ยุทธศาสตร์ Work Point


ผู้จัดการรายสัปดาห์(13 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับกสช. ทางบริษัทผู้ผลิตรายการเกมโชว์ยักษ์ใหญ่อย่างเวิร์คพอยท์ปรับกลยุทธ์ เข้าสู่ธุรกิจใหม่ เล็งเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์ และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

"การที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) เกิดขึ้นเป็นผลดีต่อธุรกิจวิทยุและโทรทัศน์ เพราะจะสร้างความเท่าเทียมกันในการดำเนินธุรกิจ" ปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็น

"ในส่วนของบริษัทเวิร์คพอยท์ฯมีศักยภาพที่แข็งแรงพอและมีความพร้อมในการทำงานตามนโยบายของกสช.หรือเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทของกสช.ที่คาดว่าจะออกได้อีก 6 เดือนข้างหน้านี้ โดยแนวทางการทำงานแบ่งออกเป็น 3 แนวทางคือ

การทำงานร่วมกับพันธมิตร การทำรายการป้อนสถานี และ การตั้งสถานีเอง

เวิร์คพอยท์นั้นก่อตั้งขึ้นโดยสองศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "ปัญญา นิรันดร์กุล" และ "ประภาส ชลศรานนท์" เมื่อพ.ศ. 2532 เวิร์คพอยท์เติบโตอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานความเชี่ยวชาญเฉพาะ (Core competency) ในรายการประเภทเกมโชว์ (Game Show)

ปี 2547 เวิร์คพอยท์ตัดสินใจนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นี่เป็นจุดเป็นสำคัญทางธุรกิจของบริษัทแห่งนี้

เวิร์คพอยท์เริ่มแตกไลน์ธุรกิจออกไปยังรายการโทรทัศน์ประเภทอื่น ๆ อย่างละคร และขยายธุรกิจไปในสื่ออื่นเช่นสิ่งพิมพ์ โดยการตั้งสำนักพิมพ์เวิร์คพอยท์ขึ้นมา ล่าสุดคือร่วมผลิตภาพยนตร์ และจะเป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์

นอกจากนั้น บริษัทฯได้ขยายธุรกิจสู่ภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ด้วยการร่วมลงทุนกับค่ายสหมงคลฟิล์ม (ฝ่ายละ 50% จากงบลงทุน 43 ล้านบาท) ในการสร้างภาพยนตร์ "โหน่ง-เท่ง นักเลงภูเขาทอง" ซึ่งเป็นหนังแนวบู๊ตลกสไตล์แก๊งค์ 3 ช่าที่ออกอากาศในรายการชิงร้อยชิงล้าน หนังจะเริ่มฉายประมาณมีนาคมปี คาดจะมีรายได้ 27 ล้านบาท โดยกระจายมาจาก 3 ช่องทาง ได้แก่ ดีวีดี 15 ล้านบาท, ลิขสิทธิ์หนัง 10 ล้านบาท และขายลิขสิทธิ์ให้สถานีช่อง 7 จำนวน 2 ล้านบาท

ปัญญามองว่าความร่วมมือกับสหมงคลฟิล์มนั้นจะเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีที่สุด เพราะนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมารวมกัน ประหนึ่งการรวมกับเป็นค่ายหนัง GTH ของ "แกรมมี่ - ไท เอ็นเตอร์เทนเม็นต์ - หับโห้หิ้น

"การที่เข้ามาธุรกิจภาพยนตร์และร่วมมือกับทางสหมงคลฟิล์ม เนื่องจากมองว่ามีความเสี่ยงน้อยและโอกาสกำไรมีมาก จากการที่เวิร์คพอยท์ฯมีทีมงานและบุคลากรที่มีดีมีศักยภาพ โดยจะให้บริษัทหัวฟิล์ม ท้ายฟิล์ม จำกัดเป็นผู้ดำเนินการผลิต ซึ่งในด้านการทำพีอาร์เราก็จะทำผ่านช่วงเวลาของรายการทางโทรทัศน์ของเวิร์คพอยท์ที่มี 17 รายการ ส่วนทางสหมงคลฟิล์มเองก็มีศักยภาพทางธุรกิจภาพยนตร์ที่แข็งและมีอิทธิพลต่อโรงหนัง หรือสายหนัง"

นอกจากนั้น เวิรค์พอยท์ยังได้ร่วมลงทุนกับนายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลาหรือหม่ำ จ๊กม๊กตั้งบริษัทบั้งไฟ สตูดิโอ จำกัด ภายใต้ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็นเวิร์คพอยท์ 60% และหม่ำ 40% เพื่อผลิตรายการโทรทัศน์และสื่อบันเทิงทุกรูปแบบ ซึ่งรายการแรกที่ทำ ได้แก่ รายการวาไรตี้หม่ำโชว์ที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่ 1 ต.ค. 48 ทางช่อง 5 เวลา 20.15-21.15 น. หวังจะผูกใจดาวเด่นอย่างหม่ำให้อยู่กับเวิร์คพอยท์ไปนาน ๆ และยังมีแผนรุกธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์มากขึ้น โดยเตรียมออกนิตยสารแนวครีเอท เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่น คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงเดือนธ.ค. นี้

เวิร์คพอยท์กำลังให้คำนิยามธุรกิจของตัวเองว่าคืออะไร? มีศักยภาพเพียงพอไหม และจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ในเงื่อนไขใด

บทวิเคราะห์

สถานการณ์ธุรกิจบันเทิงในช่วงเศรษฐกิจชลอตัวช่างน่าเป็นกังวลมากนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาน้ำมันยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แถมยังขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง บริษัทในธุรกิจบันเทิงทำมาหากินกับการผลิตรายการบันเทิงเช่น Work Point ถือว่าอยู่ในสภาวะเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง เพราะรายได้มาจากแหล่งเดียวคือโฆษณา ทำให้รายได้เกิดความผันผวน ทำให้ยากต่อการพยากรณ์รายได้ในอนาคต

