|
ต้องเพิ่มเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
เพิ่งจะเปิดตัวตัวแทนจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารแบบมัลติฟังก์ชันรายที่สองอย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาสำหรับบริษัทโตชิบา สิงคโปร์ หลังปล่อยให้บริษัท ชีวาเรีย ไฮเทค ตัวแทน จำหน่ายรายแรกและรายเดียวของบริษัททำตลาดมานานหลายปีดีดัก
แม้ผู้บริหารของโตชิบา สิงคโปร์ จะไม่ได้บอก ว่า ชีวาเรีย ไฮเทค ทำตลาดได้ไม่ถึงเป้าหรือแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสารในประเทศไทยไม่ได้อย่างที่ควรจะเป็น แต่การแต่งตั้งบริษัท เอฟเอ็มเอ กรุ๊ป ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายใหม่อีกรายก็เป็นประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาถามผู้บริหารกันอย่างเสียไม่ได้
โตชิบา สิงคโปร์ เข้ามาทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อโตชิบาในประเทศไทยด้วยตนเองเมื่อ 36 ปีที่แล้ว โดยแยกการบริหารจัดการจากบริษัทโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งทำหน้าที่ขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคเป็นส่วนใหญ่
การแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ในประเทศไทย เพื่อทำหน้าที่ขายเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชัน หรือเครื่องถ่ายเอกสารที่ทำหน้าที่หลายอย่างในตัวเดียว ทั้งเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร, สแกน, เครื่องพิมพ์ และเครื่องส่งโทรสารของโตชิบา สิงคโปร์ จึงเป็นความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับบริษัทในรอบ 36 ปีมานี้
ผู้บริหารของโตชิบา สิงคโปร์ เปิดเผยว่า ตามการคาดการณ์ ตัวเลขยอดรวมของตลาดเครื่องมัลติฟังก์ชันในประเทศไทยปีนี้อาจจะมากถึง 20,000 เครื่อง ในจำนวนนั้นกว่า 80% เป็นเครื่องมัลติฟังก์ชัน แบบดิจิตอลรองรับการสั่งงานผ่านการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เครือข่ายไร้สาย หรือแม้แต่การมีฮาร์ดดิสก์ในตัวเพื่อทำ การเก็บข้อมูลการสแกนเอาไว้ในตัว ขณะที่เครื่องแบบที่เรียกกันว่า stand alone คือทำหน้าที่ได้อย่างเดียวในตัวเอง นั้นมีเพียง 20% ที่เหลือเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้นแนวโน้มของตลาดเห็นได้ชัดเจนว่า เครื่องมัลติ ฟังก์ชันแบบดิจิตอลจะเข้ามาแทนที่เครื่องแบบ stand alone ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ดังนั้นการที่โตชิบาหันมาผลิตเครื่องมัลติฟังก์ชัน แบบดิจิตอลเพียงอย่างเดียวเพื่อป้อนตลาด จึงเป็นแนวทางที่ดีพอๆ กับการตัดสินใจแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในไทยเพิ่มขึ้นเป็นสองรายเพื่อช่วยกันรุกตลาด และเข้าไปให้ความรู้แก่ลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นสำนักงาน องค์กรภาครัฐ และเอกชนทั่วไป ให้เข้าใจถึงความสำคัญ ของการใช้เครื่องมัลติฟังก์ชันแบบดิจิตอลแทนการใช้เครื่องรุ่นเก่า ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกการซื้อเครื่องขาดหรือเช่าเครื่องก็ตาม
โดยโตชิบาหวังแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสาร ในปีนี้ให้ได้อย่างน้อย 10% และหวังไกลที่จะเติบโตถึง 20-25% ในปีต่อไป แม้จะเห็นความเหลื่อมล้ำของดีลเลอร์ภายใต้ตัวแทนจำหน่ายทั้งสองรายที่ซ้ำซ้อนกันอยู่บ้างก็ตาม เพราะขณะที่ดีลเลอร์รายเดิมจะขายเครื่องแบบเดียวกันให้กับผู้จัดจำหน่ายรายเดิมแล้ว บางรายก็ยังเป็นดีลเลอร์ให้กับตัวแทนจำหน่ายรายใหม่อีกด้วย
คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า งานนี้จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มอย่างที่หวังหรือไม่ เพราะขณะที่คู่แข่งอย่างฟูจิ ซีร็อกซ์, แคนนอนหรือเคียวเซียร่า ก็กำลังเร่งมือแย่งส่วนแบ่งการตลาดกันอย่างเต็มที่ด้วยเช่นกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|