พิษเศรษฐกิจกระหน่ำไทยแอร์เอเชีย ปรับลดเป้าเร่งหารายได้โฆษณากู้ยอด


ผู้จัดการรายวัน(12 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ไทยแอร์เอเชียวางแผนปีหน้า เล็งเพิ่มเครื่องบินและเส้นทางบินใหม่ๆ เผยปีนี้หนักรับ ผลกระทบจากปัจจัยลบเพียบ ต้องปรับลดรายได้ลง 15% และลดเป้า ผู้โดยสารลง เร่งหารายได้เสริมช่องทางอื่นๆ มาโปะรายได้แทน เผย สก๊อตกับโซล่าตรอนประเดิม ลงโฆษณาบนเครื่องบิน คาดรายได้ปีหน้าจากโฆษณา 50 ล้านบาท

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย แอร์ เอเชีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) ในนาม "ไทย แอร์ เอเชีย" เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2549 ว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจเต็มที่ทั้งในด้านการขยายเส้นทางบินใหม่ๆและการเพิ่มจำนวนเครื่องบิน ซึ่งปีหน้าเตรียมนำเข้าเครื่องบินโบอิ้งใหม่อีกประมาณ 6-10 ลำ พร้อมกับการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ ซึ่งจะอยู่ในรัศมีการบินไม่เกิน 3-3.5 ชั่วโมง จำนวน 5-6 เส้นทาง เช่น เส้นทางตอนใต้ของจีน เช่น เสิ่นเจิ้น กวางเจา คุนหมิง เป็นต้น และยังมีฮ่องกง ย่างกุ้ง อินเดียด้วย โดยในปีหน้า ตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้โดยสารประมาณ 4 ล้านราย

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ เนื่องจากในปีนี้ภาวะทางด้านเศรษฐกิจ มีปัจจัยลบอย่างมากไม่ว่าจะเป็นราคา น้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ภัยธรรมชาติที่รุนแรง และเหตุการณ์ทางภาคใต้ และล่าสุดคือ เหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดทางภาคเหนือ ทำให้บริษัทฯต้องปรับลดตัวเลขรายได้และจำนวนผู้โดยสารลงเพื่อให้สอดรับกับความเป็นจริง

ทั้งนี้ เป้าหมายเดิมตั้งว่าภายในปีนี้จะมีตัวเลขผู้โดยสารมากถึง 2-2.3 ล้านคน แต่คาดว่าจะสามารถทำตัวเลขผู้โดยสารได้จริงประมาณ 1.8-2 ล้านคนเท่านั้น รวมทั้งรายได้ ที่เดิมตั้งไว้ 2,000 กว่าล้านบาท ก็จะต้องปรับลดลงประมาณ 15%

ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับลดจำนวนเที่ยวบินลงบ้างในบางเส้นทาง เช่น ล่าสุด เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียง-ใหม่ จะลดลงเหลือเพียง 1 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมที่มีจำนวน 3 เที่ยวบิน ต่อวัน ในช่วงวัน 1-15 ตุลาคมนี้ แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยลบอย่าง มาก แต่คาดว่าภายในปีหน้าสถานการณ์ทุกอย่างน่าจะเริ่มดีขึ้นบ้าง โดยในเดือนหน้าสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ

นอกจากนั้นแล้ว ปัญหาของการมีเครื่องบินที่บริการไม่เพียงพอ เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้รับส่งมอบเครื่องบินใหม่ตามแผนงานที่กำหนดเอาไว้จำนวน 2 ลำ ได้ทัน จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ เพราะทำให้แผนเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ฮานอย ที่วางแผนจะเริ่มให้บริการได้ในวันที่ 17 ตุลาคมศกนี้ และเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-พนมเปญ ที่วางแผนจะให้บริการช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ จำนวน 1 เที่ยวบินต่อวันทั้งสอง เส้นทาง ต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อย 3 เดือน

จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้บริษัทฯ ได้พยายามหาช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆเข้ามาเสริม โดยเฉพาะการขายพื้นที่โฆษณาบนตัวเครื่องบิน ซึ่งได้แต่งตั้งให้บริษัท แมกซ์ เมเกอร์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงาน โดยปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วจำนวน 2 รายคือ เครื่องดื่มรังนกและซุปไก่สก๊อตและบริษัทโซล่าตรอน จำกัด (มหาชน) นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอีกประมาณ 4 ราย ซึ่งบริษัทฯคิดค่าบริการในการโฆษณาของลูกค้าเป็นแบบแพกเกจมูลค่า 7 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าการทำพื้นที่โฆษณาบนเครื่องบินนี้จะทำให้บริษัทฯมีรายได้เข้ามาประมาณ 30-50 ล้านบาทใน ปีหน้า นอกจากรายได้จากการโฆษณาแล้ว ยังได้เปิดพื้นที่ให้เช่าทาง ด้านการขนส่งสินค้ากับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าด้วย

ทั้งนี้ บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะทำรายได้จากการให้บริการต่างๆที่เข้ามาเสริมเป็นช่องทางใหม่นี้ในสัดส่วน 10-15% นอกจากการขายตั๋ว ที่ยังคงเป็นรายได้หลักกว่า 90% ในปัจจุบัน

นายทัศพลกล่าวถึงการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในปีหน้าด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัดจากทางภาครัฐในส่วนของการจัดการกับสายการบินต้นทุนต่ำว่าจัดพื้นที่ให้อย่างไร อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็พร้อมที่จะจ่ายค่าอัตราภาษีสนามบินเพิ่มอีก 15% ตามที่มีกระแสข่าวว่าจะเก็บเพิ่ม แต่ก็ยังเชื่อว่ายังไม่น่าจะปรับขึ้น เพราะว่าภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชีย ซึ่งราคาค่าบริการนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.