ซุปเปอร์บล็อกพลิกกลยุทธ์ใหม่ ตั้งบริษัทลูกกรุยทางสร้างตลาด


ผู้จัดการรายสัปดาห์(11 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ซุปเปอร์บล็อก ปรับกลยุทธ์ตั้งบริษัทลูกดูแลตลาดสินค้าใหม่โดยเฉพาะ เน้นเจาะเข้าโครงการก่อนขยายสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อย กระตุ้นยอดขาย "อิฐมวลเบาสี" หวังดันกำไรพุ่ง 35%

แม้จะมีดีกรีอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดอิฐมวลเบาที่มีมูลค่ารวม 12-15 ล้าน ตร.ม. หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,680 ล้านบาท แต่ ซุปเปอร์บล็อก ก็ขอครองตำแหน่งเจ้าตลาดด้านคุณภาพสินค้าและการให้บริการรั้งท้ายไว้อีก 1 ตำแหน่ง โดยอาศัยข้อได้เปรียบด้านบุคลากรที่เป็นพนักงานเดิมของ บมจ.สมประสงค์แลนด์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านวิศวะและการตลาดกว่า 10 คนมาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์

จอมทรัพย์ โลจายะ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซุปเปอร์บล็อก กล่าวว่า ด้วยข้อจำกัดของตลาดอิฐมวลเบาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการสร้างตลาดนาน ทำให้บริษัทปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำตลาดใหม่ เพื่อผลักดันสินค้าใหม่ให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคได้เร็วขึ้น โดยจัดตั้งบริษัท ซุปเปอร์สปีด คอนสตรัคชั่นขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท เพื่อทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่โดยเฉพาะเริ่มต้นจากอิฐมวลเบาสี และอิฐมวลเบาขนาด 30 ซม.ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เน้นฐานลูกค้าในกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ก่อนขยายสู่ฐานลูกค้ารายย่อย

ในเบื้องต้น ซุปเปอร์สปีด คอนสตรัคชั่น จะเข้าไปรับเหมาในระบบเทิร์นคีย์ให้กับเจ้าของโครงการ โดยรับผิดชอบงานก่อสร้างทั้งหมด ยกเว้นงานวางระบบ เพื่อปูพื้นฐานสร้างตลาดให้กับสินค้าใหม่ โดยเฉพาะอิฐมวลเบาสีที่จะสร้างผลกำไรเพิ่มถึง 35% ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในเวลม่เกิน 1 ปี นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการ 2-3 ราย เช่น บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เพื่อหน่ายและติดตั้ง คานรั้วสำเร็จรูป

จอมทรัพย์กล่าวว่า บริษัทมีแผนเพิ่มยอดขายจากตลาดต่างจังหวัด ซึ่งให้ผลกำไรดีกว่าตลาดในกทม. โดยทำตลาดร่วมกับเอเย่นต์รายใหญ่ในหัวเมืองหลัก เพื่อผลักดันสัดส่วนยอดขายให้เพิ่มขึ้นจาก 40% เป็น 50% ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับบริการหลังการขายควบคู่ไปด้วย ซึ่ง จอมทรัพย์ การันตีว่า ซุปเปอร์บล็อก เป็นบริษัทเดียวในตลาดอิฐมวลเบาที่ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต จำหน่าย และให้บริการหลังการขาย

อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า ซุปเปอร์บล็อก มีเป้าหมายผลักดันส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 30-40% โดยเปิดโรงงานแห่งที่ 3 ที่พังงา ซึ่งมีกำลังการผลิต 1.5 ล้าน ตร.ม.ต่อปีมูลค่าการลงทุน 150 ล้านบาท และเน้นขยายไลน์สินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความหลากหลายและครอบคลุมฐานลูกค้าทุกกลุ่ม


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.