|
Easy pay with CA Post
โดย
ณัฐวัฒน์ หอมจิตต์
นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
แม้จะเป็นบริการใหม่ แต่ธุรกิจการเงินและรับชำระเงิน กำลังจะกลายเป็นแหล่งรายได้หลัก ที่อาจหมายถึงอนาคตทางธุรกิจของไปรษณีย์ไทยเลยทีเดียว
ภาพของการเป็นสถานที่ที่ให้บริการในการรับส่งจดหมาย พัสดุ ธนาณัติ และไปรษณียภัณฑ์เปลี่ยนไปในทันที เมื่อไปรษณีย์ไทยได้เชื่อมที่ทำการไปรษณีย์นับพันแห่งของตนเข้าด้วยกันด้วยระบบออนไลน์ หรืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การเชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันนี้เอง นำมาซึ่งบริการรูปแบบใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดกว่า 120 ปีของไปรษณีย์ในประเทศไทย
ในทันทีที่ประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยงไปรษณีย์ทุกสาขาเข้าด้วยกัน ไปรษณีย์ไทยก็เปิดตัวเคาน์เตอร์ไปรษณีย์อัตโนมัติ หรือ CA Post ซึ่งรวมเอาบริการรูปแบบใหม่ที่อาศัยประโยชน์จากเครือข่ายออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบริการธนาณัติออนไลน์ บริการรับ-ส่งเงินจากที่ทำการสาขาหนึ่งไปยังอีกสาขาหนึ่ง หรือบริการธนาณัติเวสเทิร์นยูเนี่ยน บริการส่งเงินด่วนทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านตัวแทนของ เวสเทิร์นยูเนี่ยนที่มีมากกว่า 117,000 แห่งใน 197 ประเทศทั่วโลก และบริการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ "Pay at Post"
ด้วยบริการ "Pay at Post" ทำให้ทุกวันนี้ ผู้บริโภคไม่เพียงแต่จะสามารถใช้ที่ทำการไปรษณีย์ในการจัดส่งจดหมายและพัสดุอย่างที่เคยเป็นมาเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นจุดชำระค่าสินค้าและบริการอีกมากมายนับร้อยอย่าง ตั้งแต่รับชำระค่าบริการรายเดือน ของโทรศัพท์มือถือและโทรศัพท์บ้าน, ผ่อนสินค้า, บัตรเครดิต, เงินกู้, เบี้ยประกัน, พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์, ภาษีเงินได้ ภ.ง.ด.90, 91, ค่าปรับจราจร ไปจนถึงชำระค่าต่อใบอนุญาตตั้งสถานพยาบาล
"บริการชำระเงินทางไปรษณีย์ สะดวกทุกที่ ทุกบริการจ่ายผ่านไปรษณีย์ เงินไทยไม่รั่วไหล รายได้ส่งเข้ารัฐ พัฒนาประเทศ" กลายเป็นคำขวัญที่ติดไว้ในแผ่นพับ และเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย เพื่อโปรโมตบริการชำระค่าบริการและสินค้า ซึ่งสามารถเลือกใช้บริการ ได้ทุกที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยที่ความถี่ในการเปิดตัวคู่ค้า หรือผู้ที่อยู่ในฐานะผู้ว่าจ้างให้ไปรษณีย์ไทยสามารถจัดเก็บค่าบริการและค่าสินค้าก็เพิ่มขึ้นตลอดเวลา พร้อมกับความแปลกใหม่ของคู่ค้าที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ให้บริการสาธารณูปโภคเพียงอย่างเดียว
ขณะที่บริการธนาณัติออนไลน์ ที่ถึงแม้จะเปิดตัวให้บริการไป เพียงไม่นาน แต่กลับเป็นดาวเด่นและกำลังเป็นที่น่าจับตามองในฐานะของบริการดาวรุ่งในสายตาของผู้บริหารบริษัทไปรษณีย์ไทยไปอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่เชื่อมโยง 1,178 สาขาเข้าด้วยกัน
ทำให้ไปรษณีย์ไทยสามารถให้บริการโอนเงินไปยังสาขาปลายทางได้ในภายในเวลาเพียง 15 นาที แถมยังสามารถโอนเงินต่อฉบับได้สูงถึง 50,000 บาท โดยผู้รับปลายทางเพียงแต่ยืนยันการรับเงิน ณ สาขาของตนโดยใช้บัตรประชาชนเพียงอย่างเดียว ทำให้เกิดความ สะดวกในการใช้บริการในการโอนเงินไปมาหากันได้อย่างเต็มที่
