|
ลลิลจับมือBAYทิ้งทวนปลายปีอัดแคมเปญดอกเบี้ย0%นาน1ปีหวังฟื้นยอดขาย
ผู้จัดการรายวัน(12 ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
ลลิลฯจับมือกรุงศรีฯ หวังสร้างยอดขายโครงการสุดท้ายปลายปี อัดแคมเปญดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี "ชาลอต" ระบุ ต่อไปนี้จะหาดอกเบี้ยคงที่ระยะยาวไม่ได้อีกแล้ว เหตุต้นทุนการเงินขึ้น ด้านไชยยันต์ ยันสิ้นปียอดขายตามเป้าโต 15-20%
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ใน ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ ได้ร่วมกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทำแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อสร้าง ยอดขาย และยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงศรีฯเอง ด้วย 3 แพกเกจ ได้แก่ 1. Prestige Package อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 1 ปี หลังจากนั้น MLR-1% ตลอดอายุสัญญา 2. Premier Package อัตราดอกเบี้ย 1% คงที่ 1 ปี หลังจากนั้นคิด MLR- 1% ตลอดอายุสัญญากู้ และรูปแบบที่ 3. Privilege Package อัตราดอกเบี้ย 2.75% นาน 1 ปี ซึ่งแต่ละแพกเกจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโครงการ และเมื่ออัตราดอกเบี้ย 0% ครบตามจำนวนที่ตั้งเป้าไว้แล้ว ลูกค้าสามารถเลือกอีก 2 แพกเกจที่เหลือได้
สำหรับแพกเกจสินเชื่อดังกล่าว มีเงื่อนไขว่าต้องซื้อบ้านของลลิลฯใน 12 โครงการ โดยจะต้องจองและโอนภายในวันที่ 15 ตุลาคม-15 พฤศจิกายน นี้ โดยลูกค้าที่จะได้สิทธิ์ดังกล่าว ต้องวางเงินดาวน์ 50,000 บาท ตั้งเป้า ยอดขาย 350 ล้านบาท หรือประมาณ 140 ยูนิต
โดยแคมเปญนี้ต้องใช้เม็ดเงินซัปพอร์ตประมาณ 8 ล้านบาท โดยบริษัทจะรับผิดชอบส่วนต่างดอกเบี้ยประมาณ 5 ล้านบาท ที่เหลืออีก 3 ล้านเป็นความรับผิดชอบของธนาคาร โดยปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกบ้านพร้อมโอน 200 ยูนิต และอยู่ระหว่างก่อสร้าง อีก 300 ยูนิต ทั้งนี้คาดว่าปีนี้บริษัทจะเติบโตได้ตามเป้า 15-20% และคาดว่าจะยังคงจ่ายเงินปันผลให้แก่ ผู้ถือหุ้นด้วย ส่วนปีหน้าคาดว่าจะโตมากกว่าตลาดรวมที่คาดว่าจะโตประมาณ 10% และมีแผนที่จะพัฒนาโครงการใหม่ประมาณ 3-4 โครงการ นายไชยยันต์ กล่าว
นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ที่ได้สิทธิ์ดอกเบี้ย 0% นั้นจะต้องขอสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 70% ของราคาบ้าน โดยแบงก์มีวงเงินจำกัดเพียง 100 ล้านบาท หลังจากนั้นก็ให้ใช้แพกเกจที่ 2 หากเต็มวงเงิน 100 ล้านบาทก็ไปใช้แพกเกจที่ 3 ต่อไป อย่างไรก็ตามยอมรับว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เพราะจากนี้ไปอัตราดอกเบี้ยคงที่สำหรับการกู้ซื้อบ้านนั้นจะยิ่งหายาก เนื่องจากต้นทุนการเงินขยับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยปลาย ปีนี้จะมีการปรับตัวสูงขึ้นอีก แต่จะปรับขึ้นเท่าใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ นอกจากนี้ต้องรอดูธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร ทั้งนี้หากมีการปรับขึ้นทางธนาคารเองก็คงจะปรับขึ้นตาม โดยคาดว่าจะขึ้นในส่วนของดอกเบี้ยเงินฝากก่อน เนื่องจากที่ผ่านมามีการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ไปแล้ว 2 ครั้ง ปัจจุบัน MLR อยู่ที่ระดับ 6.50 ส่วนเงินกู้ต้องรอดูสถานการณ์อีก 2 สัปดาห์ และช่วงรอยต่อเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าปล่อย สินเชื่อให้แก่ลูกค้าของลลิลฯ ในปีนี้จำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งนับจากต้นปีจนถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา สามารถปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 600 ล้านบาท สำหรับยอดที่เหลืออีก 400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ส่วนการปล่อยสินเชื่อบ้านโดยรวมของธนาคารนั้นปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 18,000 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 4 คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้อีก 4,000 ล้านบาท นางชาลอตกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|