|
เพิ่ม30สินค้าดูแลสกัดโขกผู้บริโภค แบไต๋ปล่อยผีสินค้าขึ้นหลัง30ก.ย.นี้
ผู้จัดการรายวัน(16 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
"พาณิชย์"เพิ่มบัญชีสินค้าดูแลอีก 30 รายการ เริ่มบังคับ 1 ต.ค.นี้ สกัดพ่อค้าขูดรีดผู้บริโภค ขู่หากใครตุกติกจะเริ่มบังคับทันที แถมยัดบัญชีควบคุมด้วย เตรียมปล่อยผีสินค้าขึ้นราคาหลังพ้นช่วงขอความร่วมมือตรึงราคา 30 ก.ย.นี้ เพราะจะไม่ขอความร่วมมืออีก แต่มีเงื่อนไขต้องแจ้งต้นทุนย้อนหลัง 2 ปี งบดุล บัญชีกำไรขาดทุน และรายการซื้อวัตถุดิบประกอบ สั่งจับตาผักขึ้นราคาหลังน้ำท่วม และใกล้เทศกาลกินเจ
นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เพิ่มรายการสินค้าติดตามดูแลสถานการณ์ราคาใกล้ชิดอีก 30 รายการ จาก 120 รายการ เป็น 150 รายการ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2548 เป็นต้นไป เนื่องจากพบว่าสินค้าบางรายการมีการเคลื่อนไหวของราคาค่อนข้างมากและมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นมากตั้งแต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่บางรายการสินค้ามีแนวโน้มราคาสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย. จึงจำเป็นต้องนำเข้ามาเป็นสินค้าที่ต้องติดตามดูแล เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านค่าครองชีพของประชาชน
"มีการพิจารณาแล้วเห็นว่าสินค้าทั้ง 30 รายการ มีความจำเป็นต่อการครองชีพของประชาชน และมีความอ่อนไหวด้านราคาค่อนข้างสูง กรมฯ จึงได้ขอติดตามดูแลเพิ่มเติม โดยจากนี้ไป กรมฯ จะออกไปตรวจสอบและหากพบว่ามีสินค้าใดที่ฉวยโอกาสปรับราคาขึ้นก่อนวันที่ 1 ต.ค. กรมฯ จะขอให้เป็นสินค้าที่ติดตามดูแลทันที และหากยังพบว่าผู้ประกอบการไม่ให้ความร่วมมือก็จะพิจารณาจัดให้อยู่ในรายการสินค้าควบคุมเพิ่มเติมจากเดิมที่มี 26 รายการก็ได้" นายศิริพลกล่าว
สำหรับสินค้า 30 รายการ ได้แบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้ หมวดอาหารสด 4 รายการ ได้แก่ เส้นก๋วยเกี่ยวสด กุ้งขาว ปลานิล ปลาทูนึ่ง หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 7 รายการ ได้แก่ เครื่องดื่มรสชอกโกแลตปรุงสำเร็จชนิดน้ำและผง ครีมเทียม ซอยหอยนางรม เครื่องปรุงแต่งรสอาหารสำเร็จรูป กาแฟสำเร็จรูปพร้อมดื่มบรรจุภาชนะผนึก แป้งมันสำปะหลัง และเกลือ หมวดของใช้ประจำวัน 6 รายการ ได้แก่ ครีมบำรุงผิว ครีมหรือน้ำยาเปลี่ยนสีหรือย้อมเส้นผม ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นหรือดับกลิ่น โฟมล้างหน้า น้ำยาหรือครีมเคลือบเงารองเท้า หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2 รายการ ได้แก่ เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องเป่าผม หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง 2 รายการ ได้แก่ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และผ้าเบรค หมวดวัสดุก่อสร้าง 5 รายการ ได้แก่ แผ่นยิบซั่ม แผ่นฉนวนกันความร้อน หิน ทราย คอนกรีตผสมเสร็จ และหมวดทั่วไป 4 รายการ ได้แก่ โฟมบรรจุอาหาร แบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และเหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม
นายศิริพลกล่าวว่า ส่วนมาตรการในการกำกับดูแล 150 สินค้านั้น กรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้แจ้งกรมฯ ทราบ หากจะมีการเปลี่ยนแปลงราคา ขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า ดิสเค้าต์สโตร์ให้แจ้งกรมฯ หากผู้ผลิตสินค้า (ซัปพลายเออร์) เปลี่ยนแปลงราคา การจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจราคาสินค้าทุกวันสำหรับเขตกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดให้รายงานสถานการณ์สัปดาห์ละครั้ง ขณะเดียวกัน กรมฯ จะนำสินค้าทั้ง 150 รายการ มาจัดทำบัญชีในการติดตามดูแลแต่ละเดือนด้วย
