ในที่สุด catcha.co.th ขายกิจการในไทย
ให้กับ เอ็มเว็บ ประเทศไทย จำกัด
หลังจากใช้เวลา 2 ปีเต็ม ฝ่ากระแสตกต่ำของดอทคอม
"ผมไม่คิดว่าเป็นเพราะเราไม่ประสบความสำเร็จ แต่อินเทอร์เน็ตไม่เติบโตอย่างที่เราคิด"
ฉัตรชัย คุณปิติลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแคทชา ประเทศไทย บอกกับ "ผู้จัดการ"
เกือบสองปีมาแล้ว ที่เด็กหนุ่มจากอุดรธานีผู้นี้ ตัดสินใจยุติการเรียนระดับปริญญาเอก
ในมหาวิทยาลัย Stanford สหรัฐอเมริกาลงชั่วคราว เพื่อแสวงหาประสบการณ์จริง
ด้วยการเป็นหุ้นส่วนทำเว็บไซต์ catcha.com เป็นเว็บไซต์ search engine ในชื่อ
catcha.co.th เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาคเอเชีย จากการชักชวนของ
แพทริก โกรฟ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารแคทชา สิงคโปร์ ที่มาสะดุดตากับเว็บไซต์
siampage.com เว็บไซต์ที่เขาทำขึ้นไว้เป็นงานอดิเรกยามไกลบ้าน
ฉัตรชัยบินกลับเมืองไทย พร้อมด้วย วิสัยทัศน์แห่งอินเทอร์เน็ต catch.co.th
เปิดฉากธุรกิจขึ้นอย่างร้อนแรง ผ่านโฆษณาบนตัวรถประจำทางปรับอากาศ สร้างชื่อเว็บไซต์
catcha.co.th ไปทั่วกรุง พร้อมด้วยสำนักงานบนอาคารเพรสซิเด้นท์ทาวเวอร์ ที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีตามสไตล์บริษัทในซิลิคอนวัลเลย์
หลังฟองสบู่ดอทคอมแตก เว็บไซต์หลายแห่งปิดตัวลง แม้ว่า catcha.co.th ไม่ติดอยู่ในกลุ่มเหล่านั้น
แต่เมื่อบริษัทแม่ คือ catcha.com ไม่สามารถนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นในสิงคโปร์
ทำให้พวกเขาต้องแสวงหาความอยู่รอด ปรับสู่สภาพความเป็นจริงของธุรกิจ ลดค่าใช้จ่าย
รัดเข็มขัด ลดพื้นที่เช่า หารายได้จากโฆษณาอย่างเต็มที่
แม้ว่า การพัฒนาเนื้อหาของเว็บไซต์ ยังคงมีต่อเนื่อง แต่สภาพตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยทุกอย่างถูกจำกัด
ฉัตรชัยเชื่อว่า ปัญหาของ catcha. co.th ไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างธุรกิจ
เมื่อทุกวันนี้พวกเขายังสามารถหารายได้จากค่าโฆษณา เดือนละ 3-4 แสนบาท แต่กระแสตกต่ำของดอทคอม
ทำให้เงื่อนไขการทำธุรกิจของ catcha เปลี่ยนไป ความต้องการเป็นเครือข่ายระดับภูมิภาคต้องถูกแทนที่ความอยู่รอด
จากการสร้างเว็บไซต์ที่ต้องอาศัยความเฉพาะเจาะจง ใช้เนื้อหาท้องถิ่นของ
catcha.co.th กลายเป็นข้อจำกัดในเรื่องของต้นทุน เนื่องจากไม่สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่
ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาในนิตยสาร JUICE ร่วมกับเว็บไซต์ในเครือข่าย แคทชา ในมาเลเซีย
อินโดนีเซีย ที่เป็นภาษาอังกฤษ
การตัดสินใจขายกิจการ catcha. co.th ให้กับบริษัทเอ็มเว็บ ประเทศไทย เจ้าของเว็บไซต์รายใหญ่ของบริษัทแม่ในสิงคโปร์
จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในยามนี้
"เท่ากับเป็นการต่อสายป่านให้ catcha เดินหน้าต่อไปได้เร็วขึ้นอย่างน้อย
ชื่อของ catcha ก็ไม่หายไปไหน" ฉัตรชัย บอก "ด้วยส่วนแบ่งตลาดของเอ็มเว็บ
ทำให้เราก้าวขึ้นอันดับ 1 ได้ทันที แทนที่จะต้องใช้เวลาและเงินทุนอีกพักใหญ่"
แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายครั้งนี้ไม่เป็นที่เปิดเผย แต่สำหรับเอ็มเว็บแล้ว
สมาชิก 1.6 ล้านคน บริการค้นข้อมูลและเนื้อหา การเป็นเจ้าของนิตยสารไลฟ์สไตล์
JUICE ของ catcha จะช่วยเติมเต็มให้กับเอ็มเว็บ และหากการเจรจาเงื่อนไขผลตอบแทนลงตัว
ฉัตรชัยและทีมงานอีก 10 คน จะถูกโอนย้ายไปอยู่กับเอ็มเว็บ
สำหรับฉัตรชัยเอง ความเชื่อมั่นในธุรกิจอินเทอร์เน็ตของเขายังไม่หายไปไหน
หากไม่ได้อยู่ร่วมในเอ็มเว็บ การเริ่มต้นในธุรกิจดอทคอมจะมีขึ้นอีกครั้ง
ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เขารู้ว่า นอกจากสายป่านแล้ว เวลาก็เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในยามนี้