|
ตรวจแถวคลัง : ครม.อนุมัติมาตรการภาษีผู้สูงอายุ
ผู้จัดการรายสัปดาห์(29 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในมาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพของรัฐบาล โดยให้ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่อยู่ในประเทศไทย ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่ได้รับเป็นจำนวน 190,000 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
และการได้รับยกเว้นดังกล่าว ผู้เสียภาษีสามารถเลือกใช้สิทธิหักจำนวนเงิน 190,000 บาทออกจากเงินได้ประเภทใดก็ได้ที่ได้รับ และนำเงินได้หลังใช้สิทธิมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามปกติ โดยผลจากมาตรการนี้จะทำให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่มีเงินได้เฉลี่ย 31,600 บาทต่อเดือนได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผลกระทบต่อรายได้รัฐบาลนั้น มาตรการภาษีสำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี แต่จะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในสังคมไทยดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล
FTAภาคการเงินสรุปไม่ลงตัว
นริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทย เปิดเผยถึงการเจรจาความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินภายใต้เขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐอเมริกา ว่า การเจรจากันในครั้งนี้ยังมีประเด็นหลัก ๆ ที่ยังไม่อาจหาข้อยุติได้ อย่าง มาตรการระงับการโอนเงินกรณีประเทศประสบปัญหาดุลการชำระเงิน มาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจมหภาคที่คณะเจรจาฝ่ายไทยเน้นย้ำให้ต้องมีการระบุในข้อบทหลัก เนื่องจากมีความจำเป็นต่อประเทศขนาดเล็กที่ต้องดำเนินมาตรการเหล่านี้เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
ฝ่ายไทยได้ยื่นร่างความตกลงเปิดเสรีบริการด้านการเงินจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยฝ่ายสหรัฐ ได้รับร่างความตกลงดังกล่าวไว้พิจารณา ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ของร่างความตกลงดังกล่าว และเปรียบเทียบกับร่างฯ ที่ฝ่ายสหรัฐ ได้เคยนำเสนอต่อฝ่ายไทยในการเจรจาครั้งแรกที่มลรัฐฮาวาย และในขั้นต้น ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะยังไม่มีการพิจารณาประเด็นเรื่อง Positive List หรือ Negative List ที่ยังมีความต่างกันระหว่างสองฝ่ายในการใช้เป็นแนวทางยกร่างข้อตกลงฯ และฝ่ายไทยได้เน้นให้ฝ่ายสหรัฐ ทราบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้แนวทางในการเจรจาฯ ในทุกกรอบการเจรจาว่าจะต้องเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย จึงจะสามารถยอมรับข้อตกลงดังกล่าวได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|