|
มิสชา บุกตลาดเครื่องสำอางไทยผุดโรงงาน-ขายแฟรนไชส์-เพิ่มชอป
ผู้จัดการรายวัน(2 พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เครื่องสำอางมิสชาลงทุนกว่า 100 ล้านบาทบุกตลาดไทย หลังเทรนด์เกาหลีฟีเวอร์แรงต่อเนื่อง ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ที่มีครบไลน์ และราคาไม่แพงถูกกว่าแบรนด์ดังอย่างเอสเต้ฯ 8-10 เท่า เผยช่วงแรกเน้น สร้างแบรนด์และโปรโมตสินค้าก่อนล่าสุดบริษัทแม่ดึง "เรน" เป็นพรีเซ็นเตอร์ โฆษณาผ่านโปสเตอร์หวังเจาะกลุ่ม วัยรุ่น ขณะที่ปีหน้าเดินเครื่องเต็มสูบขยายชอปพร้อมขายแฟรนไชส์ ตั้งเป้า เปิดชอปรวมกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ คาดยอดขายชอปละ 15 ล้านบาทและจำนวนสมาชิกก้าวกระโดดสูงกว่า 5 แสน ราย
นายคิม อิน โยบ ประธานกรรมการ บริษัทแม็กซ์ แอนด์ ไมท์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน"ว่า ปัจจุบันกระแสวัฒนธรรมของเกาหลีกำลังได้รับความนิยมจากคนไทย อีกทั้งบริษัทฯ เล็งเห็นช่องว่างทางตลาดเครื่องสำอางไทยยังมีโอกาสเติบโตสูงและคาดว่าตลาดจะใหญ่กว่าเกาหลี เนื่อง จากในไทยมีอากาศร้อนและคนไทยยังไม่ค่อยใช้ครีมบำรุงผิว ดังนั้น บริษัทฯ จึงใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการนำเข้าเครื่องสำอางเกาหลี ภายใต้แบรนด์ "มิสชา (Missha)" เข้ามาทำตลาดในไทย โดยชูจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ในเรื่องราคาไม่แพง, คุณภาพดี และผลิตภัณฑ์มีครอบคลุม
การทำตลาดและสร้างแบรนด์มิสชา ในประเทศไทยจะแตกต่างจากประเทศอื่นที่จะเน้นการบอกแบบปากต่อปากในช่วงการเริ่มต้นเปิดตลาด โดยที่ไทยจะเริ่มต้นทำตลาดด้วยการโปรโมตแบรนด์ และผลิตภัณฑ์มิสชาด้วยการแจกสินค้าให้สมาชิกทดลองใช้ รวมถึงสื่อผ่านหนังสือพิมพ์, นิตยสาร และผ่านโปสเตอร์ ซึ่งล่าสุดทางบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ติดต่อ "เรน" นักร้องและนักแสดงของเกาหลีที่โด่งดังจากละครฟูล เฮาส์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ในการโฆษณาผ่านโปสเตอร์ ซึ่งในไทยคาดว่าจะเริ่มนำโปสเตอร์มาโฆษณาเพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นได้ภายในเดือนนี้
ผลิตภัณฑ์ของมิสชามีกว่า 900 รายการ โดยแบ่งออกเป็น 11 ไลน์สินค้า อาทิ สกินแคร์และเมกอัพ, ผลิตภัณฑ์รักษาสิว, อโรมา บิวตี้ สกินแคร์,โรส วอเตอร์ และวีต้า ฟิล เป็นต้น โดยในแต่ละเดือนจะนำเข้าโปรดักต์ใหม่กว่า 10 รายการ ซึ่งระดับราคาของมิสชาจะเฉลี่ย ประมาณ 85-1,000 บาท ซึ่งหากเทียบกับแบรนด์เอสเต้ ลอเดอร์ในบางโปรดักต์ มิสชาจะถูกกว่า 8-10 เท่า
ปีหน้าจะมีเอฟทีเอไทยและเกาหลี โดยสิ้นปีหน้าคาดว่าภาษีจะลดลง 20% ซึ่งจะทำให้ราคาของมิสชาถูกอีก 20% และจะส่งผลให้ตลาดรวมเครื่อง สำอางโตอีก 20% ตามไปด้วย อีกทั้งในปีหน้าบริษัทฯมีแผนตั้งโรงงานบรรจุแพกเกจในไทย ส่วนวัตถุดิบนำเข้าจากเกาหลี
ทั้งนี้หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวมิสชาไม่นานพบว่ามีจำนวนสมาชิกกว่า 1,000 ราย โดยบริษัทฯคาดว่าจำนวนสมาชิกในปีหน้าจะมียอดสมาชิกสูงถึง 5 แสนราย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักจะเน้น ไปที่ผู้หญิงคิดเป็นสัดส่วน 90% ก่อน ที่จะเปลี่ยนเป็น 70% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ในส่วนของค่าใช้จ่ายของสมาชิกต่อการซื้อ 1 ครั้งพบว่ามีจำนวน 500 บาท
ปัจจุบันชอปของมิสชาในไทยมี 3 แห่ง ได้แก่ ซีคอน สแควร์, ห้วยขวาง และสีลม โดยภายในปีนี้คาดว่าจะเปิดให้ครบ 10 แห่ง ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 10 ล้านบาท สำหรับปีหน้าบริษัทฯตั้งเป้าจะขยายสาขาให้ครบ 50 แห่งทั่วประเทศ โดยจะมีทั้งการเปิดชอปเองและการขายแฟรนไชส์ ซึ่งบริษัทฯ มีการควบคุมผ่านทางระบบแฟรนไชส์ โอเปอเรชัน แมนนวล ซึ่งการขาย แฟรนไชส์เครื่องสำอางกำลังเป็นที่นิยม ขณะที่ไทยถือเป็นเรื่องใหม่
สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯ ยังไม่เน้น เนื่องจากต้องการสร้างแบรนด์ ให้ติดตลาดก่อน ขณะที่ปีหน้าบริษัทฯคาดว่าแต่ละชอปจะสามารถทำรายได้ให้แห่งละ 15 ล้านบาท โดยบริษัทฯคาดว่ามิสชาจะมีส่วนแบ่งทางการตลาด 5% จากตลาดรวมเครื่องสำอางกว่าหมื่นล้านบาทได้ภายใน 5 ปี
ปัจจุบันชอปมิสชาที่เกาหลีมีกว่า 300 สาขา โดยมิสชามีส่วนแบ่งทาง การตลาด 5% จากตลาดรวม 3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ต่างประเทศมิสชามี กว่า 14 ประเทศหรือ 40 สาขา อาทิ อเมริกา, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มองโกเลีย, ไทย และจีน เป็นต้น โดยปีหน้าบริษัทแม่ตั้งเป้าจะเปิดสาขาในต่างประเทศเพิ่มเป็น 100 สาขา โดยเล็งเปิดตลาดในประเทศ อาทิ มาเลเซีย, อังกฤษ, ตุรกี, แคนาดา, อเมริกาใต้และเอเชียกลาง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|