แต่ทว่าบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์นั้นล้วนประสบชะตากรรมอย่างหนึ่ง นั่นคือจำเป็นต้องมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่มีเรื่องราราวอะไร อยู่ว่างๆก็ต้องนั่งคิดว่าทำอย่างไรบริษัทจึงจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ทั้งรายได้จากแหล่งเก่าและรายได้จากที่ใหม่อีกต่างหาก แหล่งรายได้เก่าของ Work Point อยู่ที่การผลิตเกมโชว์ป้อนทีวีช่องต่างๆ ซึ่งปัจจุบันก็ป้อนให้เกือบทุกช่องเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว

การผลิตรายการมากเกือบ 20 รายการนั้น ในยามเศรษฐกิจรุ่งเรืองนั้นถือว่าเป็นโอกาสในการเติบโตอย่างมากทีเดียว ทว่าในยามเศรษฐกิจไม่ฟู่ฟ่าเฉกเช่นเดิม การมีรายการมากมายใช่ว่าจะเป็นผลดี เพราะเป็นการยากที่จะดำรงความนิยมของทุกรายการเอาไว้ได้ เพราะความนิยมนั้นล้วนเป็นอนิจจัง วันหนึ่งมาได้และตกได้ ไม่แน่นอน

ความเสี่ยงอีกประการก็คือในแง่ของพิธีกรนั้นพึ่งพาปัญญามากจนเกินไป รายการที่เป็นแม่เหล็กล้วนแล้วแต่มีปัญญาเป็นพิธีกร แม้จะมีรายการอื่นอีกหลายรายการ ก็ไม่โดดเด่นเท่ากับรายการที่ปัญญาเป็นพิธีกร

ขณะที่เวลานี้ Work Point ไม่ใช่เมื่อหลายสิบปีก่อนซึ่งเป็นช่วงก่อตั้ง ในเวลานั้น บริษัทยังเล็กๆ การบริหารงานแบบเถ้าแก่เป็นสิ่งจำเป็น ปัญญา-ประภาส เป็นสองคู่หูที่ลงตัว คนหนึ่งคิด อีกคนเป็นคนลงมือปฏิบัติ อย่างไรก็ตามเมื่อบริษัทเจริญเติบโตมาถึงขั้นนำเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ก็หมายความว่าโครงสร้างองค์กรจำเป็นต้องเปลี่ยนให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

ซึ่งก็หมายความว่ารายการหลักๆ จากนี้ต่อไปนั้นปัญญาจำเป็นต้องสร้างพิธีกรคนอื่นไว้เป็นตัวตายตัวแทนได้แล้ว ซึ่งจริงๆปัญญาก็อาจคิดอยู่ แต่หาคนที่จะมาแทนที่เขายาก และลึกๆแล้วเขาก็ไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่ด้วย พิธีกรต่างประเทศสามารถทำหน้าที่จนไปไม่ไหวหรือตายคารายการก็มีให้เห็น จากนี้ไปวงการพิธีกรไทยอาจจะเป็นเหมือนกับต่างประเทศก็ได้ นั่นคืออยากจะเป็นพิธีกรไปจนเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ

ทว่าปัญญาต้องรู้ว่าขณะนี้ตนเองไม่ใช่ปัญญาในวัยกระเตาะอีกต่อไปแล้ว แต่คือปัญญาที่เป็นซีอีโอของ Work Point ที่ต้องรับผิดชอบนับร้อยชีวิต ดังนั้นกระบวนทัศน์ทางความคิดต้องเปลี่ยนไป

เขาต้องมีความเป็นซีอีโอมากกว่าจะเป็นพิธีกรที่สร้างความนิยมให้ตนเองและรายการเฉกเช่นแต่ก่อน การอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง โอกาสคือการสามารถระดมทุนต่ำและมั่นคงพอที่จะกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ในต้นทุนต่ำกว่าบริษัทนอกตลาดได้
อุปสรรคก็คือต้องติดกับดักของการเป็นบริษัทที่ต้องเจริญเติบโตตลอดเวลา การเติบโตตลอดเวลา ทำให้บริษัทต้องเค้นหาโอกาสทางธุรกิจโดยตลอด

โอกาสที่ว่านั้นนอกจากเพื่อกระจายรายได้แล้ว ก็ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของรายได้ที่มาจากโฆษณา

การสร้างภาพยนตร์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง แต่การสร้างภาพยนตร์ก็เป็นความเสี่ยงมากอีกอย่างหนึ่งไม่เชื่อก็ไปถามแกรมมี่และอาร์เอสดูก็แล้วกัน การสร้างภาพยนตร์ของ Work Point จึงพยายามลดความเสี่ยงโดยเลือกพันธมิตรที่แข็งแกร่งและใช้ประโยชน์จาก "ดารา" ที่ตนมีอยู่

ปัญญากำลังหาทางใช้ประโยชน์และรักษา Talent ให้อยู่กับตนเองนานที่สุด การเปิดบริษัทใหม่ให้หม่ำร่วมทุนด้วยถือเป็นยุทธวิธีหนึ่ง
ขณะที่ใช้ประโยชน์จากความนิยมของโหน่งและเท่งอย่างเนียน

ส่วนเรื่องการอยากเป็นเจ้าของทีวีสักช่อง ใครๆที่ทำ Content ก็อยากเป็นเจ้าของทีวีทั้งนั้นแหละ แต่น่าจะยังไม่ถึงรอบของ Work Point กระมัง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.