|
ตลท.สอบพิรุธบิ๊กล็อตหุ้นปิคนิค
ผู้จัดการรายวัน(29 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บิ๊กล็อตหุ้นปิคนิค 4.21 ล้านหุ้นในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 13.19 บาทขณะที่ราคาในกระดานปิดที่หุ้นละ 2.74 บาท สูงกว่าราคาตลาด 381.38% ตลท.เข้าตรวจสอบตั้งข้อสังเกต 2 ประเด็นอาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น หรือเป็นการตกลงราคาแบบหลอกเพื่อลวงนักลงทุน
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แจ้งว่าวานนี้ (28 ก.ย.) ได้มีการตกลงซื้อขายรายการใหญ่ (Big lots) ในหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (PICNI) ในนาทีสุดท้ายก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์จะปิดทำการโดยมีจำนวน 1 รายการ 4.21 ล้านหุ้นในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 13.19 บาทสูงกว่าราคาตลาด 381.38% คิดเป็นมูลค่าการซื้อขาย 55.55 ล้านบาท
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีการทำรายการซื้อขายรายการใหญ่ หุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอร์เรชั่นนั้น สามารถตั้งข้อสังเกตได้ 2 ประเด็นคือ อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นและเป็นการตกลงราคาแบบหลอกเพื่อทำให้นักลงทุนเข้าใจว่ามีผู้ต้องการซื้อในระดับราคาดังกล่าวซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้ทางตลาดหลักทรัพย์จะติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป
อย่างไรก็ดี ดีลการทำบิ๊กล็อตดังกล่าวไม่ถือว่าผิดปกติ เพราะอาจเป็นการตกลงราคากันนอกตลาด จึงไม่ต้องอิงราคาหุ้นในกระดาน ซึ่งทางบริษัทจะต้องแจ้งข้อมูลว่าใครเป็นคนซื้อและใครเป็นคนขายมาให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบภายในสิ้นวันทำการนี้
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และต้องเตือนนักลงทุนว่า ต้องพิจารณาให้ดี อย่าคิดว่ามีการซื้อขายกันที่ราคาสูงๆแล้วจะดี เพราะอาจเป็นการตกลงราคา เพื่อหลอกนักลงทุนก็ได้" นายสุทธิชัยกล่าว
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่อง ดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 2 เรื่อง 1.การกระทำดังกล่าว ผิดกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์หรือไม่ ซึ่งกรณี ดังกล่าวถือว่าไม่ผิดกฎเกณฑ์ เนื่องจากไม่มีข้อบังคับในเรื่องการกำหนดราคาซื้อขายในกระดาน บิ๊กล็อตแม้ว่าราคาซื้อขายจะสูงกว่าราคาในกระดานก็ตาม
ประการที่ 2.ต้องพิจารณารายละเอียดการซื้อขายว่าเหตุผลในการซื้อขาย รวมถึงบุคคลที่เข้า ซื้อขายเป็นใครจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบริษัทหรือไม่
ทั้งนี้ในกรณีที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่เป็นการขายหุ้นในส่วนของผู้บริหารของบริษัทก็ได้ แต่อาจจะเป็นการซื้อขายของผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายใดรายหนึ่งที่ต้องการขายก็ได้ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ยังไม่สามารถระบุได้
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่การตลาดกล่าวว่า แม้ว่าการซื้อหุ้นบิ๊กล็อตในวานนี้ของบริษัทปิคนิค คอปอเรชั่น จะสูงกว่าราคาซื้อขายในกระดานปัจจุบันมากแต่เรื่องดังกล่าวก็ถือว่าเกิดขึ้น และอาจจะไม่ใช่ว่าผู้ซื้อในวันนี้จะต้องแบกภาระขาดทุนเพราะอาจจะเป็นลักษณะการทำสัญญาตกลงระหว่างผู้ซื้อขายมาก่อนหน้านี้ โดยอาจจะเป็นการยืมหุ้นเพื่อขายในช่วงที่ราคาหุ้นสูงกว่าราคาที่มีการตกลงในวันนี้ก็ได้
ในแง่ของความผิดในเรื่องนี้ไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด และไม่มีความจำเป็นที่มีการแจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์เนื่องจากสามารถตกลงแล้วโอนหุ้นได้เลย แต่เชื่อว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวทั้ง 2 ฝ่ายต้องการให้มีหลักฐานที่ชัดเจนระหว่างการซื้อขาย
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์ กล่าวว่า ข้อมูล ที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของระบบการแจ้งข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากหากพิจารณาราคาในการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทที่มีการกำหนดไว้ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น การซื้อขายบิ๊กล็อตในวันนี้อาจจะเป็นในราคา 1.319 บาทจำนวน 42.12 ล้านหุ้น ซึ่งผิดจากข้อมูลที่มีการแจ้งผิดที่ราคา 13.19 บาท จำนวน 4.212 ล้านหุ้น โดยราคาซื้อขายจะ เท่ากันคือ 55.55 ล้านบาท
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่การซื้อขายบิ๊กล็อตจะต้องมีราคาที่ต่ำกว่าในกระดานปกติ ประกอบกับหุ้นที่บริษัทขายเพิ่มทุนจะปิดจองซื้อในวันที่ 30 ก.ย.แต่บริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นที่ปรึกษาอาจจะต้องมีการลดความเสี่ยงจึงอาจจะต้องยอมขายหุ้นในส่วนดังกล่าวออกมาในราคาที่ต่ำกว่าราคาจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าหุ้นเพิ่มทุนที่มีการขายในครั้งนี้ขายไม่หมด จึงทำให้กลุ่ม "จึงรุ่งเรืองกิจ" ต้องเข้ามาช่วยซื้อ
ขณะที่นางณัฐญา นิยมานุสร ผู้อำนวยการ สำนักงานเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.คงจะติดตามธุรกรรมการซื้อขาย หุ้น PICNI หลังจากที่มีบิ๊กล็อตวานนี้ (28 ก.ย.) จำนวน 4.21ล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 55.55 ล้านบาทในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 13.19 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าในกระดาน 6-7 เท่า
สำหรับราคาหุ้น PICNI วานนี้ปิดที่ราคา 2.74 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือคิดเป็นลบ 0.72% โดยระหว่างการซื้อขายราคาสูงสุดอยู่ที่ 2.88 บาท ส่วนราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.74 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 660.01 ล้านบาท
อนึ่งก่อนหน้านี้นายณัฐชัย อร่ามรัศมี-วาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปิโตรนาสของมาเลเซีย มองธุรกิจก๊าซหุงต้ม (LPG) ในไทยเป็นอีกผลิต-ภัณฑ์หนึ่งในไทยที่น่าสนใจ จึงมองหาช่องทางขยายการลงทุน ขณะที่ปิโตรนาส มอง PICNI เป็นบริษัทพลังงานครบวงจรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท ปิคนิค กล่าวว่า จำนวนบิ๊กล็อตครั้งนี้ที่ 4.2 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นไม่ถึง 1% ของหุ้นทั้งหมด 1.4 พันล้านหุ้น จึงถือว่าไม่มีผลกระทบต่อบริษัทในแง่ของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ดังนั้น บริษัทก็ไม่น่าจะต้องชี้แจงข้อมูลใด ๆ ในกรณีนี้ แต่หาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องการข้อมูลในเรื่องนี้ บริษัทก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|