"ไทยซัมมิท"ใช้เงินไม่ถึง500ล้านฮุบหุ้นใหญ่"ปิคนิค-อีสเทิร์นไวร์"


ผู้จัดการรายวัน(22 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มไทยซัมมิททุ่มเงินเข้าลงทุนใน "ปิคนิค-อีสเทิร์นไวร์" ทุ่มเงิน 486.7 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ระบุบริษัทปิคนิคฯได้ชี้แจงข้อมูลครบถ้วน ไม่ติดใจการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นและผู้บริหารถือเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ

จากการรวบรวมข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าคนของกลุ่มไทยซัมมิท กรุ๊ปที่ได้เข้ามาซื้อหุ้น บริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI และหุ้นบริษัทอีสเทิร์นไวร์ จำกัด (มหาชน) (EWC) ได้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 486.7 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายละเอียดการลงทุนประกอบด้วยนางสาวสุวิมล ทองกร ได้เข้ามาซื้อหุ้นบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จากนางสาวสุภาพร ลาภวิสุทธิสิน และนายธีรัชชานนท์ ลาภวิสุทธิสิน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548 จำนวน 90 ล้านหุ้นหรือ 6.09% ในราคาหุ้นละ 2.30 บาท ซึ่งนางสาวสุวิมล ต้องใช้เงินจำนวน 207 ล้านบาทภายหลังการได้มาทำให้นางสาวสุวิมล ทองกร ถือหุ้นบริษัท ปิคนิคฯ ในสัดส่วน 7.44%

นอกจากนี้ ก็มีนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้เข้ามาซื้อหุ้น บริษัทอีสเทิร์นไวร์ จำนวน 2 ครั้ง ในครั้งแรกซื้อเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2548 จากนายภิรม ปริยวัต จำนวน 10 ล้านหุ้นหรือ10% ในราคาหุ้นละ 11.80 บาท ซึ่งใช้เงินลงทุนจำนวน 118 ล้าน บาท และอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2548 นายโกมลได้เข้ามาซื้ออีกจำนวน 7 ล้านหุ้นจากนายอนุวัฒน์ แซ่ตั้ง, บริษัท แอสเซ็ท บิลเลี่ยน และนางอรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ ในราคาหุ้นละ 23.10 บาท ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 161.70 ล้านบาท

จากการได้มาของหุ้นทั้ง 2 ครั้งนี้จึงส่งผลทำให้นายโกมล เข้ามาถือหุ้นบริษัทปิคนิคฯ ในจำนวน 17 ล้านหุ้น หรือ 17% โดย ใช้เงินลงทุน 279.7 ล้านบาท และส่งผลทำให้นายโกมลขึ้นเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของบริษัทปิคนิคฯ

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความ คืบหน้าเกี่ยวกับการขอข้อมูลเพิ่มเติมกับบริษัทปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า บริษัทได้มีการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดหาถังก๊าซจากบริษัทแสงทองไทยผลิตถัง จำกัด ซึ่งตามข้อมูลที่มีการชี้แจงครบตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการสอบถาม

ทั้งนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คงต้องแล้วแต่สถานการณ์ว่ายังมีประเด็นอะไรที่จะต้องสอบถาม อีกหรือไม่ เรื่องข้อมูลอาจจะเป็นเรื่องใหม่หรือเก่าก็ได้เพราะอาจจะมีธุรกรรมใหม่ๆของบริษัทที่เกิดขึ้นรวมถึงธุรกรรมเก่าที่อาจจะพบประเด็นสงสัยเพิ่มเติม

สำหรับเรื่องการเปลี่ยนทั้งในส่วนของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นเรื่องของธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ติดใจในกรณีดังกล่าว ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัท ก็ต้องมีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้นักลงทุนทราบ ข้อมูล

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการแจ้งเตือนให้นักลงทุนทราบเกี่ยวกับการทำรายการและบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำรายการ เพื่อให้นักลงทุนใช้พิจารณาประกอบการในการลงทุน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.