แฟ้มแฟรนไชส์ : 'สะภากาแฟ' แตกไลน์ธุรกิจ เปิด 'นาโนพาวเวอร์การ์ด'


ผู้จัดการรายสัปดาห์(22 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อ 2 ปีก่อนบริษัท แอดวานซ์ แอนด์ สมาร์ท อินโนเวชั่น จำกัด (เอเอสไอ) เปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสดภายใต้แบรนด์ "สะภากาแฟ" โดยชูจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านกาแฟสดแบรนด์อื่นด้วยเมนูล้อเลียนนักการเมือง และรสชาติที่แตกต่างคือเป็นกาแฟอาราบิก้าผสมกับกาแฟโบราณ ทำให้วันนี้ "สะภากาแฟ" สามารถอยู่ในตลาดกาแฟได้ทั้งที่สถานการณ์ตลาดกาแฟเริ่มมีการถดถอยแต่ยังคงสาขาได้ถึง 30 สาขา

มาวันนี้ "เอเอสไอ" ได้แตกไลน์แฟรนไชส์อีกตัว โดยนำนาโนเทคโนโลยีจากประเทศสิงคโปร์ภายใต้การพัฒนาของ บริษัท Equation Nanotech (Singapore) Pte Ltd.ซึ่งถูกผลิตอยู่ในรูปแบบการ์ดที่มีคุณสมบัติในการดูแลสุขภาพโดยการ์ดดังกล่าวจะปล่อยคลื่นพลังงานฟาร์อินฟาเรดซึ่งนับเป็นคลื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์เข้ามาจำหน่ายในไทย ภายใต้แบรนด์ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" ผ่านช่องทางจำหน่ายแฟรนไชส์ ไดเร็คเซลล์ และร้านขายยา

จิรยุพพงศ์ สุขสมหทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดวานซ์ แอนด์ สมาร์ท อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทใช้ระบบแฟรนไชส์ในการขยาย "นาโนพาวเวอร์การ์ด" เพราะบริษัทต้องการนำบทเรียนจากการทำสะภากาแฟมาใช้ในการทำ "นาโนพาวเวอร์การ์ด"นั้นคือต้องทำให้สินค้ามีความแตกต่างจากคนอื่นซึ่ง "นาโนพาวเวอร์การ์ด" ทั้งแตกต่างด้วยรูปแบบของการ์ดที่สามารถช่วยในการดูแลสุขภาพได้

นอกจากนี้ การใช้ระบบแฟรนไชส์ยังทำให้ผลิตภัณฑ์เหมือนกันทุกราย และค่อยข้างได้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งตนคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเป็นแฟรนไชส์ของบริษัทจนถึงสิ้นปีนี้ 100 ราย เนื่องจากหลังจากที่ออกงาน Health & Beauty ก็มีผู้ที่สนใจติดต่อมาแล้ว 50 ราย คาดว่าในไตรมาศแรกของปี 2549 จะสร้างยอดขายผ่านระบบแฟรนไชส์ 50 ล้านบาท

"ผมว่าแฟรนไชส์เหมาะสมกับคนไทยมากกว่า เราไม่ทำรูปแบบเหมือนกับสิงคโปร์และมาเลเซียคือเขาจะวางขายอยู่ตามวัตสัน บูทส์ หรือร้านประเภทนี้ แต่ตรงนี้เราทำไม่ได้เพราะการวางขายกับคนไทยต้องมีการอธิบายต้องมีการใช้ปากพูด ถ้าเราเอาไปขายวัตสันหรือบูทส์ก็จะเป็นวัตถุอะไรไม่รู้ที่ถูกวางไว้คือสินค้าดีจริงแต่ไม่มีปากพูด"

นอกจากการทำตลาดในรูปแบบแฟรนไชส์แล้วบริษัทยังคิดที่จะทำเป็นระบบไดเรคเซลล์ และจำหน่ายตามร้านขายยา พร้อมกันนี้บริษัทจะจัดสัมมนาให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปและหน่วยงานราชการต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทอื่นหรือผู้ที่สนใจนำเอานาโนเทคโนโลยีไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ โดยกลุ่มเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้จะเป็นกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 18-72 ปีขึ้นไป

สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์นั้น ตนมองว่าอยู่ในทิศทางที่ดี และมีอัตราการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูง เพราะทุกวันนี้มนุษย์ทั้งโลกหันมารักสุขภาพมากขึ้นเนื่องจากมนุษย์สร้างสิ่งต่างๆ เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อมาทำลายสุขภาพของตัวเอง ขณะนี้จึงต้องการที่จะสร้างเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อทำให้มีอายุยืนและยาวนานขึ้น

โดย "นาโนพาวเวอร์การ์ด" เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพให้กับมนุษย์ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้นำระบบนาโนเทคโนโลยีมาใช้ในการย่อสารอินทรีย์ซึ่งสามารถปล่อยคลื่นพลังงานคือ ฟาร์อินฟาเรด ซึ่งเป็นคลื่นที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์มาบรรจุไว้ในรูปแบบของการ์ดเพื่อให้ง่ายต่อการพกพาและใช้งาน โดยจะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น, ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์ภายในร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติ

ในช่วงแรกบริษัทจะนำเข้าการ์ดทั้งหมด 4 ชนิดคือ การ์ดสำหรับช่วยเรื่องการนอนหลับ, การ์ดสำหรับเรื่องระงับกลิ่นกาย, การ์ดสำหรับช่วยเรื่องการปวดเมื่อย และการ์ดสำหรับช่วยเรื่องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ส่วนในอนาคตจะนำเข้ามาเพิ่มอีก 2 แบบคือ การ์ดสำหรับช่วยการปวดรอบเดือน และการ์ดสำหรับช่วยเพิ่มสมรรถภาพความเป็นชาย นอกจากนี้ จะมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยมีนาโนเทคโนโลยีเป็นส่วนผสม อย่าง สนับเข่า สำหรับอายุการใช้งานของการ์ดทุกประเภทสามารถใช้ได้ 5 ปี โดยบริษัทจะประกันคุณภาพ 3 ปี

ด้านการแข่งขันของ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" นั้นตนมองว่าคู่แข่งคงเป็นฟาร์อินฟาเรดที่ผลิตออกมาในรูปแบบชุดมากกว่า แต่หากเปรียบเทียบในรูปแบบเดียวกันถือว่ายังไม่มีคู่แข่งเพราะยังไม่ใครทำออกมาในรูปแบบนี้มาก่อน ส่วนคู่แข่งที่เป็นธุรกิจสุขภาพรูปแบบแฟรนไชส์นั้นถือว่ามีแฟรนไชส์เกิดขึ้นเยอะแต่เลิกทำไปก็มี ซึ่งตนไม่ได้คิดที่จะสู้กับใครแต่เชื่อว่าแฟรนไชส์ "นาโนพาวเวอร์การ์ด" สามารถไปได้ดีถ้าเทียบกับการเปิดแฟรนไชส์สุขภาพอย่างอื่น

'นาโนพาวเวอร์การ์ด' แฟรนไชส์ที่ลงทุนน้อย

1.ลงทุน 16,000 บาทได้การ์ดประมาณ 10 ใบ ได้ป้ายและตู้ในการโชว์สินค้า

2.ถ้า 1 เดือนไม่ประสบความสำเร็จในการขายบริษัทจะเข้าไปช่วยเหลือก่อน หากยังไม่ประสบความสำเร็จภายใน 3 เดือนสามารถเลิกกิจการและนำสินค้ามาขายคืนบริษัทได้

3.รับประกันคืนทุนภายใน 1 เดือน

4.แฟรนไชซีทุกคนจะได้รับการอบรมเรื่องนาโนเทคโนโลยี และได้รับการอบรมในเรื่องการขาย

5.แฟรนไชซีจะต้องเป็นคนที่สนใจในตัวการ์ด หรือเป็นคนที่เคยซื้อการ์ดไปใช้แล้วได้ผล และต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

6.ต้องมีความตั้งใจ และขยัน

7.ต้องมีพื้นที่ในการเปิดร้านหรือบูธในรูปแบบการจัดวางที่ใกล้เคียงกัน โดยไม่จำกัดเนื้อที่


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.