กคช.ป่วนรับเหมาเบี้ยวเซ็นสัญญาก่อสร้าง


ผู้จัดการรายวัน(13 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้ว่าการ กคช. เผย ปัญหาความล่าช้าบ้านเอื้อฯ หลังบอร์ดบริหาร มีมติเรียกผู้รับเหมา เซ็นสัญญาก่อสร้างทั่วประเทศจำนวน 70,000 หน่วย พบผู้รับเหมาไม่ยอมเซ็นสัญญาก่อสร้างกว่า 30,000 หน่วย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมารายย่อยในโครงการต่างจังหวัด เหตุสู้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาไม่ไหว เจ้าของที่ดินเล่นแง่ขอขึ้นราคาที่ดิน ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาฯ เตรียมแถลง วิธีแก้ปัญหา กำหนดระยเวลาดำเนินโครงการทั้งหมดที่ชัดเจน 14 ต.ค.นี้

วานนี้ (12 ต.ค.) ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้จับสลากผู้ได้สิทธิโครงการบ้านเอื้ออาทรในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และเขตภูมิภาค รวม 25 โครงการ จำนวน 20,310 หน่วย แบ่งเป็นโครงการ ในพื้นที่กทม.และปริมณฑลจำนวน 6 โครงการ จำนวน 9,710 หน่วย และโครงการในพื้นที่ภูมิภาค 16 โครงการ จำนวน 10,600 หน่วย โดยมีผู้ร่วมจอง สิทธิในการจับสลากรวม 56,508 ราย

นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบอร์ดบริหาร กคช.ได้มีมติอนุมัติให้เซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการบ้านเอื้อาทรทั้งในพื้นที่ กทม.-ปริมณฑล และภูมิภาคไปแล้วจำนวน 70,000 หน่วย แต่เนื่องจากที่ผ่านมา หลังจากที่มีการเปิดให้เซ็นสัญญา ก่อสร้าง ปรากฏว่ามีผู้รับเหมาหลายรายทั้งรายกลาง และรายย่อยไม่ยอมเข้ามาเซ็นสัญญาก่อสร้างกับทาง กคช. ทำให้เกิดปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการ สำหรับโครงการทั้งหมดที่ กคช.เรียกให้ผู้รับเหมาเข้ามาเซ็นสัญญาเป็นการก่อสร้างในระบบเทิร์นคีย์ และขายต่อให้ กคช. ซึ่งทุกโครงการที่ กคช. เรียกผู้รับเหมาเข้ามาเซ็นสัญญาก่อสร้างจะผ่าน ขั้นตอนการพรีเซลส์แล้ว

ทั้งนี้ หลังจากเกิดปัญหาดังกล่าว กคช. ได้หารือถึงวิธีการแก้ไขปัญหา และสอบถามไปยังผู้รับเหมาก่อสร้างถึงสาเหตุและปัญหาที่ไม่เข้ามาเซ็นสัญญา พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีหลายๆ ปัญหาด้วยกัน อาทิ ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยที่ ทำการก่อสร้างโครงการในต่างจังหวัด พบว่ามีปัญหา ในเรื่องการขอกู้ไม่ผ่าน หรือสู้ต้นทุนการก่อสร้างไม่ไหว เพราะราคาวัสดุก่อสร้างมีการปรับราคาขึ้นมาก รวมถึงในช่วงที่เปิดพรีเซลส์ได้ตกลงราคาซื้อขายที่ดิน กับเจ้าของที่ดินแล้ว แต่เมื่อจะซื้อจะขายที่ดินกันจริงเจ้าของที่ดินมีการขึ้นราคาที่ดินเพิ่มทำให้สู้ราคาที่ดินไม่ไหว

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ กคช.จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดบริหาร ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อให้คณะ กรรมการบริหารพิจารณาแก้ไขปัญหา โดยในเบื้องต้น จะเร่งให้ผู้รับเหมาเข้ามาเซ็นสัญญาก่อสร้างโดย เร็วหากผู้รับเหมายังไม่เข้ามาก่อสร้างก็จะมีการ ตัดสิทธิ์ออกไป และในวันที่ 14 ต.ค. นี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมีการเรียกประชุมและแถลงแนวทาง การแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยวิธีใหม่เช่นการรับซื้อโครงการและนำมาทำบ้านเอื้ออาทร เป็นต้น รวมถึงการกำหนดระยะเวลาในการจับสลากผู้ได้สิทธิ์โครงการบ้านเอื้อฯและระยะเวลาในการก่อสร้าง ตลอดจนการส่งมอบโครงการทั้งหมดที่แน่นอนด้วย

นางชวนพิศกล่าวว่า สำหรับปัญหาการเรียกผู้รับเหมาเข้ามาเซ็นสัญญาก่อสร้างที่มีความล่าช้าอยู่นั้น มีจำนวนประมาณ 30,000 หน่วยทั้งหมดจาก 70,000 หน่วย หรือประมาณ 20 โครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนในกทม. และปริมณฑลนั้นมีน้อยราย ปัจจุบัน กคช. มีการอนุมัติให้เซ็นสัญญาก่อสร้างโครงการไปแล้วรวม 170,000 หน่วย จากจำนวนทั้งหมด 600,000 หน่วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการโครงการบ้านเอื้ออาทรในปี 2546 จนถึงปัจจุบัน กคช. มีการเปิดให้ประชาชนจองสิทธิ์บ้านเอื้อฯรวม 15 ครั้ง โดยมี ผู้จองสิทธิ์ ทั้งสิ้น 555,522 ราย จากจำนวนโครงการ ที่เปิดให้จองทั้งสิ้น 109 โครงการคิดเป็นจำนวน 102,173 หน่วย และมีผู้ทำสัญญาแล้ว 90,182 ราย ซึ่งปัจจุบัน กคช. ดำเนินการก่อสร้างอาคารในโครงการแล้วเสร็จเรียบร้อย จำนวน 8,971 หน่วย และสามารถส่งมอบให้แก่ผู้ได้สิทธิ์แล้วในเดือนสิงหาคม 2548 รวมจำนวน 8,193 หน่วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.