"ไทยน้ำทิพย์" ทนกระแสเครื่องดื่มชูกำลังบูมสุดขีดไม่ไหว ซุ่มวิจัยพัฒนาแบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง
เตรียมส่งลงตลาดระดับบนขวดละ 10 บาท ปีหน้า ชี้ตลาดขยายตัวสูงเป็นตัวเลข
2 หลักต่อเนื่องหลายปี ขณะที่เครื่องดื่มน้ำอัดลด เริ่มโตอืด จากกระแสห่วงใยสุขภาพ
เผยนโยบายปีหน้าเน้นทำตลาดเครื่องดื่มไม่อัดลม ขยายแพกเกจขวดแก้ว "เนสที"
ชาพร้อมดื่ม คุยช่วยดันตลาดโต100% พร้อมจับมือพันธมิตรพัฒนา ช่องทางขายใหม่ๆ
หลังการเปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลัง "คาราบาวแดง" พบว่าเกิดกระแสการเคลื่อนไหวของตลาดหลายด้าน
ทั้งในส่วนของผู้ประ กอบการรายเก่าที่รุกขึ้นมาโหมทำตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในช่วง
2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ดูได้จากงบ โฆษณาที่คาดว่าจะสะพัดถึง 150 ล้านบาท
การเปิดตัวคาราบาวแดงที่มาสร้างสีสัน ให้ตลาดในขณะนี้ โดยมีบริษัทเสริมสุข
จำกัด (มหาชน) จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า ทำให้ยักษ์ค่ายน้ำดำอย่าง "โค้ก"
ที่มีบริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าให้ไม่สามารถอยู่เฉยได้
เพราะสินค้าที่เสริมสุข และไทยน้ำทิพย์ ทำตลาดอยู่ในขณะนี้เหมือนกันแทบ ทุกตัว
ซึ่งไทยน้ำทิพย์เองไม่สามารถปฏิเสธตลาด เครื่องดื่มชูกำลังได้เช่นกัน
นายจิม อาร์ จาร์ดินา กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย
เครื่องดื่มน้ำอัดลมโค้ก แฟนต้า สไปร์ท น้ำรสผลไม้คู เนสที เปิดเผยว่า บริษัทสนใจที่จะผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง
ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาและทำวิจัยกลุ่มผู้ลูกค้า เพื่อผลิตสินค้าและรสชาติให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ขณะนี้ได้ศึกษาเครื่องดื่มชูกำลังของโคคา โคล่า ที่จำหน่ายในต่างประเทศหลายแบรนด์
เช่น แบรนด์ Real Gold ของประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ Lift ของออสเตรเลีย และหลายแบรนด์จากสหรัฐอเมริกา
ซึ่งทุกตลาดมียอดขายอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
นอกจากนี้ยังพบว่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงแต่ละปีเติบโตเป็นตัวเลข
2 หลัก มีตลาดรวมอยู่ที่ 35 ล้านลัง มูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท แต่เป็นตลาดแข่งขันสูงจากผู้ประกอบการรายเก่าที่ทำตลาดมานาน
และผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องทุกปี
สำหรับแผนการออกเครื่องดื่มชูกำลังของบริษัทจะพัฒนาแบรนด์เพื่อตลาดประเทศไทยโดยเฉพาะ
ใช้โรงงานผลิตในประเทศไทยของไทยน้ำทิพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด 6 โรงงาน โดยใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมเล็กน้อยเท่านั้น
ตลาดที่บริษัทสนใจคือระดับบนราคาจำหน่ายขวดละ 10 บาท โดยเห็นว่าตลาดที่ต่ำกว่าขวดละ
10 บาท ไม่น่าจะทำตลาดและมีกำไรได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้สินค้า ไม่มีคุณภาพ
"ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง จะเห็นได้จากบริษัทเสริมสุข
กล้ายกเลิกการจำหน่ายเอ็ม-150 และรับเป็นตัว แทนจำหน่ายให้คาราบาวแดง ที่เป็นแบรนด์ใหม่เพิ่งเข้ามาทำตลาด
แสดงให้เห็นว่าเสริมสุขมั่นใจในตัวคาราบาวแดงและตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอย่าง
มาก"
ทั้งนี้ ไทยน้ำทิพย์เป็นบริษัทที่มีความพร้อม ในการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังอย่างมาก
จากจุดเด่นด้านช่องทางจำหน่ายสินค้า ที่ครอบคลุมทั้งร้านค้าทั่วไป และโมเดิร์นเทรด
รวมทั้งได้พัฒนาช่องทางจำหน่ายใหม่อยู่ตลอดเวลา
ปีหน้าเน้นเครื่องดื่มไม่อัดลม
นายจิมกล่าวต่อว่านโยบายการทำตลาดในปีหน้าจะเน้นทำตลาดเครื่องดื่มไม่อัดลมเป็นหลัก
เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในประเทศไทยขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตลดลงเรื่อยๆ
จากกระแสห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภค ปีนี้ตลาดรวม น้ำอัดลมคงขยายตัวประมาณ
6% เท่านั้น มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 18,000 ล้านบาท
ในปีหน้าบริษัทจะขยายตลาดชาพร้อมดื่ม "เนสที" ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายให้เนสท์เล่
โดยจะออกผลิตภัณฑ์ขวดแก้วชนิดคืน ขวดทุกขนาดมาทำตลาดเพิ่มเติมจากบรรจจุภัณฑ์กล่องที่จำหน่ายอยู่
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่องทางร้านอาหาร ที่นิยมบริโภคชนิดขวดแก้ว
หลังจากบริษัทเข้ามาทำตลาดดังกล่าวอย่างจริงจังในปีหน้า โดยจะออกรสชาติใหม่อีก
2 รสชาติ คาดว่าจะทำให้ตลาดชาพร้อมดื่มเติบโตเพิ่มขึ้น 100% จากปัจจุบันที่ตลาดรวมมีปริมาณการจำหน่าย
2 ล้านลัง
นอกจากนี้ บริษัทจะเน้นทำตลาดเครื่องดื่มรสผลไม้ "คู" มากขึ้น
โดยเฉพาะด้านช่องทาง จำหน่ายที่จะทำให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ในปี หน้าบริษัทตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของธุรกิจ
ไว้ประมาณ 20% ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของกลุ่มเครื่องดื่มไม่อัดลม ในปีนี้คาดว่ามูลค่าตลาดรวมเครื่องดื่มทุกประเภทมีมูลค่าประมาณ
27,000 ล้านบาท มีปริมาณจำหน่าย 250 ล้านลัง
พัฒนาช่องทางจำหน่ายใหม่
นายจิมกล่าวต่อว่าบริษัทมีความตั้งใจจะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจทุกแขนงเพื่อให้สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ทุกช่องทางการตลาด
รวมทั้งสามารถเจาะเข้าถึงผู้บริโภคและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ล่าสุดได้ร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยการติดตั้งตู้จำหน่ายโค้กดื่มของไทยน้ำทิพย์ทุกประเภทในร้านซึทาญ่าทุกสาขาทั่วประเทศ
ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ บริษัทสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวที่ชอบการดูหนังฟังเพลงภายในบ้านได้
"ไทยน้ำทิพย์เชื่อว่า ด้วยทำเลที่ใกล้ชุมชนของซึทาญ่าจะทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้
โดยผู้บริโภคสามารถซื้อหาผลิตภัณฑ์โค้กได้ง่ายขึ้น ซึ่งไทยน้ำทิพย์จะร่วมกันกำหนดแผนการส่งเสริมการขายที่เหมาะสมสำหรับสมาชิก
โดยตั้งเป้ายอดขายผ่าน ร้านซึทาญ่าทั่วประเทศปีละ 10 ล้านบาท"
เป๊ปซี่ชี้ตลาดน้ำอัดลมโตอืด
นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทเป๊ปซี่-โคล่า เทรดดิ้ง
จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม เป๊ปซี่ มิรินด้า เซเว่น-อัพ เปิดเผยว่า
ภาพรวมยอดขายของเครื่องดื่มน้ำอัดลมถึงขณะนี้มีอัตราการเติบโตเพียง 5% เท่านั้น
ต่ำกว่าปีก่อนที่โตในระดับ 10% การเติบโตดังกล่าวมาจากน้ำโคล่า หรือน้ำดำเป็น
หลัก ที่เติบโตใน 4-5% ขณะที่ตลาดน้ำอัดลมสีไม่เติบโต ส่วนน้ำอัดลมขาวตลาดลดลง
สาเหตุหลักมาจากผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการทำตลาดน้ำดำเป็นหลัก เห็นได้ชัดเจนจากกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงฟุตบอลโลกที่ผ่านมา
ที่ทั้ง 2 ค่ายหลักอัดงบประมาณเต็มที่ ประกอบกับการขยายตัวของตลาดเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลมต่างๆ
เช่น น้ำผลไม้ น้ำสีไม่อัดลม ที่มีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดมากขึ้น และการเติบโตของน้ำเปล่าอยู่ในอัตราสูง
จากกระแสรักษาสุขภาพของคนไทย
"การขยายตัวของเครื่องดื่มไม่อัดลม ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
และหันไปทดลองบริโภคเครื่องดื่มใหม่ ขณะที่ปริมาณการบริโภคของลูกค้าคนหนึ่งมีปริมาณเท่าดื่ม
หากผู้บริโภค เลือกเครื่องดื่มประเภทอื่นแทนน้ำอัดลมไปแล้ว ก็ไม่สามารถดื่มน้ำอัดลมเพิ่มได้อีก
จึงเป็นสาเหตุ สำคัญที่ทำให้ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมขยายตัวต่ำ"