คลอดกม.บัตรเครดิตตีกรอบเข้ม


ผู้จัดการรายวัน(7 พฤศจิกายน 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

รัฐบาลดีเดย์ใช้กฎหมายบัตรเครดิตจันทร์ที่ 11 พ.ย. นี้ ตีกรอบผู้มีบัตรได้ต้องมีเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน อัตราดอกเบี้ย 18% และบวกเพิ่มนัดชำระได้ไม่เกิน 2% หวั่นคนแห่กดเงินสดหลังค่าธรรมเนียมกดเงินเหลือ 3% ระบุกฎหมายครอบคลุมแบงก์-นอนแบงก์แต่ไม่ครอบคลุมบัตรเครดิตที่ออกแบบใช้จ่ายภายในเท่านั้น

วานนี้ (6 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบัตรเครดิต หลังจากในวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีการถอดถอนเรื่องดังกล่าวออกจากการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เนื่องจากมีรายละเอียดในบางข้อของกฎหมายที่ยังไม่ชัดเจนล่าสุดที่ประชุมได้สรุปแนวทางที่จะประกาศใน พ.ร.บ. บัตรเครดิต

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรืว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอย่างชัดเจนว่าที่ประชุมได้ข้อยุติเกี่ยวกับรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ. บัตรเครดิต โดยกฏเกณฑ์ใหม่จะประกาศในวันจันทร์ที่ 11พ.ย.นี้ ก่อนเสนอเข้าครม.เพื่อรับทราบโดยสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.บัตรเครดิต จะกำหนดผู้มีบัตรเครดิตต้องมีรายได้ประจำไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน หรือหากไม่มีรายได้ประจำก็จะพิจารณายอดที่มีเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในส่วนนี้นายสมคิดไม่ได้ระบุว่าจะต้องมียอดเงินฝากเท่าไรถึงจะทำบัตรเครดิตได้

พร้อมฟังได้มีการกำหนดเพดาน อัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจนคือ ไม่เกิน 18% ของยอดคงค้าง ส่วนค่าธรรมเนียมอื่นๆ ตรงนี้ต้องให้ธนาคารพาณิชย์แจ้งล่วงหน้าแกˆผู้บริโภคทราบ และมีการปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มจาก 5% คง เหลือไม่เกิน 3% ต่อครั้ง และผู้ประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

"รัฐบาลมองว่า ธุรกิจบัตรเครดิตต้องเติบโตควบคู่กับเศรษฐกิจ ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่เกิดความเสียหายแต่รัฐบาลก็ไม่ประมาท โดยต้องการให้ ธุรกิจบัตรเครดิตเติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้พ.ร.บ.บัตรเครดิตที่เตรียมประกาศใช้จะครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่ให้บริการทางด้านการเงินแต่ไม่ใช่เป็นสถาบันการเงิน ทั้งนี้ในการประชุมสมาคมธนาคารไทยสนับสนุนแนวทางของรัฐบาล" นายสมคิดกล่าว

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กฎเกณฑ์บัตรเครดิตครั้งนี้จะไม่มีผลย้อนหลังไปกับลูกค้าที่ทำบัตรเครดิต ไปแล้วถึงแม้รายได้ประจำต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน โดยในส่วนของบทลงโทษผู้ทุจริตในระยะแรก จะใช้ในส่วนของกฎหมายอาญาไปก่อน อย่างไรก็ตาม การกำหนดกฎเกณฑ์ครั้งนี้รัฐบาลดูสังคมและดูผู้บริโภคเพื่อให้ทั้งหมดอยู่ในระบบเดียวกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของการคิดดอกเบี้ยปรับจากลูกค้า ที่ผิดนัดชำระในเบื้องต้นจะมีการบวกเพิ่มจากเพดาน ดอกเบี้ย 18% บวกอีก 2% ของยอดคงค้าง แต่ในรายละเอียดคงต้องรอธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เสนอรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขอีกครั้งหนึ่ง

"แม้รัฐบาลจะมีการประกาศพ.ร.บ. บัตรเครดิต รออกมา แต่ทางรัฐบาลจะให้เวลาแก่ธนาคารพาณิชย์ หรือผู้ประกอบการที่เข้าข่ายดังกล่าวปรับตัวประมาณ 60-90 วัน แต่ตรงนี้คงต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งก่อน ส่วนการเพิ่มทุนจะต้องทำให้เสร็จภายใน 2 ปี ส่วนการกำหนดค่าธรรมเนียมนิยมกดเงินสดเพื่อให้เป็นอัตราเดียวกันจากเดิมที่อัตราดังกล่าวขึ้นอยู่กับธนาคารพาณิชยŒเป็นผู้กำหนด อย่างไรก็ตามในส่วนเพดานดอกเบี้ย 18% นั้นทางธปท. สามารถจะปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม" นายวราเทพกล่าว

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเพียงว่าในส่วนของลูกค้า บัตรเครดิตนั้น จะต้องมีการปรึกษาหารือว่าจะดำเนิน การอย่างไร แต่สาระหลักของการออกพ.ร.บ. บัตรเครดิตก็เพื่อสังคมและการฝึกนิสัยการใช้จ่ายของผู้บริโภค

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการใช้บัตรเคดิตของประชาชนว่า นโยบายชัดเจนก็คือ ไม่ต้องการให้ประชาชนใช้จ่ายเกินตัวและเกิดปัญหาครอบครัวและสังคมตามมาภายหลัง เพราะฉะนั้น การกำหนดรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่ต้องขอ มีบัตรเคดิตไว้เดือนละ 1,500 บาท ยกเว้นกรณีผู้ที่อาจจะไม่มีรายได้ประจำ แต่มีเงินฝากในธนาคารเกิน กว่าวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติให้ใช้บัตรเคดิตได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทเอกชนมักจะเอาเปรียบผู้ใช้บัตรเคดิต นายกฯ กล่าวว่า เรากำหนดดอกเบี้ยว่า จะคิดค่าปรับครั้งละเท่าไร และดอกเบี้ยต้องคิดไม่เกิน 18 เปอร์เซ็นต์และค่าปรับครั้งหนึ่งไม่เกิน 200 บาท เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบและใช้จ่ายเกินตัว สำหรับคน ที่มีรายได้น้อยและต้องไปตายเอาดาบหน้า

กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นจากแรงผักดันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่สั่งการเมื่อช่วง ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านโดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำ กฎหมายที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงและเพิ่มเติมใหม่ให้สามารถควบคุมดูแลธุรกิจบัตรเครดิตที่ช่วง 2 ปีที่ผ่าน มามีอัตราการขยายตัวสูงจนน่าตระหนกโดยเฉพาะบัตรเครดิตที่ออกโดยนิติบุคคลที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลังอาจจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ขณะเดียว กันบัตรเครดิตมักถูกร้องเรียนความไม่ธรรมหายกรณี ตั้งแต่การคิดค่าธรรมเนียมค้างชำระ ดอกเบี้ยค้างชำระที่คิดในอัตราที่สูงมาก



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.