INGพลิกกลยุทธ์ลงทุนตราสารหนี้โชว์ผลตอบแทนเดือนสิงหาฯแกร่ง


ผู้จัดการรายวัน(28 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เปิดพอร์ตกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น ภายใต้การบริหารจัดการบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผลตอบแทนยังแกร่ง ย้อนหลัง 3 เดือนให้ผลตอบแทนกว่า 2% หรูกว่าเงินฝาก ขณะที่ภาพรวมการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนยังรอฟังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธปท.ในเดือนหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับอาร์/พี อีก 0.25%

จากการสำรวจผลการดำเนินงานของกองทุนรวมตราสารหนี้ ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในแดนบวก โดยปรับขึ้นกว่า 2% ถึงแม้จะเป็นกองทุนที่จัดตั้งก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในประเทศก็ตาม

โดยผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเมนท์ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2548 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.18% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (ค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี โดยเฉลี่ยของธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์และกสิกรไทย และผลตอบแทนดัชนีพันธบัตรรัฐบาลของศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย) ที่ -5.20% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 2.04% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 0.81% ผลตอบแทนย้อนหลัง 9 เดือน 1.91% เมื่อเทียบเกณฑ์มาตรฐาน 1.78% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.80% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 1.63%

กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.08% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -5.20% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 1.95% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 0.81% ผลตอบแทนย้อนหลัง 9 เดือน 1.84% เมื่อเทียบเกณฑ์มาตรฐาน 1.78% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.74% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 1.63%

กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ตราสารหนี้ - ปันผล ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 2.05% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ -5.20% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน 1.91% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 0.81% ผลตอบแทนย้อนหลัง 9 เดือน 1.84% เมื่อเทียบเกณฑ์มาตรฐาน 1.78% และผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 1.81% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน 1.63%

ทั้งนี้ บลจ.ไอเอ็นจี สรุปภาวะตราสารหนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-23 ก.ย. 48) ว่า ผลประมูลโดยรวมที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด ทำให้อัตราผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้โดยรวมลดลง โดยที่อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุต่ำกว่า 1 ปี ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากอยู่ในช่วง -0.07% ถึง -0.10% เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด

ส่วนปริมาณการซื้อขายในตราสารหนี้อายุยาวค่อนข้างเงียบ เนื่องจากนักลงทุนค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนหน้า ซึ่งผลต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปีและ 2 ปี ปรับตัวแคบลงมาอยู่ที่ 0.83% จาก 0.94% ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยภาพรวมการลงทุน นักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังการลงทุนก่อนการประชุมนโยบายดอกเบี้ยในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอีก 0.25%

ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตราสารที่ออกใหม่มีตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนและ 6 เดือน จำนวน 2,000-6,000 ล้านบาท และพันธบัตรกองทุนน้ำมันจำนวน 22,000 หมื่นล้านบาท อายุ 1-3 ปี

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ของบลจ.ไอเอ็นจีนั้น ในช่วงที่ผ่านมามีการเพิ่มทุนโครงการจัดการกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเมนท์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในตั๋วเงินคลังและพันธบัตรระยะสั้น จากมูลค่าการจดทะเบียนเริ่มต้น 5,000 ล้านบาท เป็น 10,000 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้ นายจุมพล สายมาลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บลจ. ไอเอ็นจี ให้ความเห็นว่า การที่บริษัทขอจดทะเบียนเพิ่มขนาดกองทุนเป็น 10,000 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมากองทุนรวมประเภทตลาดเงินได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในประเทศปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนสนใจผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก รวมทั้งไม่ต้องเสียภาษีจากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับด้วย บริษัทจึงได้เพิ่มขนาดกองทุนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน โดยเชื่อว่ากองทุนดังกล่าวจะมีขนาดโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.