เซจแคปปิตอลดันรสก.เข้าตลท. ดึงกองทุนนอกถือหุ้น บจ.ไทย


ผู้จัดการรายวัน(25 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"เซจ แคปปิตอล" ได้รับ แต่งตั้งเป็นพี่เลี้ยงแต่งตัวรัฐวิสาหกิจขนาด กลางระดมทุน พร้อมเป็นที่ปรึกษากองทุน ต่างประเทศขนาด 3 หมื่นล้านบาทเข้าลงทุน ใน บจ. 1 รายในวงเงิน 1 พันล้านบาท คาดว่า จะเสร็จสิ้น พ.ย.นี้ ระบุธุรกิจอาหาร, คอนซูเมอร์โปรดักต์เนื้อหอม เล็งดัน 4 หุ้นใหม่ เข้าระดมทุนปีหน้า

นายธนาธิป วิทยะสิรินันท์ กรรมการ บริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในรัฐวิสาหกิจขนาดกลางแห่งหนึ่ง เพื่อให้เข้ามาช่วยแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน และในอนาคตก็มีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป

"การทำงานยังมีหลายขั้นตอนซึ่งรวม ถึงจะมีการควบรวมกิจการด้วย ดังนั้น จึงเชื่อว่ากว่าจะเข้ามาระดมทุนต้องใช้เวลา ประมาณ 2-3 ปี" นายธนาธิปกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษา ให้แก่กองทุนต่างประเทศ 1 ราย ซึ่งเป็น กองทุนส่วนบุคคล และมีขนาดของกองทุน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยกองทุน จะเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของไทย 1 ราย โดยกองทุนดังกล่าวได้เข้าหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวนประมาณ 10% คิดเป็น วงเงินลงทุนประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 800-1,000 ล้านบาท คาดว่าจะ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน นี้

ทั้งนี้ กองทุนต่างประเทศนี้จะมี นโยบายการลงทุน โดยจะลงทุนในระยะยาว และจะส่งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการ บริษัทด้วย แต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร ส่วนในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุนจะหวังไว้ในระดับสูงเช่นกัน 25-30%

"กองทุนจากต่างประเทศยังสนใจที่จะลงทุนบริษัทจดทะเบียนของไทยอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัว ลดลงมามาก แต่จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพที่ดี และมีแนวโน้มการขยายตัวมาก" นายธนาธิปกล่าว

กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าวต่อว่า ธุรกิจที่กองทุนต่างประเทศสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวกับอาหาร,ธุรกิจเกี่ยวกับรายย่อยหรือรีเทล และธุรกิจที่เกี่ยวกับคอนซูเมอร์ โปรดักต์ เพราะเห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตได้ อีกมาก โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถือเป็น ตลาดใหญ่แห่งหนึ่งเพราะมีประชากรมากถึง 70 ล้านคนทั่วประเทศ

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทเซจ แคปปิตอลในปีนี้ถือว่าเป็นไปตาม เป้าหมายที่กำหนดไว้ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจาก ปีก่อนถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นโดยรวมจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยในปีนี้บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 บริษัทประกอบด้วย บมจ.สยามทูยู ,บมจ.เอเซียเสริมกิจ ซึ่ง 2 บริษัทนี้เข้าซื้อขายแล้ว ส่วนอีก 2 บริษัทเตรียมที่จะเข้าซื้อขายประกอบด้วยบมจ.ปริญสิริ ซึ่งเตรียมกระจายหุ้นภายในปลายเดือนตุลาคมนี้ และบริษัท 124 คอมมูนิเคชั่นส์ คาดว่าจะกระจายหุ้นได้ภายในเดือนพฤศจิกายน

นอกจากนี้ ก็ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการให้แก่ธนาคารเอเซียและธนาคารยูโอบี เคย์เฮียน รวมถึงการหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจอาหาร และที่ปรึกษาบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง ที่จะออกหุ้นเพิ่มทุนซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะเสนอขายเฉพาะเจาะจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ที่เหลือก็จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้านอื่นๆ

ส่วนปีหน้าบริษัทได้เป็นที่ปรึกษาทาง การเงินแล้ว 7 บริษัท แต่คาดว่าจะสามารถ นำบริษัทเข้าระดมทุนในปี 2549 ได้จำนวน 4 บริษัท ซึ่งจะเป็นบริษัทที่มีขนาดระดับกลาง โดยคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโต ไม่น้อยกว่าในปีนี้

นายธนาธิปกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งที่ติดต่อร่วมถือหุ้นของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ต้องการที่จะให้บริษัทหลักทรัพย์เข้ามาร่วมถือหุ้นในขณะนี้ เพราะยังต้องการความเป็นอิสระในการทำงาน โดยบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวที่เข้ามาติดต่อก็หวังในเรื่องของการรุกธุรกิจวาณิชธนกิจ และงานที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อหวังจะเสริมกับงานธุรกิจโบรกเกอร์

"ตอนนี้ผมยังต้องการความเป็นอิสระในการทำงานอยู่ จึงคิดว่ายังไม่อยาก ได้บริษัทหลักทรัพย์เข้ามาร่วมถือหุ้นในขณะนี้" กรรมการบริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าว

นายธนาธิป วิทยะสิรินันท์ กรรมการ บริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าว ต่ออีกว่า สำหรับการทำธุรกิจในปีหน้า นั้นนอกจากการเป็นที่ปรึกษาทางการ เงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทยังมีงานที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ตลอดจนการหาผู้ร่วมทุน ซึ่งจะเป็นรายได้ อีกส่วนหนึ่งที่เข้ามา ทำให้ปีหน้าผล การดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตไม่น้อยกว่านี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.