|

ธปท.เดินหน้าปรับอาร์พี
ผู้จัดการรายวัน(13 ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
หม่อมอุ๋ย ระบุ 19 ต.ค.นี้แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย อีก 0.25-0.5% พร้อมพอใจผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์พาณิชย์ ระบุเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสภาพคล่องที่ลดลง วางเป้าหมายคุมเงินเฟ้อปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4-4.5% เพื่อดันดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวก ด้านกรุงไทย-กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์ขยับดอกเบี้ย 0.25% มีผลวันนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 19 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรซื้อคืนระยะ 14 วัน(อาร์พี) อีก โดยจะพิจารณา จากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้น 0.25% หรือ 0.5%
"การปรับอัตราดอกเบี้ยคงดูหลายปัจจัย เพราะอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็มี 2 ขา คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก รวมทั้งตลาดพันธบัตรของไทยในตอนนี้ ก็เริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีจำนวนพันธบัตรเพิ่มขึ้นมาก ทั้งพันธบัตรระยะสั้น และระยะยาวทำให้มีประชาชนเกี่ยวข้องมากขึ้น จึงต้องดูอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรประกอบด้วย" ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ ธปท.ต้องดูแล โดยในปีหน้า ธปท.มองว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 4-4.5% ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย นโยบายของ ธปท.ด้วย เนื่องจาก ธปท.ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกได้ภายในกลางปี 2549
ในส่วนของการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ก็เป็นเรื่องที่ ธปท.คาดการณ์ไว้แล้ว และหากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ในกลางปีหน้าจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 4% ตามที่ นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพกล่าวไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้ฝากเงิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยถือว่าต่ำไปเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เกิดขึ้นในตอนนี้ถือว่าเป็นเองที่เหมาะสมแล้ว และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และสภาพคล่อง ที่ปรับตัวลดลง กรุงไทย-ไทยพาณิชย์ปรับดอกเบี้ยกู้และฝาก 0.25%
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 1.75% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาทจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2.25% ต่อปี เงินฝากประจำ 12 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.25% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2.50% ต่อปี เงินฝากประจำ 24 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.75% ต่อปี
สำหรับเงินฝากประจำ 36 เดือน และประจำ 48 เดือน ธนาคารยังคงจ่ายในอัตราเดิมคือ 3.25% ต่อปี และ 3.75% ต่อปี ในส่วนของเงินกู้ ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท MLR MOR และ MRR เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 6.25 ต่อปี MOR ปรับเป็นร้อยละ 6.50 ต่อปี และ MRR ปรับเป็นร้อยละ 6.75 ต่อปี ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก 3 เดือน ดอกเบี้ย 3%
นอกจากนี้ ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก "กรุงไทยสมนาคุณ" สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 3% ต่อปี ฝากขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท โดยจะเริ่มรับฝากตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2548 เป็นต้นไป ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ
"การออกผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ธนาคารต้องการ แสดงความขอบคุณและตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจฝากเงินระยะยาว 48 เดือนกับธนาคาร โดย จะให้การดูแลเป็นอย่างดี ด้วยออกผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม ในตลอดระยะเวลาที่ฝากเงินกับธนาคาร"
นายจงรัก บุญชยานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงิน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% พร้อมเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ประเภทลูกค้านิติบุคคลพิเศษ ที่ฝากต่อเนื่อง 7 วัน จ่ายอัตราดอกเบี้ย 1.75% โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มประเภท 14 วัน และ 1 เดือนไปแล้ว เพื่อเสริมความ คล่องตัวของลูกค้าประเภทนิติบุคคลพิเศษ
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.50% เป็น 1.75% วงเงินฝาก ตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.75% เป็น 2.0%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน สำหรับ กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหา กำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.75% เป็น 2.0% วงเงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตรา ดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.0% เป็น 2.25%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.0% เป็น 2.25% วงเงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.25% เป็น 2.50%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน สำหรับ กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหา กำไร ทุกวงเงินฝากปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.50% เป็น 2.75%
นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ได้ปรับเพิ่มไปก่อนหน้านี้ โดยอัตราดอกเบี้ยรายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เป็น 6.25% อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เป็น 6.50% และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (MRR) เป็น 6.75% ทั้งนี้มีผลตั้งแต่ 13 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย เงินฝากประจำ 0.25% ต่อปี โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน และ 24 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดที่ 2.25%, 2.50%, 2.75% และ 2.75% ตามลำดับ สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะยาว 36 เดือน ยังคงอัตราเดิมที่ 3.25% ต่อปี
ขณะเดียวกันได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมทุกประเภท 0.25% ต่อปี โดย MLR มีอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี MOR มีอัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี และ MRR มีอัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2548
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|