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ในช่วงระยะเวลา 3-5 ปีต่อจากนี้ บริษัทฯ จะยึดแนวทางการทำตลาดเกาะกระแสไลฟ์สไตล์ ทั้งอาหารและเครื่องดื่มตามประเทศญี่ปุ่น อาทิ ที่ญี่ปุ่นนิยมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพโอลิโกะในอนาคตบริษัทฯ มีแผนนำเข้ามาเปิดตลาดไทย เป็นต้น โดยปัจจุบันกลุ่มเครื่องดื่มในญี่ปุ่น ที่มีอัตราการเติบโตสูง ได้แก่ 1. ชาเขียวพร้อมดื่ม 2. กาแฟ และ 3. เครื่องดื่มผสมวิตามินอะมิโน

ขณะที่ภาพรวมตลาดชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์เมื่อต้นปีว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและตลาดชาเขียวประสบปัญหาต่างๆ ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค โดยปัจจุบันโออิชิเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาด 69% ขณะที่ในปีหน้ามองว่า ตลาดชาเขียวจะเหลือผู้เล่นหลักในตลาดเพียง 3 รายหลักเท่านั้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.