|
"คลัง" ปัดฝุ่นพัฒนาที่ดินหมอชิตเก่า ผุดอพาร์ตเมนต์ ขายมนุษย์เงินเดือน
ผู้จัดการรายวัน(4 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ขุนคลัง" มอบนโยบายผุด อพาร์ตเมนต์ บริเวณ สถานีขนส่ง เพิ่มความสะดวก-ลดรายจ่ายประชาชนรายได้ปานกลาง ใน กทม.พร้อมเร่งโครงการพัฒนาที่ดินหมอชิตเก่าหลังยืดเยื้อเป็น 10 ปี "อธิบดีกรมธนารักษ์" เผยล่าสุดอยู่ที่คกก.กลั่นกรอง เตรียมเรียกหารือ อีกรอบภายในเดือนนี้ เล็งให้สิทธิ์ผู้ชนะประมูลรายเก่าตกลงเงื่อนไขก่อน หากครม.อนุมัติเดินหน้าโครงการ
นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับผู้บริหารกรมธนารักษ์ ว่า ได้มอบนโยบายว่า โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณหมอชิตเก่าซึ่งกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการนั้น หากมีการพัฒนาที่บริเวณใกล้เคียงให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนที่มีรายได้ปานกลางได้ ก็ควรจะดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม ให้มองในภาพ กว้างของโครงการระบบขนส่งมวลชนไม่เฉพาะโครงการนี้ว่า นอกจากจะพัฒนาที่ในเชิงพาณิชย์ เช่น ร้านค้า หรือศูนย์การค้าแล้ว ควรที่จะมีการพัฒนาเรื่องที่อยู่ อาศัยด้วยเช่น การสร้างอพาร์ตเมนต์ เพื่ออำนวยความสะดวก และลดต้นทุนในการเดินทางของชาวกรุงเทพฯ เพราะโดยปกติแล้ว การดำเนินโครงการจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเวนคืนที่ดินอยู่แล้ว ดังนั้นควรจะใช้ที่ดินดังกล่าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ใน ส่วนของโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุบริเวณหมอชิตคงจะไม่มีการ สร้างอพาร์ตเมนต์เพราะโครงการนี้ได้มีการกำหนดแผนผังไว้แล้ว ดังนั้นถ้าจะมีการสร้างที่อยู่อาศัยดังกล่าวตามนโยบายรมว.คลัง ก็คง เป็นโครงการอื่นๆ ที่จะดำเนินการในอนาคต
ส่วนความคืบหน้าโครงการดังกล่าว ล่าสุดได้มีการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ชุดที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานแล้ว โดยคณะกรรมการฯ ได้ให้กรมพิจารณาใน 2 ประเด็นคือ 1.จะมีการย้ายสถานีขนส่งหมอชิตปัจจุบัน(ถนนกำแพงเพชร)กลับมาอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิตเก่า (จตุจักร) หรือไม่หากโครงการพัฒนาที่ดินบริเวณหมอชิตเก่าดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และ 2.ให้ดูภาพรวมระบบขนส่งโดย รวม โดยคณะกรรมการฯ จะเรียกกรมหารืออีกครั้งภายในเดือนนี้
ทั้งนี้ หากที่ประชุม ครม. เห็นชอบให้มีการพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวก็จะต้องพิจารณาว่าจะให้สัมปทานกับผู้ชนะการประมูลรายเดิม คือ บริษัทบางกอก เทอร์มินอล จำกัดในปัจจุบัน หรือเปิดประมูลให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามารับสัมปทานแทน
อย่างไรก็ตาม คงจะเปิดโอกาสให้ผู้ชนะการประมูลรายเก่าได้เข้ามาเจรจาก่อนโดยจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเจรจาเงื่อนไขโครงการกันอีกครั้งเพราะโครงการนี้เป็นโครงการเก่าที่ค้างมาประมาณ 10 ปีแล้วดังนั้นอาจจะต้องมีการปรับรายละเอียดเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ค่าชดเชยที่ต้องจ่ายให้กับการรถไฟ หรือค่าเช่าที่ราชพัสดุ เป็นต้น โดยหากสามารถตกลงเงื่อนไขกันได้ ก็จะให้ดำเนินโครงการต่อได้เลยไม่ต้องประมูลใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทบางกอกฯได้แสดงความประสงค์ว่ายังต้องการเป็นผู้ดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่องทั้งอย่างเป็นทางการและทางวาจา โดยล่าสุดได้ส่งหนังสือแสดงความพร้อมมายังกรมเมื่อช่วงต้นปี 2548 ที่ผ่านมา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|