LTFผลงานโดดเด่น10อันดับแรก อเบอร์ดีนซิวแชมป์ผลตอบแทน20%


ผู้จัดการรายวัน(14 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เปิดโผกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรกตามโผของ Lipper ณ สิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา "อเบอร์ดีน" ยังคงครองความเป็นเบอร์หนึ่ง โดยให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงสุดถึง 20.87% ขณะที่กองทุน LTF ภายใต้การบริหารจัดการของ "ทหารไทย-กสิกรไทย" ติดอันดับ 1 ใน 10 ทั้งสองกองทุน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ณ วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา จากการสำรวจของ Lipper พบว่า กองทุนหุ้นระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. 10 อันดับแรก ประกอบด้วย บลจ. อเบอร์ดีน บลจ.ทิสโก้ บลจ.ทหารไทย บลจ.ฟินันซ่า บลจ.อยุธยาเจเอฟ บลจ. ธนชาต บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.วรรณ

สำหรับกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งคือ กองทุนอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.อเบอร์ดีน ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ จัดตั้งกองทุนสูงสุดถึง 20.87%

อันดับสอง กองทุนทิสโก้หุ้นระยะยาว ของ บลจ.ทิสโก้ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งกองทุน 17.41%
ส่วนอันดับสาม กองทุน JUMBO 25 ปันผล หุ้นระยะยาว ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. ทหารไทย ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่ 16.49%

อันดับสี่ กองทุนฟินันซ่า หุ้นระยะยาว ของ บลจ.ฟินันซ่า ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 13.18%

อันดับห้า กองทุนหุ้นระยะยาวอยุธยา SET50 ของ บลจ.อยุธยาเจเอฟ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 12.53%

อันดับหก กองทุน JUMBO PLUS หุ้นระยะยาว ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.78%

อันดับเจ็ด กองทุนธนชาต Big Cap หุ้นระยะยาว ของ บลจ.ธนชาต ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.71%

อันดับแปด กองทุนรวงข้าวหุ้นระยะยาว ของ บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 11.65%

อันดับเก้า กองทุนวรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟหุ้นระยะยาว ของ บลจ. วรรณ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.44%

และอันดับ 10 กองทุนรวงข้าว หุ้นระยะยาวปันผล ของ บลจ.กสิกรไทย ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.28%

ทั้งนี้ ในส่วนของกองทุนหุ้นระยะยาวภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.ทหารไทย และ บลจ.กสิกรไทย มีกองทุน LTF ภายใต้การบริหารจัดการติดอันดับ 1 ใน 10 ถึง บลจ. แห่งละ 2 กองทุน

รายงานข่าวจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยข้อมูลส่วน แบ่งตลาด (มาร์เกตแชร์) ของกองทุน รวมหุ้นระยะยาว (LTF) 10 อันดับแรกในเดือนกันยายน พบว่า บลจ.ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดคือ บลจ.กสิกรไทยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,017.67 ล้านบาท อันดับสอง บลจ. ไทยพาณิชย์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1,739.87 ล้านบาท

สำหรับอันดับสามคือ บลจ. บัวหลวง มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 747.30 ล้านบาท อันดับสี่ บลจ.ทหารไทย มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 567.34 ล้านบาท อันดับห้า บลจ.ธนชาต มูลค่าทรัพย์-สินสุทธิ 422.01 ล้านบาท อันดับหก บลจ.อยุธยาเจเอฟ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 321.91 ล้านบาท อันดับเจ็ด บลจ. ทิสโก้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 291.81 ล้านบาท อันดับแปด บลจ.อเบอร์ดีน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 282.40 ล้านบาท อันดับเก้า บลจ.วรรณ มูลค่าทรัพย์-สินสุทธิ 232.20 ล้านบาท และอันดับสิบ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 219.72 ล้านบาท

รายงานข่าวกล่าวว่า มูลค่าการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือนธันวาคม 2547 มีมูลค่าทรัพย์-สินสุทธิ 5,633.93 ล้านบาท ก่อนขยับขึ้นมาเป็น 7,840.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 2,206.96 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.