"ประชา"ลั่นของบกลางปีแก้ฉุกเฉิน ปรับแผนยุทธศาสตร์5ปีให้ทันเกม


ผู้จัดการรายวัน(4 ตุลาคม 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"ประชา" มึน รัฐให้ความสำคัญกับรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวแต่กลับตัดลดงบปี49 น้อยกว่าปี 48 กว่า 150 ล้านบาท ยาหอม ททท.หากมีกรณีเร่งด่วนพร้อมไฟเขียวของบกลางปีให้ตามความเหมาะสม เตรียม ทบทวนกลยุทธ์ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ให้ทันกับสถานการณ์รอบด้านที่เปลี่ยนแปลงเร็ว แต่คงเป้าหมายปี 51 ที่ 20 ล้านคนเท่าเดิม ด้าน สำนักงานปลัดฯฟิต เดินหน้าเพิ่มบทบาทศูนย์ท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการใน 75 จังหวัดทั่วประเทศ ใช้เป็นศูนย์บัญชาการพัฒนาแหล่ง ท่องเที่ยวและขึ้นทะเบียนมัคคุเทศก์

(วานนี้ 3 ต.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬาได้ทำพิธีเปิดที่ทำการกระทรวง และสำนักงานปลัด แห่งใหม่ ที่ถนนราชดำเนินนอก พร้อมทั้งทำบุญในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาครบรอบ 3 ปี โดยนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานในพิธี กล่าวภายหลังการเสร็จสิ้นภารกิจ ว่าในปีงบประมาณ 2549 ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) เร่งดำเนินการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเป็นจุดขายให้ได้ ภูมิภาคละ 1 แห่ง คือ ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จุดประสงค์เพื่อใช้เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวอยู่เพียงสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ส่วนงบประมาณที่ใช้ดำเนินการ จะแบ่งมาส่วนหนึ่งจากงบประมาณประจำปี 2549 ของสำนักงานปลัดฯที่ได้รับจัดสรรมา 2,993 ล้านบาท แยกเป็นงบด้านท่องเที่ยว แก่สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว 578 ล้านบาท สำนักงานปลัด 329 ล้านบาท งบด้านกีฬา 1,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือเป็นงบบริหารจัดการ

ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งในปีงบประมาณ 2549 ได้รับจัดสรรงบในวงเงิน 3,890 ล้านบาท โดยถูกคณะกรรมาธิการร่วมสภาผู้แทนราษฎรตัดลดไป 199 ล้านบาท ทำให้งบของททท.ปีนี้น้อยกว่าปีงบประมาณ 2548 ถึง 158 ล้านบาท ซึ่งถึงตรงนี้ก็ยังยืนยันเป้าหมายตัวเลขนักท่องเที่ยวของปี 2549 ตามแผนยุทธศาสตร์เดิมที่กำหนดไว้ที่ 15.12 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.33 แสนล้านบาท โดยเปิดโอกาสให้ ททท.ทำงานด้านส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากมีความจำเป็นที่จะใช้เงินเพิ่มเติมก็อาจจะมีการขอเงินจากงบกลางเข้ามาเพิ่มเติมเช่นเดียวกับปีนี้

"กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แม้จะเป็นกระทรวงเล็กๆ ที่เพิ่งเกิดใหม่ แต่ก็มีบทบาทสำคัญกับเศรษฐกิจและการหารายได้เข้าประเทศ จึงแปลกใจว่าทำไมรัฐบาลกลับจัดสรรงบประมาณ มาให้น้อย ทั้งที่ต้องการเพิ่มทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้เข้าประเทศ ตรงนี้จึงไม่เข้าใจว่าการทำงานในลักษณะนี้เป็นแนวคิดที่ถูกแล้วหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม หาก ททท.มีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อกระตุ้นตลาด เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ก็พร้อมสนับสนุน และพิจารณาของบกลางให้ตามความเหมาะสม"

อย่างไรก็ตาม จากการที่สถานการณ์รอบตัว และรอบประเทศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ดังนั้น คงจะต้องมีการทบทวนกลยุทธ์ในแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ของ ททท. เพื่อปรับเปลี่ยนให้ ทันกับสถานการณ์ ขณะเดียวกัน จะนำวิสัยทัศน์ในมุมมองส่วนตัวไปนำเสนอด้วย ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุป จะนำเข้าที่ประชุม ครม. ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงแก้ไข แต่ยังคงเป้าหมายตัวเลขเดิมคือปี 2551 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 20 ล้านคน เงินสะพัดมากกว่า 7 แสนล้านบาท ส่วนเป้าหมายสิ้นปีนี้ยังยืนยันที่ 13.38 ล้านคน

เพิ่มบทบาทศูนย์ท่องเที่ยวกีฬาใน 75 จังหวัด

ทางด้านนายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2549 มีนโยบายที่จะเพิ่มบทบาทหน้าที่ให้กับศูนย์ท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการ ซึ่งปัจจุบันนี้มีสำนักงานอยู่แล้วใน 75 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมอบภาระหน้าที่ให้เป็นศูนย์การทำงานด้านพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ให้มีคุณภาพเป็นมาตรฐาน เทียบชั้นแหล่งท่องเที่ยวระดับสากล เช่น การจัดสร้างห้องสุขา ป้ายบอกทาง ตลอดจน เปิดให้ศูนย์เป็นที่สำหรับขึ้นทะเบียนมัคคุเทศก์ และบริษัทนำเที่ยว ของแต่ละจังหวัด เพื่อให้การทำงานสะดวกรวดเร็วขึ้นจากปัจจุบันต้องมาลงทะเบียนที่ กรุงเทพฯเพียงแห่งเดียวเท่านั้น แผนงานนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระสำนักงาน ททท.ภูมิภาคที่มีไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด เพราะนโยบายหลักของรัฐบาลคือต้องการให้การทำงานของทุกหน่วยงานและภาคเอกชน มีการประสานความร่วมมือกันมากขึ้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.