"For the last ten years or so Patrick has been pretending to be
serious by living the double life of strategist for Orange and evening
lap dancing in the elephant pen of London Zoo"
ข้อความเสียดสีตัวเองอย่างน่าขันของนักวางกลยุทธ์หนุ่มชาวอเมริกันวัย 40
อย่าง Patrick Harris ไม่ต่างจาก ตัวจริงที่ได้เจอ ไม่ว่าในเวลางานที่เขาต้องมาให้ความรู้แก่
นักข่าว ในฐานะผู้อำนวยการสายงาน Creativcity & Techneurology ของ Orange
SA ก่อนวันแถลงเปิดตัว The Orange SPV หรือในเวลาที่ไม่ได้นัดหมาย
โดยประวัติ Patrick ถือเป็นหนึ่งในทีมผู้บุกเบิกและ ก่อตั้ง Orange Managing
Integrated Businesses (MIB) ตั้งแต่ปี 2537 เขาจบปริญญาโทสาขา MBA จากมหาวิทยาลัย
Kingston ที่อังกฤษ หลังจากจบปริญญาตรีจาก Louisiana State University ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว
งานของ Patrick ต้องเดินทางไกลไปทั่วทุก Orange ในโลกซึ่งมีอยู่ 21 ประเทศ
เพื่อหลอมสมองและหัวใจทั้งหมดให้เข้าใจถึงคุณค่าอันแข็งแกร่งของ Orange ใน
การดำเนินธุรกิจ
ภายในห้องสัมมนาเล็กๆ ชั้น 3 ที่โรงแรม The Churchill Intercontinental
แถวๆ Portman Square เขาเริ่มต้นอย่างน่าสนใจ เมื่อดึงทุกคนให้ร่วมสนุกบอกชื่อ
แบรนด์ดังๆ และดึงเข้าสู่ประเด็นแบรนด์ Orange ซึ่งเขาถามว่าคุณนึกถึงอะไรเมื่อเห็นแบรนด์
Orange?
คำตอบที่ได้มีหลากหลาย ซึ่ง Patrick Harris สรุปไว้ในหัวข้อสนทนา "The
Orange Journey" ว่ามีจุดเริ่มต้น, ปรัชญาใหม่, Business Model ใหม่
และความสำเร็จระดับโลก ที่กว่าจะได้มาต้องรบด้วยการติดอาวุธทางปัญญาและเทคโนโลยีที่
customize แต่ละกลุ่มลูกค้า เพื่อชิง Market Value ที่สร้างความพึงพอใจ โดยผลสำรวจปี
2002 ของ J.D.Power & Association ผลออกมาว่า Orange เป็นอันดับที่ 1
ตามด้วย Vodafone, T-Mobile และ O2
"ภายใต้ Business Model ใหม่ที่เน้นการสร้างแบรนด์ที่มีคุณค่า คุณภาพคนบริการกับนวัตกรรมใหม่ๆ
ความเป็นเลิศทางเน็ตเวิร์คที่ลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างความพึงพอใจที่ดีกว่าและเร็วกว่าให้แก่ลูกค้าได้เต็มที่"
เขากล่าว
ห้วงความคิดตอนนั้น Orange ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ แข็งแรงมากจนสามารถสะท้อนบุคลิกแนวคิดหลักของสินค้าได้
ดีที่สุด เนื่องจากความหมายแฝงด้วยความหวัง ความสนุกสนาน มีอิสระ เปิดเผย
ทันสมัย และมีพลังแบบ "Wirefree" และ คำโฆษณาว่า "Future
Bright, Future Orange"
ตลกร้ายของ Patrick ที่เขาเล่าให้ฟังในวันนั้นว่า วันหนึ่ง Charlie พนักงานของ
Orange ซึ่งไม่เคยมีโทรศัพท์บ้านเลย เกิดเหตุแบตเตอรี่มือถืออ่อน เขาจึงต้องเสียบสายที่ชาร์จไฟ
ลูกสาว 3 ขวบเห็นแล้วก็สงสัยมากๆ เธอจึงว่าพ่อ "Don't be silly Daddy,
Phones don't have wires" (ฮา...)
เรื่องนี้น่าจะจบตรงนี้แต่วันต่อมาเผอิญไปส่ง Nicole Orr ซึ่งเสร็จภารกิจพานักข่าวไทยไปเยี่ยมชม
Orange@home ที่Hartford แล้ว นักข่าวก็ตามขึ้นไปขอชมสำนักงานใหญ่ของ Orange
ที่ George Street โดยไม่มีอยู่ในกำหนดการ ก่อให้เกิดความปั่นป่วนต่อเจ้าภาพพอควร
แต่ Patrick กลับแก้ไขให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยสร้างความเป็นกันเองพาชมสำนักงานและชวนนักข่าวเล่นกีตาร์ตามใจชอบ
เท่าที่เห็นและเป็นอยู่ ภายในห้องทำงานของทีมงาน Think Tank มีบรรยากาศอิสระสร้างสรรค์
โดยมีโต๊ะกลมขนาดใหญ่สำหรับคน 10 คน ไม่มีโต๊ะประจำของแต่ละคน ส่วนที่ผนังมีไวท์บอร์ดสำหรับเขียนแผนงานและความคิด
แต่ที่เห็นเด่นคือเสาที่เต็มไปด้วยลายเซ็นคนดังนานาชาติเต็มไปหมด
ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นที่มีเก้าอี้สีสดใสสามตัว ขณะที่ผนังติดนาฬิกาเดินถอยหลัง
ที่พื้นมีกล่องขนาดใหญ่ใส่ของเล่น Lego ที่เป็นอุปกรณ์ช่วยกระตุ้นพลังสร้างสรรค์
และอารมณ์ อันวิเศษ หลังจากเดินดูโดยรอบๆ ห้องแล้ว ก็ร่ำลากันโดยเร็ว
"Welcome to Planet Zircon" .....สวัสดี.....