|
ไก่กับไข่
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"เพราะลูกค้าต้องการอะไรมากกว่าเป็นอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ hi-speed internet เพียงอย่างเดียว แต่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในทุกๆ สถานที่แม้จะไม่มีสายโทรศัพท์เข้าถึง" นพปฎล เดชอุดม ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ด้าน Main-line บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวประโยคขึ้นต้นที่รวมใจความสำคัญของงานแถลงข่าวเปิดตัวบริการ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย หรือ wi-fi ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เมื่อเดือนที่ผ่านมาเอาไว้แทบทั้งหมด
หลังจากที่มุ่งมั่นพยายามวางจุดให้บริการ wi-fi หรือ hot-spot มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว ล่าสุดทรูมี hot-spot แล้วกว่า 300 แห่ง และหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ว่าจนถึงสิ้นปี จะมี hot-spot จำนวน 400 แห่ง เพื่อเพิ่มขยายฐานผู้ใช้ให้มากขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวแปรสำคัญในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไร้สาย ก็คือ จำนวนของ hot-spot ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ
เดอะมอลล์กรุ๊ป เป็นหนึ่งใน strategic partner ของทรู ที่เห็นความสำคัญของการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วไร้สายในพื้นที่ของตน นอกเหนือจากรายอื่นๆ ที่เคยเปิดโอกาสให้ทรูได้เข้า ไปติดตั้งจุดให้บริการมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การประชุมแห่งชาติหลายแห่ง ห้างสรรพสินค้ายี่ห้ออื่น ร้านค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล แหล่งท่องเที่ยวไปจนถึงโรงแรมอีกมากมาย
ผู้บริหารของเดอะมอลล์เชื่อว่าการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เข้าไปในห้างสรรพสินค้าของตน เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด เป็นสิ่งที่ตนพยายามทำมาตลอด ยิ่งกลุ่มเป้าหมายของเดอะมอลล์รวมเอากลุ่มวัยรุ่น และคนรุ่นใหม่เข้าไปด้วย การเพิ่มเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ จึงมีความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย
การวาง hot-spot ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ทั้ง 7 แห่งในกรุงเทพมหานคร และ 1 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา กลายเป็นความหวังเล็กๆ ของทรู ที่จะเข้าไปยึดหัวหาดคนที่มีไลฟ์สไตล์การบริโภคแบบสังคมเมือง โดยเฉพาะการออกมานอกบ้าน เพื่อบริโภคสินค้าความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า ยิ่งจากสถิติของเดอะมอลล์ระบุว่า ในแต่ละวันมีผู้คนทุกเพศ ทุกวัย เกือบทุก segment เข้าออกห้างของตนกว่าวันละ 1 ล้านคนรวมทุกสาขา ยิ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นโอกาสของทรูมากขึ้น
ทรูยกตัวอย่างว่าความสำเร็จของการให้บริการ wi-fi ที่เห็นได้ชัด และทรูอยากจะก้าวไปถึง ก็คือประเทศเกาหลี ปัจจุบันเกาหลีมีจุด hot-spot แล้วกว่า 3 แสนแห่ง รายได้เฉพาะไตรมาสสามที่ผ่านมาทะลุไปกว่า 6 พันล้านบาท ขณะที่ในเมืองไทยทรู ซึ่งกินส่วนแบ่งกว่าครึ่งของตลาด wi-fi มีลูกค้าเพียง 10,000 ราย และมีรายได้เพียงหลักล้านบาทเท่านั้น
ที่ผ่านมา ทรูไม่สามารถเร่งการขยายจุดให้บริการ wi-fi ได้เร็วดั่งใจ เนื่องจากเสียเวลาไปกับการอธิบายถึงข้อดีในการเพิ่มจุดบริการในพื้นที่ของ partner หลายครั้งผู้บริหารไม่เห็นถึงความสำคัญของสิ่งที่ทรูกำลังทำอยู่ เช่นเดียวกัน หลายครั้งผู้บริหารซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่น่าลงทุน กลับมองไม่เห็นความจำเป็นในการติดตั้ง hot-spot เพิ่มเข้าไปเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า
เมื่อปัญหาของการเพิ่มจุดบริการไม่ได้ถูกแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ปัญหาไก่กับไข่ จึงตามให้เห็นและยังต้องรอเวลาตอบคำถาม โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง "ราคา" ที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ wi-fi เพราะตราบใดที่ทรูไม่สามารถเพิ่มจำนวนจุดบริการให้ได้มากในระดับหนึ่งจนเป็นข้อดีในแง่ของ economy of scale ผู้บริโภคก็ยังลังเลกับการใช้ wi-fi เนื่องจากมองไม่เห็นความคุ้มค่าของการใช้งานเมื่อเทียบกับมูลค่าราคาเงินที่เสียไป
สิ่งที่ทรูพอจะทำได้ในการตอบปัญหาไก่กับไข่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นเพิ่ม strategic partner มากหน้าขึ้น เช่นเดียว กับการเปิดตัวเดอะมอลล์กรุ๊ปนั่นเอง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|