"โต้ง"ยันไม่เลือกปฏิบัติAPURE


ผู้จัดการรายวัน(16 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

"กิตติรัตน์" ยันไม่เลือกปฏิบัติ มีหน่วยงานตรวจสอบทำงานโดยระบบ หลังตลาดหลักทรัพย์ฯเชือดอกริเพียวสั่งห้ามเล่นเน็ตเซตเทิลเมนต์ มาร์จิ้น 15 วัน สิ้นสุด 5 ตุลาคม เหตุซื้อขายกระจุกตัวการเปลี่ยนแปลงของราคาและปริมาณผิดปกติ ส่งผลราคาหุ้นอกริเพียวโฮลดิ้งร่วงกว่า 5% ด้านดัชนีหุ้นไทยวานนี้แรงขายหุ้นขนาดใหญ่ พลังงาน แบงก์ กดดัชนีปิดลบกว่า 6 จุด แต่วอลุ่มยังหนา 2.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่หุ้นเอเซียพลัสร่วงวานนี้

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า เนื่องจากการซื้อขายหลักทรัพย์บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)(APURE) และหลักทรัพย์ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (APURE-W1) ในช่วงวันที่ 8-14 กันยายน 2548 มีการเปลี่ยนแปลงของราคาและมูลค่าการซื้อขายรวมเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเวลาก่อนหน้า และมีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์ดังกล่าว

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและระงับการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่มีแนวโน้มที่อาจส่งผลกระทบเสียหายต่อสภาพการซื้อขายโดยรวม อันเนื่องมาจากมีการเปลี่ยนแปลงของราคา หรือปริมาณการซื้อขายในหลักทรัพย์นั้นอย่างรุนแรง หรือ มีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์นั้นเป็นจำนวนมาก

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) ของหลักทรัพย์นี้ชั่วคราว เป็นเวลา 15 วันทำการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน - 5 ตุลาคม 2548

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การสั่งห้ามซื้อขายด้วยเน็ตเซตเทิลเมนต์ และมาร์จิ้นในหุ้น APURE และ APURE-W1 เป็นไปตามกฎเกณฑ์การซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงผิดปกติ ซึ่งหน่วยงานตรวจสอบการซื้อขายที่ผิดปกติเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งนี้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯจะเข้าไปเกี่ยวข้องในเฉพาะคำสั่งห้ามเน็ตเซตเทิลเมนต์และมาร์จิ้น

สำหรับกระบวนการทำงานตรวจสอบจะควบคุมโดยระบบ และจะเข้าไปจับตาหากพบความผิดปกติก็จะนำเรื่องส่งให้คณะอนุกรรมการในการพิจารณาอีกครั้ง

"ผมทำตามหน้าที่ของผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้จะรู้ว่าผู้ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่มีความผันผวนในลักษณะนี้ จะมีความรู้และเข้าใจความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งที่จริงแล้วผมก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งอะไรมาก แต่ต้องทำตามหน้าที่" นายกิตติรัตน์กล่าว

นายกิตติรัตน์ กล่าวยืนยันว่า การตรวจสอบพฤติกรรมความผิดปกติของการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้

นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวถึงความผิดปกติของหุ้นบริษัทอกริเพียว โฮลดิ้งส์ และวอร์แรนต์ เนื่องจากเห็นว่าปริมาณการซื้อขายและราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงมากและมีเทิร์นโอเวอร์สูงถึง 1,000% ซึ่งขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าเมื่อครบกำหนดจะมีมาตรการใดๆ เข้ามาอีกหรือไม่ เพราะยังต้องดูพฤติกรรมการซื้อขายต่อไป

ด้านภาวะการลงทุนวานนี้(15ก.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 711.20 จุด ลดลง 6.57 จุด หรือ 0.92% มูลค่าซื้อขาย 21,153.40 ล้านบาท จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ พลังงาน และปิโตร เคมีตลอด ส่วนหุ้นเก็งกำไรแรงเก็งกำไรลดลงหลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯใช้มาตรการห้ามเน็ตเซตเทิลเมนต์ และมาร์จิ้นหุ้นอีสเทิร์นไวร์ และหุ้นอกริเพียวโฮลดิ้ง

ทั้งนี้ หุ้นอกริเพียวโฮลดิ้ง ปิดที่ 3.82 บาท ลดลง 0.22 บาท หรือ 5.45 % ส่วนวอร์แรนต์ของบริษัทอกริเพียว โฮลดิ้ง ราคาปิดที่ 3.24 บาทลดลง 0.26 บาทหรือ 7.43% มูลค่าการซื้อขาย 4,492.98 ล้านบาท

นายเกียรติก้อง เดโช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ เปิดเผยถึง ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัว สลับกันทั้งในแดนบวกและแดนลบ เนื่องจากภาวะตลาดมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ดัชนีได้ปรับเพิ่มขึ้นและไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 720 จุดได้ ดังนั้นจึงทำให้นักลงทุนรายย่อยเทขายหุ้นออกมานอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯในภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยอีกด้วย

ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯในวันนี้ (16 ก.ย. 48 ) คาดว่าดัชนีฯมีโอกาสยืนในแดนบวกมากว่าในแดนลบแต่ก็ยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวเนื่องจากภาวะตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาสนับสนุนนอกจากนี้อาจจะมีแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นมากแล้วโดยเฉพาะหุ้นที่มีประเด็นข่าวเข้ามาสนับสนุนในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในวันพรุ่งนี้ก็ยังคงเป็นปัจจัยที่น่าเป็นห่วงอยู่เพราะมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง รวมทั้งดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯต่างประเทศก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามเช่นกันซึ่งปัจจัยทั้งสองอาจเป็นปัจจัยชี้นำภาวะตลาดหุ้นไทยได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนระยะสั้น ถ้ามีกำไรให้ขายออกมาบ้างส่วนนักลงทุนระยะยาวแนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเช่นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร เป็นต้น โดยให้แนวรับไว้ที่ 711 จุดและให้แนวต้านไว้ที่ 720 จุด

ส่วนหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ได้ปรับตัวลงในช่วงเช้าหลังมีกระแสข่าวลือว่า นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) ลาออกจากบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม นายก้องเกีรยติ ได้ออกมาชี้แจงยืนยันว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริง ซึ่งยังมีภารกิจที่จะต้องทำให้สำเร็จอีกมาก หลังจากที่ได้นำบล.แอสเซทพลัสเข้าควบรวมกับบล.เอบีเอ็น แอมโร เอเชียแล้ว

ทั้งนี้ราคาหุ้นบล.เอเซียพลัส เปิดตลาดที่ 6.15 บาท ราคาปรับลดลงไปต่ำสุดที่ 6 บาท และปิดตลาดที่ 6.05 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 1.63% มูลค่าซื้อขาย 323.6 ล้านบาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.