|
สามารถฯหวัง3ปีรายได้ตปท.1หมื่นล.
ผู้จัดการรายวัน(31 ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
สามารถตั้งเป้า 3 ปีหน้ารายได้ธุรกิจต่างประเทศเกินหมื่นล้านบาท หรือประมาณ ครึ่งหนึ่งของรายได้รวม วางโพสิชันเป็น technology company ไม่ขีดวงแค่ไอทีหรือโทรคมนาคม ที่ยากแข่งขันกับทุนต่างประเทศ
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าภายในปี 2551 กลุ่มสามารถจะมีรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มสามารถ โดยที่ในปีนี้กลุ่มสามารถมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15-20% โดยในเดือน พ.ย.จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนของธุรกิจด้านพลังงานในประเทศกัมพูชา ซึ่งกลุ่มสามารถไม่ได้มองแค่การตั้งโรงไฟฟ้า แต่มองธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสายส่ง (transmission line) หรือธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุดิบที่จะต้องนำมาผลิตเพื่อให้เกิดพลังงานเพื่อให้ครบวงจรธุรกิจ
"ไม่ได้ดูแค่โรงไฟฟ้าอย่างเดียว เพราะเป็น fixed income มีราคาแน่นอน ชาร์จไม่ได้มาก เราดูธุรกิจอื่นด้วย ซึ่งภายในเดือนพ.ย.จะได้ข้อสรุปไม่ว่าจะเป็นเรื่องพันธมิตร ซึ่งคาดว่าขนาดการลงทุนระดับหลายพันล้านบาท"
การลงทุนในธุรกิจพลังงานจะเริ่มที่กัมพูชาเป็นประเทศแรกเป็นเพราะเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้พลังงานมาก ในขณะที่กลุ่มสามารถ วางตำแหน่งเป็น technology company ไม่ได้ จำกัดตัวเองเป็นไอทีหรือโทรคมนาคม เพราะปัจจุบันในประเทศไทยธุรกิจโทรคมนาคมถูกจำกัดด้วยการแข่งขันที่ต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก
เขาย้อนอดีตให้ฟังว่ากลุ่มสามารถเติบโตมา จากด้านอิเล็กทรอนิกส์ เสาอากาศ จานดาวเทียม ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และหันหัวเข้าธุรกิจโทรคมนาคมด้วยการเป็นโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ ลงทุนในอินฟราสตรักเจอร์ ที่ใช้เงินทุนสูง แต่กลุ่มสามารถแข่งขันสู้คนอื่นไม่ได้ เพราะเงินไม่หนาพอ จำเป็นต้องปรับทิศทางบริษัทใหม่ เข้าสู่ช่องว่างอย่างด้านโซลูชัน ดิจิตอล คอนเทนต์ ซึ่งทำให้ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ บริษัทลูกต่างอยู่รอดเลี้ยงตัวเองและมีกำไร
นายธวัชชัยกล่าวว่า ต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า ต้องมองว่ากลุ่มสามารถจะทำอะไร ธุรกิจโทรคมนาคม ลงทุนอินฟราสตรักเจอร์จำนวนมากถือว่าถูกปิดล้อมด้วยทุนต่างประเทศที่จะไหลเข้ามามากตามการเปิดแข่งขันเสรี ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันสูงและรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป กลุ่มสามารถต้องมองหาและพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะขึ้นมาเอง เพื่อให้เกิดมาร์จิ้นสูงสุด อย่างเทคโนโลยีด้านการควบคุมการจราจรทางอากาศหรือ air traffic control ในประเทศกัมพูชาถือเป็นการลงทุนจำนวนมากครั้งแรกครั้งเดียว และเก็บเกี่ยวรายได้ระยะยาว
รวมทั้งในปี 2549 กลุ่มสามารถจะมีธุรกิจระดับพระเอกที่ทำรายได้มากกว่าปีละ 1 พันล้านบาทอย่างบริษัท vision&security ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย โดยจะมีซอฟต์แวร์ที่ชื่อ nice vision จากประเทศอิสราเอล เพื่อให้บริการที่คาดว่าตลาด ทั้งราชการที่เกี่ยวกับความมั่นคงและเอกชนจะมีความตื่นตัวสูงเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัย โดยบริษัทจะพัฒนาบริการถึงระดับให้บริการเอาต์ซอร์สทั้งหน่วยงานราชการและธุรกิจเอกชน
สำหรับเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทจากธุรกิจ ต่างประเทศ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือกลุ่มสามารถคาดว่จะขายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ไอ-โมบาย ของกลุ่มสามารถเองให้ได้มากถึง 5 ล้านเครื่องภายในปี 2551 โดยภารกิจ ที่สำคัญคือต้องพัฒนายกระดับแบรนด์ไอ-โมบายจากระดับภูมิภาค ให้ขึ้นเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล แบรนด์ ให้คนใช้รู้สึกดี เสียเงินแล้วภูมิใจที่ใช้ไอ-โมบาย โดยในเดือนม.ค.2549 สามารถไอ-โมบายจะเป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันกอล์ฟไรเดอร์คัพระหว่างยุโรปกับเอเชีย โดยใช้เงินมากกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีหน้าจะเห็นโทรศัพท์มือถือไอ-โมบายและคอนเทนต์ 3G ขายที่ประเทศมาเลเซียและศรีลังกาที่มีโครงข่ายมือถือ 3G
"อกเสื้อแมนยูฯมีโวดาโฟน" เชลซีมีซัมซุง ทำไมผมจะทำให้อกเสื้อลิเวอร์พูลมีไอ-โมบายไม่ได้ เพราะถ้าเราทำให้ไอ-โมบายเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคใน 2-3 ปี เราขายได้มากพอมีเงินทำการสื่อสารการตลาดได้มากพอ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
นอกจากนี้ การที่มีเทเลคอมมาเลเซีย(TM) เป็นพาร์ตเนอร์ ก็เปิดโอกาสการขยายธุรกิจ ในต่างประเทศที่ TM เป็นโอเปอเรเตอร์ โดยที่กลุ่ม สามารถจะเป็น official content provider ให้ TM ในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ศรีลังกา บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย โดยในแต่ละประเทศจะต้องมีการทำ localize หรือทำให้เข้ากับท้องถิ่น บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
กลุ่มสามารถยังมีแผนที่จะนำเครื่องไอ-โมบายในราคาต่ำประมาณ 2-3 พันบาทเข้ามาทำตลาด ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุน TM ในการบุกเบิกตลาดในประเทศต่างๆ รวมทั้งไอ-โมบายจะมี product line โทรศัพท์มือถือครบวงจรตั้งแต่ล่างสุดจนถึงระดับบนสุด อย่างในช่วง ปลายปีนอกจากโทรศัพท์มือถือที่ดูทีวีได้ ยังมีโทรศัพท์มือถือแบบสไลด์โฟน ที่มีเอ็มพี 3 บลูทูธขายพร้อมหูฟังบลูทูธในราคาเพียง 9,600 บาทแต่ถ้าไม่เอาหูฟังจะเหลือเพียง 8 พันกว่าบาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังจะมีบริการที่เรียกว่า personal smart ฝังอยู่ในมือถือไอ-โมบาย เพื่อดูข้อมูลหุ้น ตารางการบิน ข่าวสารต่างๆได้ และยังอยู่ระหว่าง คุยกับเวนเดอร์ยี่ห้ออื่นๆเพื่อฝัง personal smart ไว้ในโทรศัพท์มือถือ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|