ทหารไทยเกาะกระแสตื่นทอง คลอดโกลด์ฟันด์1.2พันล้าน


ผู้จัดการรายวัน(5 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.ทหารไทยเกาะกระแสคนทั่วโลก "ตื่นทอง" เปิดตัวกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ (TMB Gold Fund) มูลค่าโครงการกว่า 1.2 พันล้านบาท ลงทุนผ่านกองทุน Street Track Gold Trust คาดนักลงทุนให้การตอบรับเนื่องจากแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวโน้มขยับตัว

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ (TMB Gold Fund) มูลค่าโครงการกว่า 1.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นวงเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน-1 ธันวาคม 2548 ซึ่งมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศผ่านกองทุน Street Track Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำชั้นนำของโลก

สำหรับกองทุน Street Track Gold Trust เป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund (ETF) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก จัดตั้งโดย World Gold Trust Services LLC ถือ หุ้นโดย World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำ ชั้นนำของโลก โดยจะลงทุนในทองคำแท่งที่มีความ บริสุทธิ์ขั้นต่ำ 99.5% ขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทองคำที่กำหนดโดยสมาคมผู้ค้าทองคำลอนดอน ปัจจุบันมีขนาดกองทุน 3,078 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ณ วันที่ 26 กันยายน 2548) หรือประมาณ 126,893 ล้านบาท

"สาเหตุที่ทำให้เราตัดสินใจออกกองทุนทองคำ เนื่องจากเห็นว่าทองคำเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคน ไทย และทองคำก็มีคุณค่าในตัวเอง ถือเป็นอีกทาง เลือกในการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และที่สำคัญจุดเด่นของกองทุนทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ยังสามารถเปิดให้ทำการซื้อขายได้ทุกวันด้วย" นาง โชติกากล่าว

นางโชติกากล่าวว่า ผลตอบแทนของกองทุนทหารไทย โกลด์ ฟันด์จะอยู่ที่มูลค่าเพิ่มของหน่วยลงทุน โดยบริษัทมีนโยบายสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำแท่ง โดยกองทุนจะลงทุนในกองทุน Street Track Gold Trust เฉลี่ยรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้ ผลตอบแทนยังได้รับการยกเว้นภาษี โดยบริษัทจะเสนอขายและเปิดรับซื้อคืนครั้งต่อไปภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินออมเหลือใช้ และพร้อมลงทุนในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้โดยไม่ตื่นตระหนกกับความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลก

สำหรับผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการลงทุนย้อนหลัง 6 ปี (2542-2547) ระหว่างการลงทุน ในทองคำ ตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และเงินฝาก พบว่า การลงทุนผ่านทองคำให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 8.5% ต่อปี ขณะที่ความเสี่ยงอยู่ที่ 4% การลงทุนในตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 20% ต่อปี ความเสี่ยงอยู่ที่ 12.6% ต่อปี ผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตรอยู่ที่ 6.82% ต่อปี ความเสี่ยงอยู่ที่ 2.63% และการลงทุนในเงินฝากให้ผลตอบแทนย้อนหลังเฉลี่ย 2.38% ต่อปี

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำในตลาดโลกคาดว่า จะปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทชั้นนำอย่างดอยช์แบงก์ และมอร์แกน สแตนเลย์ ประเมินว่า ราคาทองคำใน ตลาดโลกในปีหน้าคาดว่าจะทะยานแตะระดับ 500 ดอล- ลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลก ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 460 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

"จากการศึกษาพบว่า ราคาทองคำแท่งจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ต่างจากตราสารการลงทุนประเภทอื่นๆ ดังนั้น การเพิ่มทองคำเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ของพอร์ตการลงทุนจะมีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงโดย รวมของพอร์ตและสามารถรักษาผลตอบแทนโดยรวมได้ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับความสะดวกจากการซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ" นางโชติกากล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.