|

ที่ปรึกษาฯคาดเอกรัฐวิศวกรรมเทรดปี49 ขายIPO182ล้านหุ้นนำเงินใช้ขยายงาน
ผู้จัดการรายวัน(20 ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ที่ปรึกษาฯ คาดเอกรัฐวิศวกรรม เทรดปี 49 กระจาย 182 ล้านหุ้น ระดมทุนลงทุนในบริษัทย่อยสร้างโรงงานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์-ทุนหมุนเวียน ด้านฟาร์อีสท์ แอสเซทฯ รอเพียง ก.ล.ต.อนุมัติคาดขายปีหน้า ขณะที่อีก 2 บริษัทเตรียมยื่นไฟลิ่งให้ทันปีนี้
นายพิทักษ์ กิตติอัครเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟาร์อีสท์ แอดไวเซอร์ ในฐานะที่ปรึกษาทาง การเงิน บริษัทเอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก-ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) 182 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 23.03% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วหลังการเสนอขายในครั้งนี้ 790.17 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยคาดว่าจะเข้า ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 49
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน ในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนในในบริษัทย่อยในทางการก่อสร้างโรงงานและซื้อ เครื่องจักรเพื่อผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ขนิดมัลติคริสตันไลน์กำลังการผลิต 25 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและนำไปชำระหนี้
โดยบริษัทมีรายได้ปี 46 จำนวน 1,353.47 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 20.08 ล้านบาท ปี 47 รายได้ 1,639.92 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 98.86 ล้านบาท โดย ครึ่งปีแรก 48 มีรายได้รวม 646.13 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 68.40 ล้านบาท บริษัทฯมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิ
สำหรับบริษัทเอกรัฐวิศวกรรม ประกอบธุรกิจ ผลิตภัณฑ์หม้อแปลง ไฟฟ้าระบบจำหน่าย(Distribution Transformer)ที่มีกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 1 kVA ถึง 20,000 kVA โดยเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในประเทศและงานบริการ ได้แก่ งานบริการบำรุงรักษาและซ่อมแซมหม้อแปลงไฟฟ้า งานบริการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า และงาน พลังงาน ในด้านบริการออกแบบติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ และงานอนุรักษ์พลังงาน
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ส่วนบริษัทเอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ ขณะนี้ ก.ล.ต..อนุมัติให้สามารถกระจายหุ้นได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาภาวะตลาดและเวลาขาย โดยคาดว่าจะเป็นเดือนหน้าและจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอภายในปีนี้ โดยจะเสนอขายหุ้น จำนวน 23 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท ภายหลังเสนอขายหุ้นจะมีทุนจดทะเบียนเป็น 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งอีก 1-2 บริษัทภายในปีนี้ เพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ส่วนหุ้นบริษัท ฟาร์อีสท์ แอสเซท คอร์ปอเรชั่น ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาไฟลิ่งของสำนักงาน ก.ล.ต. เบื้องต้นคาดว่าเร็วที่สุดน่าจะเสนอขายหุ้นและเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ทันภายในเดือนธันวาคมนี้ หาก ไม่ทันก็คาดว่าจะเลื่อนไปในต้นปี 49
รายงานจากสำนักงาน ก.ล.ต. แจ้งว่า ได้นับหนึ่งแบบรายการแสดงข้อมูล (ไฟลิ่ง) บมจ.สหไทยสตีลไพพ์ แล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 โดยมี บล.ทิสโก้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน โดยบริษัทดังกล่าวจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 105 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น โดยเป็นหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว 495 ล้านบาท
โดยเม็ดเงินที่ได้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ในการปรับปรุงระบบการจัดจำหน่ายและแผนการตลาด เพื่อรองรับนโยบายการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงนำไปใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรการ ผลิต เพื่อเพิ่มรูปแบบของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับยอดการจำหน่ายสินค้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากแผนการขยายตลาดและชำระคืนเงินกู้บางส่วน
พร้อมกันนี้ บริษัทมีโครงการในอนาคตได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบการจำหน่ายและแผนการตลาด ซึ่งใช้เม็ดเงินลงทุนจำนวนประมาณ 50 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายไตรมาส 4/48 นอกจากนี้ ยังมีโครงการเพิ่มความหลากหลายของประเภทสินค้า คาดว่า จะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลความต้องการของสินค้าของตลาด และคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้ในช่วงปลายไตรมาส 4/48 ประกอบกับยังมีโครงการขยายพื้นที่จัดเก็บสินค้า โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพิ่มเติม
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|