บัตรกรุงไทย19บาท ยอดจองสถาบันพุ่ง


ผู้จัดการรายวัน(15 ตุลาคม 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

บัตรกรุงไทยมองเหนือชั้นกำหนดราคาขายหุ้น 19 บาท หวังจูงใจนักลงทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นจากการราคาที่เคลื่อนไหวหลังเข้ากระจายหุ้นแล้ว เมอร์ริล ลินช์ ระบุยอดจองของนักลงทุน สถาบันพุ่งเกือบ 2 เท่าจากยอดจำหน่าย 29.93 ล้านหุ้น คาดเม็ดเงินที่ระดมทุนได้เกือบ 1,000 ล้านบาท มุ่งขยายธุรกิจและชำระคืนหนี้กรุงไทย ยืนยันแปรรูปแบงก์กรุงไทยยังเป็นตามแผนเดิมคือเดือนพ.ย.

วานนี้ (14 ต.ค.) บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTC) ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ริล ลินช์ ภัทร จำกัดเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนและ 11 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของไทยเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมเปิดให้จองหุ้นในราคา 19 บาท ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม นี้

นายนิวัตต์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ KTC กล่าวอย่างชัดเจนว่าราคาหุ้นที่กำหนดไว้ 19 บาทมีความเหมาะสมและเป็นราคาที่ทำให้ผลตอบแทน ให้กับนักลงทุนได้

สำหรับจำนวนหุ้นที่ออกขายจำนวน 51 ล้านหุ้นนั้นทางบริษัทฯจะได้เงินจากการระดมทุนประมาณ 969 ล้านบาท เพื่อนำไปขยายธุรกิจรวมถึงการชำระคืนหนี้ให้กับธนาคารกรุงไทย และคาดว่าจำนวนเงินที่เพิ่มทุนครั้งนี้จะเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจในช่วง 2 ปีนับจากนี้

"ทีมงานของKTC พยายามทำงานอย่างเต็มที่และนี้เป็นครั้งแรกในการทำงานสนุกแม้จะมีระยะเวลาเตรียมความพร้อมที่สั้นประมาณ 6 เดือน แต่ถือว่าเป็นเรื่องท้าทายและเป็นประวัติการณ์ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งผมเชื่อว่ากรุงไทยจะมีความสุขที่เห็นบริษัทลูกสามารถไปแข่งขันกับผู้อื่นได้ ผมคิดว่ากรุงไทยคงมีความสุข" นายนิวัตต์กล่าว

ตามร่างหนังสือชี้ชวนระบุว่า หนี้สิน ณ วันที่ 30 มิ.ย.45 นั้นKTC ได้รับอนุมัติวงเงินกู้จากธนาคารกรุงไทยจำนวน 9,030 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินทั้งหมด 3 วงเงิน ได้แก่ เงินกู้เบิกเกินบัญชี 30 ล้านบาท (อ้างอิงจากอัตราการเบิกถอนเงินเกินบัญชีสำหรับลูกค้าชั้นดี (MOR) วงเงินกู้ 8,000 ล้านบาทมีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงจากMLR และวงเงินกู้ระยะสั้น 1,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง จากTreasury Yield Curve

ขณะที่การดำเนินธุรกิจการออกบัตรเครดิตของบริษัทฯพบว่าจากช่วงเดือนมิ.ย.ถึงส.ค.ที่ผ่านมามีอัตราเติบโตอย่างมาก บัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 410,355 บัตร ขยายตัว 59.4% การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตรวมสูงถึง 9,784 ล้านบาท อัตราเติบโตช่วง 2 เดือน 53% การเบิกเงินสดล่วงหน้าสะสมช่วง 2 เดือน 2,286.89ล้านบาทอัตราการเติบโต 61.9% อัตราการผ่อนชำระต่อลูกหนี้สุทธิเพิ่มขึ้น 79.56% ปริมาณการซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านค้าของบริษัทฯสะสม 8,789.35 ล้านบาท อัตราการเติบโตช่วง 2 เดือน 36.3%

