MBKดันหุ้นสนามกอลฟ์เข้าตลท.


ผู้จัดการรายวัน(16 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มเอ็มบีเคดันบริษัทย่อย"เอ็มบีเค รีสอร์ท" ที่ทำธุรกิจสนามกอล์ฟเข้าตลาดหลักทรัพย์ กระจาย 40 ล้านหุ้น หวังนำเงินไปใช้ขยายโครงการลงทุนสนามกอล์ฟ

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)แจ้งว่าเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548สำนักงานได้เริ่มนับหนึ่งแบบรายการแสดงข้อมูล(ไฟลิ่ง)ในหุ้นบริษัทเอ็ม บี เค รีสอร์ท ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสินเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้บริษัทเอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด(มหาชน)จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 20% ของทุนชำระแล้ว ซึ่งเงินที่ได้จากการขายหุ้นจะนำไปขยายโครงการลงทุนสนามกอล์ฟ

บริษัทเอ็ม บี เค รีอสอร์ท ดำเนินธุรกิจให้บริการสนามกอล์ฟ โดยการเช่าที่ดินและสนามกอล์ฟเนื้อที่ประมาณ 488 ไร่จากกองทุนรวมธนชาติพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ 1 เพื่อการบริหารและการดำเนินงานสนามกอล์ฟที่ชื่อว่าสนามกอล์ฟ ล็อค ปาล์ม พาร์ 72 และบริษัทมีบริษัทย่อยคือบริษัทคริสตัล เลค พร็อพเพอร์ตี้ส์ ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติในนามบริษัททรอปิคอล ไลฟ์ โฮลดิ้ง เพื่อดำเนินการพัฒนาที่ดินรอบสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม

ผลการดำเนินงานของบริษัท พบว่ารายได้และกำไรสุทธิของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นมาจากการขยายตัวของรายได้ค่าเช่าและบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2547 อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ได้เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิใน

จังหวัดชายฝั่งอันดามันของประเทศไทยรวมทั้งจังหวัดภูเก็ต ส่งผลให้รายได้และกำไรสุทธิของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2548 มีการปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2547 โดยในปี 2546 บริษัทมีกำไรสุทธิ 21.73 ล้านบาทปี 2547 มีกำไรสุทธิ 22.13ล้านบาทและใน 6 เดือนแรกปี 2548 มีกำไรสุทธิ 6.62 ล้านบาท

โครงการทีบริษัทจะดำเนินการในอนาคต จะประกอบด้วยโครงการระยะสั้น 1-2 ปี ประกอบด้วยโครงการพัฒนาสนามกอล์ฟล็อคปาล์ม ,โครงการพัฒนาที่ดินโดยรอบสนามกอล์ฟล็อคปาล์มเพิ่มเติม และโครงการสร้างสนามกอล์ฟแห่งที่ 2 ขนาดประมาณ 600 ไร่

ส่วนโครงการระยะกลางระยะเวลา 3-4 ปีประกอบด้วยโครงการสร้างสนามกอล์ฟแห่งที่ 3 ขนาดประมาณ 351 ไร่ที่อำเภอบางกะดี จังหวัดปทุมธานี โดยจะเริ่มก่อสร้างในปลายปี 2548 และจะแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 2 ปี 2551

ส่วนโครงการระยะยาวมากกว่า 4 ปีนั้นบริษัทมีแผนที่จะซื้อที่ดินหรือเช่าที่ดินระยะยาว เพื่อพัฒนาสนามกอล์ฟแห่งอื่นๆ นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสนใจลงทุนในสนามกอล์ฟแห่งอื่นที่ประสบปัญหาด้านการเงินและต้องการเปลี่ยนเจ้าของหรือผู้บริหารสนามหากโครงการดังกล่าวให้ผลตอบแทนได้ตามที่บริษัทกำหนด

โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเอ็ม บี เค รีสอร์ท 3 อันดับแรกประกอบด้วยกลุ่มบริษัทเอ็ม บี เค ถือหุ้น 67.49% ภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทำให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 53.99% รองลงมาได้แก่กลุ่มตันติวิทและกลุ่มอุบัติศฤงค์ ถือหุ้นแห่งละ 16.25% ภายหลังสัดส่วนจะลดลงเหลือแห่งละ 13%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.