วิเชฐเล็งขอบอร์ดตั้งกองทุนเวนเจอร์แคปฯ ดึงบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดmaiเพิ่ม


ผู้จัดการรายวัน(31 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"วิเชฐ" เอ็มดีตลาดเอ็มเอไอ คาดช่วงท้ายปีนี้มี 10 บริษัทเตรียมขายหุ้น เชื่อเป้าปีหน้า 40 บริษัทโอกาสได้สูง หวังมาร์เกตแคปรวมแตะ 3 หมื่นล้าน วอลุ่มเฉลี่ย 220 ล้านต่อวัน พร้อมเล็งเสนอบอร์ดขอตั้งกองทุนเวนเจอร์แคปปิตอล แต่งตัวบริษัทเข้าระดมทุน
นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เปิดเผยว่า จากแผนพัฒนางานของ ตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปี 2549 โดย มีการตั้งเป้าบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็เอไอ หรือ mai จำนวน 40 บริษัท โดยส่วนตัวเชื่อว่าโอกาสที่จะเป็นไปได้อยู่ในระดับที่สูง เนื่องจากจากการสอบถามไปยังบริษัทที่มีความสนใจล่าสุดพบว่ามีถึง 60-70 บริษัทที่สนใจจะเข้าระดมทุนในตลาดเอ็มเอไอ

ทั้งนี้ เชื่อว่าในปีหน้าความน่าสนใจในตลาดเอ็มเอไอจะมีมากขึ้น ซึ่งในส่วนของมูลค่าการซื้อขายน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ โดยปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ย 175 ล้านบาทต่อวัน เป็น 200-220 บาทต่อวัน ขณะที่มูลค่าตลาดรวม หรือมาร์เกตแคปจะปรับตัวขึ้นจากระดับปัจจุบัน 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นประมาณ 3 หมื่นล้านบาทบนพื้นฐานเฉลี่ยบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนมีขนาดประมาณ 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียน ตัวแปรที่สำคัญที่อาจจะทำให้ไม่เป็นไปตาม ที่มีการตั้งเป้า คือ การเปลี่ยนใจใน การเข้าจดทะเบียนของเจ้าของกิจการเองด้วยเหตุผลอย่างใด อย่างหนึ่ง แต่ทั้งนี้มาตรการจูงใจใน เรื่องการให้สิทธิพิเศษในเรื่องภาษีที่ได้มีการเลื่อนจากเดิมจะครบกำหนด ในสิ้นปีนี้เป็นสิ้นปีหน้าหากมีการยื่นไฟลิ่งได้ทันปีนี้น่าจะเป็นสิ่งที่จูงใจบริษัทได้ในระดับหนึ่ง
นายวิเชฐ กล่าวอีกว่า แม้ว่าในอนาคตบริษัทที่จะจดทะเบียนใน ตลาดเอ็มเอไอจะมีจำนวนสูงขึ้นแต่คงยังไม่มีนโยบายในการแยกกลุ่มหรือหมวดให้กับบริษัท เนื่อง จากยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะกำหนด แต่ทั้งนี้การกำหนดอาจจะแยกได้เพียง หุ้นที่มีการเติบโตที่สูง กับหุ้นในกลุ่มที่เป็นธุรกิจนวัตกรรมใหม่ๆ

ทั้งนี้ สิ่งที่จะเป็นตัวกระตุ้นความน่าสนใจ คือการทำการตลาด ในเชิงการประชาสัมพันธ์ที่มากขึ้น เพราะปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในประเทศใกล้จะหมด เพราะส่วนหนึ่งก็เข้าจดทะเบียนไปแล้วขณะที่อีกส่วนก็ยังติดกับภาพการเป็นธุรกิจในครอบครัว การเร่งสร้างบริษัทขนาดเล็กให้มี มาตรฐานและมีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

"บริษัทใหญ่ๆที่อยู่ในตลท.ก็ต้องเร่งผลักดันให้มีการก้าวไปสู่ระดับสากล อาจจะมีการผลักดันให้มีการจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ บริษัทเล็กๆก็ต้องเร่งเพิ่มศักยภาพให้เค้าเพื่อจะได้เข้าระดมทุนในตลท.ได้" นายวิเชฐกล่าว

นอกจากนี้ คาดว่าในช่วง 2 เดือนก่อนสิ้นปีจะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไปประมาณ 10 บริษัท และคาดว่าจะมีบริษัทยื่นแบบแสดงข้อมูล(ไฟลิ่ง) อีกประมาณ 15 บริษัท เล็งเสนอบอร์ดตั้งกองทุน

นายวิเชฐ กล่าวอีกว่าเรื่องการเร่งสร้างบริษัทขนาดเล็กเพื่อเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แนวทางหนึ่งที่หลายประเทศใช้ คือ การใช้กองทุนรวมลงทุน หรือ เวนเจอร์แคปปิตอล เป็นตัวกลางในการ เพิ่มศักยภาพในการพัฒนาธุรกิจ

ทั้งนี้ ในเรื่องดังกล่าวอาจจะมี 3 ฝ่ายที่เข้ามาเกี่ยวข้องการในร่วมเป็นหุ้นส่วนของบริษัท คือ เจ้าของ บริษัท บริษัทร่วมลงทุน และกองทุน เป็นต้น ซึ่งในส่วนของกองทุนอาจจะมีการนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์เพื่อ เสนอให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจในกลุ่มเป้าหมาย ก่อนที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็มเอไอ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่อาจจะเข้ามาช่วยผลักดันในเรื่องดังกล่าว เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมรับวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม ซึ่งในอนาคตบทบาทจะค่อนข้างน่าสนใจ และมีบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นหากได้รับการสนับสนุนที่ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.