ภาพของวิชัย พูลวรลักษณ์ เดินตรวจตราอยู่ภายในโรงภาพยนตร์ ที่แปรสภาพเป็นพื้นที่โล่งว่างเปล่า
เพราะเก้าอี้พรมขนแกะหนานุ่ม ได้ถูกรื้อทิ้งไปก่อนหน้านี้ ก่อนเริ่มทุบพื้นที่ตั้งเก้าอี้
2 แถวหลังสุดที่ต้องถูกทุบขยายใหม่ เพื่อรองรับกับเก้าอี้นั่งโอ่อ่าขนาดใหญ่
ที่จะถูกตั้งแทนที่เก้าอี้แบบเดิม น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้นตาของพนักงาน EGV
ในยามนี้
"ช่วงนี้ถือเป็นช่วงสนุกของผม เพราะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เหมือนกับจุดสปริงบอร์ด
อย่างเข้าตลาดหุ้นก็ไม่ธรรมดา หรือรื้อโรงหนังปรับปรุงใหม่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเรา"
วิชัยเป็นคนที่มีบุคลิกง่ายๆ แต่กระตือรือร้น ใบหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา แม้ว่าเขาต้องผ่านการต่อสู้ในธุรกิจ
โรงภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง แม้กระทั่งการกลับเข้าสู่ตลาดในครั้งนี้
"วันดีคืนดี ผมก็ใส่กางเกงยีนส์ เดินไปตรวจโรงหนัง บางทีไปตอนเที่ยงคืน
ตี 1 การทำงานแต่ละวันไม่ใช่ 8 โมงเช้า เลิก 5 โมงเย็น ผมสนุกกับมัน โทรศัพท์มือถือผมไม่เคยปิดแม้แต่วันเดียว
ชั่วโมงเดียวก็ไม่ปิด เป็น อย่างนี้มาเป็นสิบปีแล้ว" วิชัยสะท้อนบุคลิกของตัวเอง
วิชัยจบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การอยู่ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขัน
ทำให้เขาต้องหามุมมองใหม่ๆ เพื่อสร้างแง่มุมทางการตลาดอยู่ตลอดเวลา การเข้าร่วมทำกิจกรรมของสมาคมการตลาด
และชมรม Young Executive แหล่งรวมนักการตลาดของเมืองไทย ถือเป็นอีกกิจกรรมที่วิชัยไม่เคยพลาด
อย่างกรณีว่าจ้าง บริษัทเอ็นเตอร์ไพรซ์ ไอจี บริษัทที่ปรึกษาข้ามชาติเข้ามาเป็น
re-branding ตรา สินค้า EGV ด้วยเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย ก็เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดรับแนวคิดการตลาดแนวใหม่ๆ
ของวิชัย ด้วยความเป็นคนไม่หยุดนิ่ง บวกกับความต้องการสร้างอำนาจต่อรองในการแข่งขัน
หลายครั้งที่วิชัยตัดสินใจเปลี่ยนแปลงองค์กร เช่น การดึงเอาพันธมิตรข้ามชาติเข้ามาร่วมทุน
เพื่อบุกเบิกโรงภาพยนตร์รูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญสำหรับเขาในช่วงนั้น
แม้การร่วมมือกับพันธมิตรจะไม่ราบรื่นเท่าที่ควร
"ตอนนั้นเราได้ know-how จากฝรั่งเขามีความชำนาญสูงมาก เช่น ต้องใช้ผนังหนา
40 เซนติเมตร ทุกอย่างต้องได้มาตรฐาน พรมต้องเป็นแบบ non toxic ใช้ขนแกะมาทอ
ไม่ให้เกิดเขม่า สิ่งเหล่านี้ลูกค้าไม่รู้ ถ้าเราไม่พูด" วิชัยยกตัวอย่าง
หลังจากการซื้อหุ้นกลับคืนจากบริษัท วิลเลจ โร้ดโชว์ เพื่อกลับสู่เวทีแข่งขันอีกครั้ง
วิชัยไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงองค์กร ด้วยการดึงเอามืออาชีพที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่
เข้ามาร่วมงาน และวิชัยทำงานร่วมกับมืออาชีพที่เป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ได้อย่างผสมกลมกลืน
"วันนี้ EGV มั่นคงมากขึ้น เดิมเรามี พูลวรลักษณ์หลายคน มีญาติเข้ามาช่วย
มีผม คนเดียวที่เป็นพูลวรลักษณ์ ที่เหลือเป็นมืออาชีพทั้งหมด" วิชัยบอก
เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญของการทำธุรกิจโรงภาพยนตร์ วิชัยติดตามเรื่องของเทคโนโลยี
ข้างกายเขาจึงมีทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค เครื่องปาล์มคอมพิวเตอร์ คาสิโอ
และโทรศัพท์มือถือ ที่กำลังเปลี่ยนจากรุ่นเก่า ไปใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่
ที่ใช้จอสี มีกล้องตัวจิ๋วในตัว ระบบเสียงสเตอริโอ และหากมีเวลาเขามักจะบินไปดูงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี
ในต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง
"อย่างงานคอมพิวเตอร์เวิลด์ ที่อเมริกาผมก็ไป เทคโนโลยีเป็นเรื่องสำคัญ
EGV ของเราเปิดมาพร้อมกับ smart card เป็นเรื่องของความต่อเนื่อง"
สำหรับวิชัยแล้วการเรียนรู้ในเรื่อง IT เป็นเรื่องที่จำเป็นไม่แพ้แง่มุมการตลาด
ที่เป็นเครื่องมือสำคัญบนเวทีการแข่งขันยุคนี้
"หนังเปลี่ยนทุกอาทิตย์ เฉินหลง แสดงไม่รู้กี่ร้อยเรื่อง ทุกปีก็มีเฉินหลง
โรงหนังไม่มีวันตาย แต่มันจะแตกไปเรื่องการตลาด เรื่องของเทคโนโลยีไปอีกมากมาย
อยู่ที่ตัวเรา" วิชัยทิ้งท้ายไว้เช่นนั้น