แบงก์จีอีฯดีเดย์เปิดตัวต้นปีหน้า รุกบริการครบวงจร-ตั้งเป้าโต20%


ผู้จัดการรายวัน(9 พฤศจิกายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย พร้อมเปิดตัว ม.ค.ปี 2549 เดินหน้าลุยธุรกิจรายย่อยทุกผลิตภัณฑ์ จับฐานลูกค้าเดิม เจาะกลุ่ม ลูกค้าใหม่ เพิ่มธุรกิจสินเชื่อบ้าน เอสเอ็มอี บริการธุรกรรมทางการเงินครบวงจร วางเป้าธุรกิจแบงก์เติบโตปีหน้า 20% ระบุเตรียมความพร้อม เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5 พันล้านบาท อัปเกรดระบบไอทีใช้งบกว่า 2 พันล้านบาทสนับสนุนการให้บริการแก่ลูกค้า เสริมประสิทธิภาพเล็งเปิดสาขากรุงเทพฯ ต่างจังหวัด เพิ่ม 9 สาขา

นายพิริยะ วิเศษจินดา ประธาน จีอี มันนี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จีอีพร้อมที่จะก้าวขึ้น เป็นธนาคารจีอี มันนี่ เพื่อรายย่อย โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอเปิดดำเนินธุรกิจได้ภายในเดือนมกราคมปี 2549 โดยที่ผ่านมาจีอีได้เตรียมพร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว ของบริษัทเงินทุน จีอี มันนี่ จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้เมื่อมีการ จัดตั้งธนาคารจีอี มันนี่ฯ มีทุนจดทะเบียนเป็น 5,304 ล้านบาท จากเดิมที่มีทุนจดทะเบียนประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ทางกระทรวงการคลังได้กำหนดไว้ถึง 20 เท่า

สำหรับทุนจดทะเบียนของธนาคาร จีอี มันนี่ จำนวน 5,000 ล้านบาท ตามเกณฑ์ของกระทรวง การคลัง สามารถดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์อย่างครบวงจรได้เลย ซึ่งเบื้องต้นธนาคารมีนโย-บายที่จะคงดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับรายย่อย ตามฐานเดิมที่มีโครงสร้างธุรกิจสินเชื่อรถยนต์เป็นธุรกิจที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดคือ 65% ที่เหลือ 35% แบ่งสัดส่วนประมาณ 10-15% เป็นธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อ เพื่อซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ

หลังจากการเปิดดำเนินการเป็นธนาคารเรียบร้อยในปีหน้าแล้ว ธนาคารจะมีการขยายพอร์ต ในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และธุรกิจ สินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวถือว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มีโอกาสที่จะขยายตัวสูง

นอกจากเรื่องทุนจดทะเบียน แล้ว จีอียังมีการลงทุนด้านไอที เสริมความแข็งแกร่ง โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท เพื่อวางระบบ Core Banking System การขยายขอบข่ายและขีดความสามารถของ Call center ในการให้บริการลูกค้าที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น การสร้างศูนย์ข้อมูล (Data Centre) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างและจัดเก็บฐานข้อมูลลูกค้า และการอัปเกรดเทคโนโลยีบริหารความเสี่ยงและระบบ CRM (Customer Relationship Management)

การอัปเกรดเทคโนโลยี จะช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าที่มีความซับซ้อนได้รวดเร็วและละเอียดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อ เพื่อผู้บริโภคที่มีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนในปีนี้เพราะจำนวนผู้ให้บริการที่เพิ่ม ขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความพร้อมในการขยายธุรกิจรวดเร็ว เทคโนโลยีไอทีกลยุทธ์ CRM และนโยบายบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพจะเป็น 3 ปัจจัยหลัก ที่ช่วยให้บริหารความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว

สำหรับการเตรียมพร้อมในด้านอื่นๆ เพื่อทำธุรกิจธนาคารราย ย่อยนั้นมี 3 ปัจจัยหลัก คือ

1.การสร้างระบบ Core Banking ถือเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจ ธนาคาร ที่จะต้องมีระบบไอทีที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินพื้นฐานได้ ซึ่งครอบคลุมการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า การรับฝากเงิน การทำธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ธนาคาร การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การอนุมัติทางออนไลน์ ระบบเคลียริ่งเช็ค และระบบการบริหาร จัดการข้อมูล

2.งานด้านการสร้างเครือข่าย สาขา ประกอบด้วย การออกแบบ สาขาต้นแบบและสำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การขยายสาขาทั้งใน กรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเบื้องต้นมีแผนที่จะเปิดสาขาในปีหน้า 9 สาขา ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต กรุงเทพฯ และตามจังหวัดใหญ่ๆในแต่ละภาค

3. ด้านการจัดสรรฝึกอบรม บุคลากร ซึ่งมีการพัฒนาอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปิดดำเนินธุรกิจธนาคารน่าจะมีพนักงานประมาณ 300 คนในปีแรก ผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารจะนำเสนอและให้บริการเป็นบริการเงินฝาก สินเชื่อประเภทต่างๆ เช่น สินเชื่อบุคคลจีอี มันนี่ เพอร์ซัลนัลเครดิต สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเอสเอ็มอี

บริการธุรกิจนายหน้าประกัน ชีวิตและประกันวินาศภัย (Bancassurance) ซึ่งจะเน้นบริการผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ (คาร์ฟอร์แคช) สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ สินเชื่อรถยนต์สำหรับบริษัท สินเชื่อคงคลังสำหรับดีลเลอร์รถยนต์ สินเชื่อเงินสดควิกแคช และสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระเฟิร์สช้อยส์และเพาเวอร์บาย โดย มีเป้าหมายที่จะขยายพอร์ตในปีหน้าเติบโตประมาณ 20% จากในปีนี้ธุรกิจเติบโตประมาณ 25%

"จีอี มันนี่ มีการลงทุนและขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจร่วมทุนกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตั้ง บริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่บริหารบัตรเครดิตกรุงศรี จีอี และบัตรเครดิตโฮมโปร วีซ่า บริษัทเจเนอรัล คาร์ดเซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งบริหารบัตรเซ็นทรัลและ บัตรเซ็นทรัล มาสเตอร์การ์ด และ บริษัทเทสโก้ คาร์ดเซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งให้บริการบัตรเทสโก้ โลตัส วีซ่า"

สำหรับการประกอบธุรกิจช่วง 9 เดือน ธุรกิจของจีอี มันนี่ ในไทยเติบโตโดยรวมประมาณ 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของ ปีที่ผ่านมา คิดเป็นพอร์ตสินเชื่อประมาณ 145,000 ล้านบาท โดย ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ยังเป็นพอร์ต ใหญ่ที่สุดประมาณ 65% ที่เหลือจะเป็นธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ ซึ่งคาดว่าทั้งปีอัตราการเติบโตน่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 9 เดือนคือ 25%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.