ไปรษณีย์ไทยยืนยันความสำเร็จของการเริ่มต้นธุรกิจการโอนเงินระหว่างสาขาของตน ด้วยการเน้นย้ำถึงอัตราการใช้บริการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นแทบทุกเดือน นับตั้งแต่ต้นปีที่เริ่มเปิดให้บริการ จากหลักหมื่นรายต่อเดือน มาเป็นหลักแสน และเกือบหลักล้านต่อเดือนในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
แม้โมเดลของการใช้เครือข่ายสาขาให้เป็นประโยชน์ในแง่ของบริการด้านการเงินเพิ่งจะเกิดขึ้นกับไปรษณีย์ประเทศไทย หลังจากก่อนหน้านี้จำกัดเพียงแต่การให้บริการตั๋วแลกเงิน และธนาณัติเพียงเท่านั้น และหลายๆ ประเทศก็ให้ความสำคัญกันมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม
แต่หากเป็นไปตามแผนงานของไปรษณีย์ไทยอย่างที่คาดการณ์ กันไว้ สัดส่วนของรายได้ของธุรกิจนี้จะเป็นกำลังสำคัญให้ไปรษณีย์ของไทยสามารถเลี้ยงตัวเองและสร้างกำไรได้ในทุกๆ ปี
จากเดิมที่โครงสร้างรายได้หลักของบริษัทจะมาจากธุรกิจสื่อสาร ทั้งการรับส่งจดหมาย และพัสดุ แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า รายได้ ในธุรกิจสื่อสารจะลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่อง จากปัจจัยความนิยมในการ ส่งจดหมายลดลง เทคโน โลยีบางอย่างเข้ามาแทนที่ และการเปิดเสรีในตลาดบริการตามนโยบายการค้าเสรีที่อย่างไรเสียก็จะต้องเกิด
ในทางกลับกันบริการการเงินผ่าน CA Post ที่รวมเอาทั้งธนาณัติออนไลน์ และ Pay at Post เข้าไปไว้ด้วยกัน บวกกับธุรกิจการขนส่ง หรือ logistic จะกลายเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับไปรษณีย์ ในสัดส่วนที่มากกว่าในท้ายที่สุด
ตัวเลขประมาณการตามแผนธุรกิจของไปรษณีย์ไทยซึ่งแนบมาให้สื่อมวลชนในงานแถลงข่าวขึ้นปีที่สาม ครบรอบสองปีเต็มหลังมีการแปรรูปกิจการของไปรษณีย์ไทย มาเป็นบริษัทจำกัดเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ระบุอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของธุรกิจการเงิน ของไปรษณีย์ไทยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จนถึงปี 2552 ถึง 7.62% ขณะที่ ธุรกิจสื่อสารกลับเติบโตเฉลี่ยเพียง 5.47% เท่านั้น แม้ตัวเลขรายได้ของตลาดสื่อสารจะห่างกันลิบลับ โดยรายได้ตลาดสื่อสารยังคงทำสถิติแตะระดับหมื่นล้านขณะที่ธุรกิจการเงินยังคงอยู่ที่ไม่กี่ร้อยล้าน
แต่สัดส่วนการเติบโตของรายได้ที่ชัดเจน และเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ก็เพียงพอที่จะทำให้ไปรษณีย์ไทยให้ความสำคัญกับการให้บริการการเงินผ่านเคาน์เตอร์ของตัวเองทุกขณะ แทนที่จะให้เคาน์เตอร์เป็นเพียง จุดรับและส่งจดหมายหรือพัสดุเท่านั้น
วันนี้ พนักงานไปรษณีย์จึงไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางช่วยรับส่งจดหมาย ขายแสตมป์ และส่งพัสดุเท่านั้น แต่ยังทำตัวเป็นดั่งพนักงานธนาคาร ช่วยโอนเงินไปยังปลายทางแค่เพียงเคาะแป้นคอมพิวเตอร์ไม่กี่ครั้ง เหลือแค่เพียงรับฝากเงินออมทรัพย์และกระแสรายวัน ที่หากเมื่อไรไปรษณีย์ไทยมีบทบาทและหน้าที่ หรือกฎหมายเปิดทางให้เมื่อไร ก็คงได้เห็นภาพของพนักงานไปรษณีย์กลายเป็นพนักงานธนาคารในตัวได้อย่างไม่ยากนัก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|