The First @ London

โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อมาถึงลอนดอน เป็นฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้หลากสีสันปลิวลอยคว้างๆ ก่อนละลิ่ว ลงสู่ดินใน Hyde Park คิดถึงสถานที่อบอุ่น ขณะจากมาเดินตากฝนและลมหนาวต่ำ กว่า 10 องศาเซลเซียสในบรรยากาศเหงาๆ วันอาทิตย์ที่ผู้คนไปโบสถ์ ร้านรวงปิดบางส่วน ยกเว้นในบางพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไป เช่น Oxford Street, ย่าน Soho รวมถึงย่านตลาดนัดวันอาทิตย์คล้ายๆตลาดจตุจักรของไทย ที่ Apple Market ใน Covent Garden ซึ่งเทศบาลเมืองเวสมินเตอร์เพิ่งฉลองครบรอบ 10 ปีไปอย่างมีชีวิตชีวาทั้งสินค้า ดนตรี อาหารและ สันทนาการที่จัดขึ้นตลอดปี

นอกจากนี้ที่ covent garden ยังมีร้านหนังสือที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ดึงดูดใจ อย่างเช่น Waterstone's กับพื้นที่ขนาด ใหญ่สำหรับหนังสือแนวศิลปะ, Penquin Bookshop, Stanford's ที่โด่งดังด้าน แผนที่ และหนังสือท่องเที่ยว แต่ละร้านก็มีเอกลักษณ์ของตน ซึ่งเป็นเสน่ห์เย้ายวนของสังคมอังกฤษ นอกเหนือจากศิลปะการ ละคร (theatre) และวัฒนธรรมเข้า Pub

ในสายตา "คนนอก" คนหนึ่งที่ไม่ใช่ฐานันดรที่สี่ อังกฤษมีสิ่งที่น่าสนใจมาก เพียงระยะเวลาที่อยู่ไม่ถึงสัปดาห์ ได้สัมผัส กับภาพผู้ดีและไพร่อังกฤษ ตั้งแต่เช้าจรด ค่ำ โดยทุกเช้าจะเห็นข่าวหน้า 1 คดีอื้อฉาว เกี่ยวกับ Burrell อดีต Butler ประจำราชสำนักอังกฤษที่ยักยอกสมบัติของเจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าฟ้าชายชาร์ล และวิลเลียมไป เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี Golden Jubilee ฉลอง การครองราชย์ 50 ปีใน Queen Elizabeth เสียด้วย

พอออกจากโรงแรมขณะเดินทางด้วยรถแท็กซี่ทรงโบราณ ก็ได้ข่าวสัปดาห์หน้าสหภาพคนงานรถไฟใต้ดินจะประท้วง ลุงคนขับแท็กซี่บ่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจอังกฤษที่ต้องพึ่งการค้ายังไม่ดี พูดถึงแขกต่างถิ่นที่มาแย่งค้าขาย เช่น มีพ่อค้าแขกตามร้านขายของที่ระลึกนักท่องเที่ยว ส่วนร้านย่าน Oxford Street ติดป้ายลดราคา 30% ก่อนเวลาที่เคยเป็น เพื่อดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวชอปปิ้ง

แต่เมื่อไม่อยากชอปปิ้ง ก็หนีไปหาประสบการณ์นอกเมืองลอนดอนด้วยรถไฟ เพียงหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็ถึงเมืองมหาวิทยาลัย Oxford สถานศึกษาที่ชนชั้นปกครองของอังกฤษภาคภูมิใจในชื่อเสียงเกียรติภูมิของศิษย์เก่า Oxonians ที่มีชื่อเสียงเป็นกษัตริย์ 5 พระองค์ อีก 40 คน ได้รับรางวัล Nobel ส่วน 25 คนได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นอกเหนือจาก 9 ท่าน ที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง (Order of Merit) และเป็น Saint 3 องค์, เป็น Archbishops 85 องค์ และพระ Cardinals 18 องค์

เป็นที่น่าสงสัยว่า ภายใต้ความยิ่งใหญ่แห่งเกียรติยศเหล่านี้ มหาวิทยาลัยแห่ง นี้ได้สอนลูกหลานตัวเองให้มีจิตวิญญาณ วัฒนธรรมและภาษาที่จะเป็น "คนของประชาคมโลก" มากกว่าความภาคภูมิใจในความเป็น "คนอังกฤษ" หรือไม่?