นายนิวัตต์กล่าวยอมรับว่าขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่า ยอดบัตรของบริษัทที่มีอยู่ถือว่าเป็นผู้นำของระบบหรือไม่ แต่ถ้ายึดตามข้อมูลของบริษัท วีซ่าฯที่มีส่วนแบ่งตลาดบัตรเครดิตในประเทศประมาณ 90% ระบุว่าKTC มีจำนวนบัตรเครดิตสูงถึง 5 แสนบัตร

นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ริล ลินช์ ภัทร จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้มีการโรดโชว์หุ้นของKTC ให้กับนักลงทุนประเภทสถาบัน ปรากฏว่านักลงทุนจำนวน 20 รายได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยมีการแสดงความต้องการที่จะซื้อหุ้นจำนวนมากถึง 2 เท่าของส่วนที่จะจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบันจำนวน 29.93 ล้านหุ้น

และในส่วนของประชาชนทั่วไปจะจำหน่ายหุ้นผ่านระบบออนไลน์ของSettrade .com จำนวน 19 ล้านหุ้น และที่เหลืออีก 3 ล้านหุ้นจะให้กับบุคคลทั่วไป ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่มาก กว่า จำนวนที่จัดสรรแน่นอน และจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 24-25 ตุลาคมนี้

"มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน ถึงแม้ว่าภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวยจากภาวะสงคราม และวันนี้ได้มีการซ้ำเติมจากวางระเบิดเกาะบาหลีในประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ภาวะหุ้นในเอเชียดัชนีตกลงไปบ้างเล็กน้อย แต่เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นทางด้านจิตวิทยาเท่านั้น" นายสุวิทย์กล่าว

ยันแปรรูปแบงก์กรุงไทย เดือน พ.ย.ตามแผนเดิม

ส่วนการแปรรูปของธนาคารกรุงไทยซึ่งบริษัทฯได้เป็นที่ปรึกษาการแปรรูปและรับประกันการจำหน่ายหุ้นนั้น ยังคงดำเนินไปการตามปกติ ซึ่งยังมีเรื่องที่จะต้องพิจารณาและสรุปอีก 2-3 เรื่องหลังจากนั้นก็จะมีการออกโรดโชว์ ให้กับนักลงทุน ซึ่งบริษัทจะมีการทบทวนถึงภาวะตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับราคาของหุ้นที่จะเปิดขายให้กับนักลงทุน อีกทั้งจำนวนหุ้นที่จะออกมาขายให้กับประชาชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ

สำหรับกำหนดการกระจายหุ้นของธนาคารกรุงไทยนั้น ยังคงเป็นไปตามแผนเดิมที่กำหนดไว้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการกำหนดราคาที่นักลงทุนได้เสนอมา (บุ้คบิลด์)ประมาณกลางเดือนพ.ย.รวมทั้งกำหนดจำนวนหุ้นว่าจะกระจายเท่าใดด้วย

ปัจจัยที่น่ากังวลเกี่ยวกับการกระจายหุ้นของธนาคารกรุงไทยนั้นคือ ภาวะสงครามที่จะเกิดขึ้นระหว่างอิรักและอเมริกา โดยขณะนี้อเมริกาได้รับอนุมัติจากสภาที่ให้ทำสงครามได้นอกจากนี้ยังมีเรื่องภาวะเศรษฐกิจโดยรวมด้วย

หากมีการเกิดสงคราม ประเทศไทย อาจจะถูกกระทบบ้างโดยเฉพาะเรื่องของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะกระทบเป็นระยะเวลาเท่าใด ถึงแม้ว่าธนาคารกรุงไทยจะมีความพร้อมทั้งทางด้านผลประกอบการหรือโครงสร้างภายในองค์กรก็ตาม

ดังนั้น บริษัทจำเป็นที่จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้การกระจายหุ้นเป็นไปตามแผนที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้กำหนดไว้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.