|
ขีดเส้น1เดือนโออิชิต้องลดราคา ขู่นำเข้า"กกร."เป็นสินค้าควบคุม
ผู้จัดการรายวัน(3 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"ปรีชา" ขีดเส้น 1 เดือน ให้โออิชิพิจารณาปรับลดราคาชาเขียว ขู่ซ้ำ หากลดไม่ได้ไม่เป็นไร แต่อาจเสนอให้เป็นสินค้าควบคุมหากเห็นว่าค้ากำไรเกินจริง เสี่ยตันโอดยอดขายร่วงแล้ว 50% หลังมีข่าวถูกบีบลดราคา ส่วนจะปรับลดราคาได้หรือไม่ขอไปดูก่อน โตเซนฟุ้งลดราคาเหลือ 15 บาทยอดขายเพิ่มขึ้น 4% ขณะที่โมชิเตรียมหั่นราคาเหลือ 15 บาทเช่นกัน
นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เข้าพบเพื่อชี้แจงต้นทุนในการผลิตชาเขียวโออิชิที่ตั้งราคาจำหน่ายขวดละ 20 บาท เมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากทางกระทรวงฯได้ขอความ ร่วมมือให้มีการปรับลดราคาลงมา เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าราคาที่จำหน่ายขวดละ 20 บาทนั้นสูงเกินไป โดยแจ้งว่ามีเวลาให้ 1 เดือนที่จะให้คำตอบกลับมา ซึ่งนายตันได้รับข้อเสนอไปพิจารณาแล้ว
"ผมบอกไปว่า ถ้าลดราคาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพบว่ามีการเอากำไร เกินควรผมจะเสนอให้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณาให้นำเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุม และเมื่ออยู่ในบัญชีควบคุม แล้วจะมีมาตรการออกมาบังคับใช้ทำ ให้การจะตั้งราคาจำหน่าย การเคลื่อนย้ายสินค้า วัตถุดิบจะต้องแจ้ง และต้องได้รับความเห็นชอบก่อน" นายปรีชากล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการหารือนั้น นายตันได้ยืนยันว่าไม่สามารถลดราคาลงมาได้ เนื่องจากหากลดราคาลง จะขาดทุนทันที ซึ่งนายปรีชาได้โต้แย้งว่า ที่ผ่านมาบริษัทไม่ต้องเสียภาษีต่างๆ เนื่อง จากได้รับการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และระบุอีกว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลัง อยู่ระหว่างปรับปรุงอัตราภาษีสรรพสามิต และชาเชียวเป็นหนึ่งในรายการสินค้าฟุ่มเฟือย จึงเข้าข่ายที่ต้องเสียภาษีสรรพ-สามิตในอัตรา 22% ของยอดขายปลีก ทำให้นายตันมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ขณะเดียวกัน นายปรีชาเสนอว่าหากไม่สามารถ ปรับลดราคาลงทันที 5 บาทได้ก็ให้ทยอย ปรับลดคราวละ 1-2 บาทก็ได้ ซึ่งนายตันก็รับไปพิจารณา
นอกจากนี้ นายตันยังชี้แจงว่า บริษัท ได้ปรับลดราคามาแล้วในช่วงนี้ โดยขาย2 ขวด 30 บาท ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น- อีเลฟเว่น และในวันที่ 16 พ.ย.จะจัดกิจกรรมดังกล่าวร่วมกับเทสโก้ โลตัส แต่นายปรีชาระบุว่า เป็นการจัดโปรโมชันชั่วคราว ไม่ใช่การปรับลดราคาเพื่อผู้บริโภค โดยรวม
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการชี้แจงกันเสร็จ นายตันได้กล่าวว่าต้นทุนต่อขวดอยู่ที่ 10-12 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ แล้วมีกำไรสุทธิขวดละ 2 บาท หากปรับโครงสร้างราคาตอนนี้จะขาดทุนทันที โดยเฉพาะในช่วงที่กระทรวงพาณิชย์ ออกมากดดันให้ผู้ประกอบการชาเขียวปรับลดราคาลง ยอดขายของบริษัทฯลดลงทันทีประมาณ 50% โดยมียอดขายประมาณวันละ 5 แสนขวด จากก่อนหน้านี้วันละ 1 ล้านขวด
ทั้งนี้ โออิชิ เป็นผู้นำตลาดใน เครื่องดื่มประเภทชาเขียว โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 50-60% จากมูลค่าตลาดรวมปีละ 6,000 ล้านบา
วันเดียวกันนี้ พล.ร.ต.พิศิษฐ์ กลิ่น-เฟื่อง ประธานที่ปรึกษา บริษัท ยูโรเปี้ยน ฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียว "โตเซน" ได้เข้าพบนายปรีชาเพื่อยืนยันว่าบริษัทจะยังคงจำหน่ายชาเขียวขนาดบรรจุ 500 ซีซี ขวดละ 15 บาทต่อไป พร้อมกับระบุว่า ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมายอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 4% มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 5-6% กำลังการผลิตเดือนละ 30 ล้านขวด ต้นทุนอยู่ที่ขวดละ 7-8 บาท
นอกจากนี้ พล.ร.ต.พิศิษฐ์ยังแจ้งอีกว่า ได้รับการยืนยันจากนายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียว "โมชิ" ว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการปรับลดราคาจำหน่ายลงมาอยู่ที่ขวดละ 15 บาท จากที่ขายอยู่ 20บาท สำหรับสินค้าล็อตใหม่ที่จะออกวางจำหน่ายด้วย
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|