ความแข็งขืนที่จะรักษาเงินสกุลปอนด์ไว้ ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพ ยุโรปใช้เงินสกุล Euro ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณของชาวอังกฤษได้ดี

เมื่อนั่งรถไฟกลับจาก Oxford ตอน สามทุ่ม แล้วมาต่อรถไฟใต้ดินเข้าเมือง แถวๆ Soho วิถีชีวิตกลางคืนเริ่มต้นที่ผับ Waxy Ožconner สัมผัสวัฒนธรรมกินดื่มที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจในบรรยากาศตกแต่งภายในแบบเสียดสี Church ปากทางเข้ามีห้องสารภาพบาปเล็กๆ ถัดจากสตูลบาร์ที่เขียนว่า Church Bar เมื่อแหงน ขึ้นมามองตะเกียงเก่าแก่ที่สะท้อนเงากิ่งไม้ ภายใต้แท่นพระเทศน์ ไม่มีคนชั่วคนดีในเวลานั้นเลย

กว่าจะออกจากผับเกือบเที่ยงคืนหรือประมาณหกโมงเช้าของประเทศไทย อากาศหนาวลมแรง บนถนนที่เปียกชื้น มีคนขับแท็กซี่รอบดึกจอดรอนักท่องเที่ยว มีเกย์เดินเป็นคู่ๆ ตามซอกตึก ได้เห็นชีวิต ผู้ยากไร้เร่ร่อนที่มาจากยุโรปตะวันออกขดตัวซุกอยู่ริมบาทวิถี บางคนเดินมาหาแล้ว ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "The Big Issue" ให้ช่วยซื้อในราคา 1.20 ปอนด์ โดยเธอบอกว่าราคาต้นทุนซื้อมาเพียง 50 เพนนีเท่านั้น

ผลิตผลทางความคิดของกลุ่มคน จรจัดที่เริ่มทำในรูปธุรกิจหนังสือนี้ เริ่ม ตั้งแต่ปี 1991 เพื่อนำรายได้มาจุนเจือคนทุกข์ไร้บ้าน homeless เนื้อหาเป็นงานสะท้อนเสียงทัศนะของผู้ยากไร้ต่อปัญหาสังคม เช่น กรณีการต่อสู้ทางกฎหมายจนชนะสมาชิกสภาท้องถิ่น Peterborough ที่พยายามห้ามคนจรจัดขาย The Big Issue นี้ อ้างว่าก่อปัญหาน่ารำคาญ แต่ลึกๆ คือ ปัญหาสังคมชนชั้นนั่นเอง!

ฉากชีวิตหลากหลายบน Street of London ยังไม่จบ เมื่อนั่งแท็กซี่กลับมาสู่โรงแรม Grange City Hotel ที่ตั้งใกล้ Tower Bridge สัญลักษณ์เมืองลอนดอน

ราตรีนั้นคนยังหลับไม่ลง พระจันทร์ เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 จึงชวนกันเดินเล่นตากลมที่สะพาน Tower Bridge ที่ เก่าแก่อายุถึง 108 ปี ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเห็นถึงลายละเอียดอันวิจิตรของหอคอยสถาปัตย กรรม Neo-Gothic สมัยควีนวิกตอเรีย ตัวสะพานสามารถยกขึ้นได้เมื่อเรือใหญ่แล่นผ่าน ขณะที่แต่ละ Tower ก็มีลิฟต์พา คนขึ้นไปสูงแล้วมีทางเดินเหนือถนน เพื่อชมวิวเหนือแม่น้ำเทมส์ได้ สามารถมองเห็น Tower of London ปราสาทที่รายรอบด้วย กำแพงสูง ภายในมีเรื่องราวลี้ลับมากมาย เล่าขานกันเป็นร้อยๆ ปี นับจากสร้างเป็นที่ประทับของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 3 (1216-72) เมื่อเดินผ่านยามวิกาล เงาตะคุ่มๆ ของ Bloody Tower สร้างบรรยากาศวังเวง ชวน ให้นึกถึงการลอบปลงพระชนม์ยุวกษัตริย์ King Edward V และพระอนุชาที่ตรงนี้

นี่กระมังคงทำให้นักเขียนอย่าง J.K.Rowling ได้รับแรงบันดาลใจจากมนต์ขลังของปราสาทในอังกฤษ มาสร้างเป็นนวนิยายขายดีทั่วโลกอย่าง Harry Potter ราวกับว่าภายใต้ความน่าเบื่อหน่ายของความเก่าแก่ทึมทึบของอังกฤษ มันซ่อนความตระการทางปัญญาไว้

ใช่เลย..อังกฤษมีของดีอยู่มาก ที่ตัวเองน่าซื้อไปเป็น "ลอนดอนรำลึก" ไม่ใช่ชุดน้ำชาจากห้าง Harrod ไม่ใช่รองเท้าของ Clark ไม่ใช่เสื้อผ้าของ Laura Ashley แต่ มันคือ" หนังสือแผนที่ "LONDON A-Z" และ DVD สารคดีของ BBC "The Blue Planet" ที่ตระการปัญญายิ่งนัก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.