ผ่าทาง"สก๊อต"ชูการตลาดจับไลฟ์สไตล์ ผุดสื่อโฆษณาลอยฟ้าก่อนเทกออฟปีจอ


ผู้จัดการรายวัน(31 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"สก๊อต" พลิกแนวการตลาดโดดเกาะไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้ง ขยายฐานลูกค้า ทุ่ม 10 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" ซื้อสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ลอยฟ้าเหมาลำไทยแอร์ เอเชีย จุดพลุก่อนเปิดแผนขยายไลน์สินค้าเชิงกว้าง-ลึกปีจอ รับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อน คู่แข่งทางตรง-อ้อมจ้องแชร์ตลาด ยันไข้หวัดนกรอบสอง ไม่กระทบสิ้นปีโตตามเป้ากวาด 1,050 ล้านบาท

นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปสก๊อต เปิดเผยว่า แนวทางในการทำตลาดของบริษัทจะเน้นในเรื่องไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์สก๊อตให้เป็นผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมที่สนุก ดูไม่ซีเรียส และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบัน ด้วยตัวสินค้าและแนวทางทำตลาดของ ผู้ประกอบการทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้า ดูซีเรียสจึงไม่สามารถขยายกลุ่มเป้าหมาย ใหม่ๆ ได้ อีกทั้งมองว่าเทรนด์การทำตลาด ยุคใหม่จะต้องจับไลฟสไตล์ของคนมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใกล้ชิดกับตราสินค้าซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีความภักดีต่อตรา สินค้าน้อยลง สืบเนื่องจากสภาพตลาดมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้เลือก

ไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้งของสก๊อตเริ่มทำมากว่า 2-3 ปีแล้ว โดยเริ่มจัดคอนเสิร์ต และการเป็นผู้สนับสนุนหลักเวทีประกวดนางงาม ซึ่งเรามองว่าสก๊อตยังสามารถจัดกิจกรรมที่เป็นไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทำกับการท่องเที่ยว การอ่านหนังสือ กีฬา หรือกระทั่งสะสมของ แต่ขณะนี้เราเน้นใน เรื่องมิวสิกมาร์เกตติ้งนำร่องเป็นหลักก่อน

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 10 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ลอยฟ้าแบบเหมา 1 ลำบนสายการบินไทยแอร์ เอเชีย โดยหุ้มสื่อภายนอกตัวเครื่องและบริเวณภายในเครื่องบิน ได้แก่ บริเวณที่เก็บสัมภาระ โต๊ะพับสำหรับวางอาหารทั้งด้านหน้า และด้านหลังกระเป๋าสำหรับวางโบรชัวร์สินค้า รถเข็นบริการอาหารประเดิมในช่วงแรกก่อน ส่วนสัญญาระหว่าง 1 ปีนี้เตรียมจัดกิจกรรมบนเครื่องอย่างต่อเนื่อง อาทิ โปรโมชัน และร่วมทำกับตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ "ก๊อต ชูการ์ฟรี ซินดี้-สิรินดา เจนเซ่น มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2005"

การเปิดตัวสื่อโฆษณาบนเครื่องบิน ก็ถือว่าเป็นการจับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่ง เพราะการมีสายการบินโลว์คอสต์ทำให้คนสัมผัสกับการเดินทาง ทางอากาศได้มากขึ้น แม้ว่าโลว์คอสต์จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นตลาดแมส แต่ในจำนวนนั้นก็ยังมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันกับสก๊อต คือ กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน

