ไอเอ็นจีส่งLTFลุยหุ้นบิ๊กแคป เปิดขายหน่วยกลางเดือนพ.ย.นี้


ผู้จัดการรายวัน(10 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.ไอเอ็นจี คลอดกองทุนเปิด "ไอเอ็นจี ไทย บิ๊กแคป หุ้นระยะยาว" มูลค่า 2,000 ล้านบาท เน้นลงทุนหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญ่ ที่มีมาร์เกตแคปมากกว่ามาร์เกตแคปรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งแต่ 1% ขึ้นไป คาดเบื้องต้นจะเลือกลงทุนประมาณ 30-40 ตัว และกระจายการลงทุนออกไปทุกเซกเตอร์ พร้อมเปิดขายหน่วยลงทุนได้กลางเดือนพฤศจิกายนนี้

นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย บิ๊กแคป หุ้นระยะยาว ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) กองใหม่ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมีมูลค่ากองทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กองทุนดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งกองทุน ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

สำหรับกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย บิ๊กแคป หุ้นระยะยาว จะเน้นลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญ่ที่มีมาร์เกตแคปมากกว่ามาร์เกตแคปรวมของตลาด หลักทรัพย์ตั้งแต่ 1% ขึ้นไป โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นประมาณ 30-40 ตัวที่มีผลประกอบการดี มีศักยภาพและที่สำคัญเป็นหุ้นขนาด ใหญ่ ซึ่งในส่วนของการเลือกลงทุนนั้น จะกระจายการ ลงทุนออกไปในเซกเตอร์ต่างๆ ส่วนจะเน้นลงทุนเซกเตอร์ไหนคงจะพิจารณาดูสภาพตลาดในช่วงของ การลงทุนอีกครั้งว่ากลุ่มใดบ้างที่น่าสนใจ

นายจุมพลกล่าวว่า สาเหตุที่เลือกลงทุนในหุ้นบิ๊กแคปขนาดใหญ่ เนื่องจากเห็นว่าหากย้อนหลังกลับไปดูหุ้นในกลุ่มบิ๊กแคปเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าหากหุ้นมีสภาพคล่องน้อย อาจจะทำให้การขายคืนหน่วยลงทุนมีปัญหา เนื่องจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาวสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปลงทุนกองทุนอื่นๆได้ด้วย ซึ่งการจัดสรรสภาพคล่องเอาไว้อย่างเต็มที่น่าจะเหมาะสมกับการลงทุนในหุ้น อีกทั้งไม่มีความเสี่ยงด้วย

ทั้งนี้ กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย บิ๊กแคป หุ้นระยะยาว ถือเป็นกองทุน LTF กองที่ 2 ของไอเอ็นจี โดยเป็นกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลสำหรับการ ดำเนินงานด้วย ซึ่งไอเอ็นจีมีกองทุน LTF ภายใต้การบริหารอยู่แล้ว 1 กอง คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ที่เปิดขายหน่วยลงทุนไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 215 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ซึ่งจะเป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นต่อเนื่องจากกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้นเพื่อการเลี้ยงชีพ กองที่ 1, 2 และ 3 ที่เปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยกองทุนใหม่ดังกล่าวจะเป็นกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย คุ้มครองเงินต้น เพื่อการเลี้ยงชีพกองที่ 4 ซึ่งยังเหลือกองที่ 5 ซึ่งจะเปิดขายในช่วงเดียวกันของปีหน้าด้วย

นายจุมพลกล่าวต่อถึงแนวโน้มการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวว่า ในปัจจุบันสัดส่วนผู้ลงทุน ที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุน LTF ยังไม่มากนักถ้าเทียบกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯโดยรวม ทั้งนี้ เนื่อง จากกองทุนเพิ่งเริ่มต้นมาแค่ 1 ปีเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในระยะอีก 3-5 ปีหลังจากนี้ไปกองทุน LTF จะขยายตัวได้แบบก้าวกระโดด เนื่องจากผู้ลงทุนเริ่มรับรู้มากขึ้น อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น เชื่อว่าหลังจากนี้ไปดัชนีน่าจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสิ้นปีนี้ จากปัจจัยในประเทศเช่นปัญหาการขาดดุลที่เริ่มกลับมาดีขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่ง ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการลงทุนในประเทศ อีกทั้งเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุด ไปแล้ว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.