สำหรับเป้าหมายของการเปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" นอกจากกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาสสุดท้าย 20% แล้ว ยังช่วยขยายฐานลูกค้า สร้างแบรนด์และภาพลักษณ์สก๊อตให้มีความชัดเจนมากขึ้น จากที่ผ่านมาภาพรวมของสก๊อตยังรุกไม่เต็มที่มากนัก และเน้นจุดขายในเรื่องของฟังก์ชันนัลหรือประโยชน์ของสินค้า แต่ตอนนี้จะเน้นไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้งมากขึ้น พร้อมกันนี้ การจัดแคมเปญดังกล่าวยังเป็นสัญญาณว่าบริษัท จะรุกตลาดอย่างหนักในปีหน้าอย่างเต็ม ตัว หลังจากที่ทำตลาดในไทยมากว่า 22 ปี ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รังนกสำเร็จรูปตรา สก๊อต ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 60% จากมูลค่าตลาดรังนก 1,100 ล้านบาท ส่วนซุปไก่สก๊อตเป็นอันดับสองของตลาดครอง ส่วนแบ่ง 30%

แผนการทำตลาดในปีหน้า บริษัทจะขยายไลน์สินค้าทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ รังนกและซุปไก่ในเชิงกว้างและในเชิงลึก เพื่อจับไลฟ์สไตล์ของคนให้ได้มากขึ้น โดย ยังคงเน้นกลุ่มเป้าหมายเดิม คือ วัยทำงาน เป็นหลัก ในเชิงรุกเน้นสินค้าที่เพิ่มมูลค่าและตอบสนองความต้องการได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ยังคงอยู่ในแคทิกอรีรังนกและซุปไก่ ซึ่งจะเปิดตัวช่วงเดือนเมษายน ส่วนเชิงกว้างเน้นพัฒนาสินค้าในเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซึ่งจะเปิด 2 ตัว โดยงบการตลาดปีหน้าจะใช้ใกล้เคียงกับปีนี้คือ 270 ล้านบาท แบ่งเป็นซุปไก่ 100 ล้านบาท และรังนก 170 ล้านบาท

ตลาดที่บริษัทเน้นยังคงเป็นชนิดน้ำอยู่ เพราะมองว่าอาหารเสริมชนิดเม็ดยังมีจุดอ่อนในเรื่องของภาพลักษณ์ที่คล้ายยา คนส่วนใหญ่ยังกังวลว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า ขณะเดียวกัน แนวโน้มตลาดอาหารเสริมชนิดน้ำก็ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากŽ

สำหรับเหตุผลที่บริษัทต้องขยาย ไลน์สินค้าทั้งในเชิงกว้างและลึก เนื่องจาก แนวโน้มตลาดอาหารเสริมขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยตลาดรวมทั้งรังนกและซุปไก่ปีนี้โต 8% โดยรังนกขยายตัวสูงถึง 10% ต่อปีเพราะดื่มง่ายกว่าเมื่อเทียบกับตลาดซุปไก่ที่โต 5-6% ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปมีความซับซ้อนมากขึ้น และต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมทั้งด้านการแข่งขันโดยเฉพาะในแนวลึกปัจจุบันภาวะตลาดมีสินค้าที่สร้างมูลค่าขึ้นมามากทั้งคู่แข่งโดยตรงและโดยอ้อมอย่างธุรกิจขายตรงและเชนร้านขายยา

ทั้งนี้หลังจากที่บริษัททำตลาดใน เชิงรุกปีหน้า ตั้งเป้ากลุ่มรังนกเติบโต 20% ส่วนซุปไก่โต 15% ส่วนผลประกอบการของบริษัทปีนี้ตั้งเป้า 1,050 ล้านบาท แบ่งเป็นรังนกสำเร็จรูปสก๊อต 600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 20% โดยรังนก แท้มีสัดส่วนรายได้ 70% ชูการ์ฟรี 25% ซึ่งเป็นรสชาติที่เริ่มเติบโตสูงเนื่องจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่วนอีก 15% เป็นรังนกโสมและโสมเกาหลี ส่วนรายได้ซุปไก่ 450 ล้านบาทโต 10% ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ไข้หวัดนกระบาดในสัตว์ปีกปีนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรวม เนื่องจาก ผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาโรคไข้หวัดนกได้แพร่ระบาดสร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อยอดขายของบริษัท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.