"ยอมรับว่าสินค้าใน 30 รายการ มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อบ้าง แต่ที่กรมฯ นำมาดูแลใกล้ชิดไม่ใช่เพื่อต้องการดึงเงินเฟ้อลงมา เพราะมันคนละส่วน แต่ที่ทำเพื่อช่วยดูแลผู้บริโภค"นายศิริพลกล่าว
นายศิริพลกล่าวว่า กรณีที่มาตรการขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้ กรมฯ จะไม่มีมาตรการตรึงราคาอีก แต่หากผู้ประกอบการรายใดต้องการปรับราคาสินค้า จะต้องยื่นหลักฐานแสดงต้นทุนย้อนหลัง 2 ปี รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ เช่น บัญชีกำไรขาดทุน บัญชีรายการซื้อวัตถุดิบหรือนำเข้าวัตถุดิบ เพื่อประกอบการพิจารณาปรับขึ้นราคา ซึ่งหากกรมฯ ไม่อนุมัติ ก็ไม่สามารถปรับขึ้นราคาได้
ส่วนสินค้า 18 รายการที่ขอปรับราคามาก่อนหน้านี้ กรมฯ ยังไม่ได้พิจารณาให้สินค้ารายใดปรับราคา เนื่องจากเอกสารหลักฐานต้นทุนไม่สมบูรณ์ และอยู่ระหว่างขอเอกสารเพิ่มเติม
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค. 2548 กรมการค้าภายใน ได้ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ทั่วประเทศ จำนวน 320,127 ราย มีการดำเนินคดี 302 ราย รวมเป็นเงินค่าปรับ 370,200 บาท
นายกรณรงค์ ฤทธิ์ฤาชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในจังหวัด เฝ้าดูแลและติดตามการเคลื่อนไหวด้านปริมาณและราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะชะงักและเกิดการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า จากการที่ผลผลิตได้รับความเสียหายจากภาวะฝนตก น้ำท่วม และเข้าเทศกาลกินเจ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 3 ต.ค.นี้ ที่เป็นช่วงที่มีความต้องการผักสดสูงกว่าช่วงปกติ 30%
"ขณะนี้ กลุ่มผักทุกตัวมีราคาดีขึ้น แต่บางตัวราคาโด่งเกินไป และยิ่งมาได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมอีก บางรายการราคาอาจขยับขึ้นเฉลี่ย 15-20% จากปีก่อน ซึ่งกรมฯ จะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด"นายกรณรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาวะราคาสินค้าเกษตรโดยทั่วไป เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ราคาเพิ่มขึ้นเร็วมาก 4-5 บาท/กก./วัน ขณะที่สินค้าอื่นๆ ราคายังอยู่ในเกณฑ์ปกติ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 3 ราคาฟองละ 2.30-2.40 บาท สุกรมีชีวิตกก.ละ 40-47 บาท สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคากก.ละ 40-45 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กก.ละ 5-5.40 บาท สูงกว่าปีก่อนที่กก.ละ 4.49 บาท มะนาวแป้นขึ้นจากราคาลูกละ 1 บาท เป็น 1.75-2 บาท เป็นต้น
ทั้งนี้ สินค้าเกษตรที่มีการติดตามดูแล 53 สินค้าในเดือนก.ย.2548 ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.กลุ่มที่ต้องมีการดูแลและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดหรือต้องดำเนินการแก้ไขปัญหา เนื่องจากอยู่ในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด (Monitor List) มี 11 รายการ คือ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง เงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง มะนาว ไก่เนื้อ ไข่ไก่ และกุ้ง 2.กลุ่มที่ต้องเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์เพื่อการเตือนภัย ซึ่งเป็นสินค้าที่กำลังจะออกสู่ตลาด และคาดว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในระยะต่อไป (Caution List) จำนวน 3 รายการ คือปาล์มน้ำมัน กระเทียม เกลือทะเล 3.กลุ่มสินค้าที่มีการติดตามสถานการณ์ตามปกติ(Watch List)จำนวน 39 รายการ อาทิ มันสำปะหลัง มะพร้าว รำข้าว ชา กาแฟ มะขามเปียก ไหม ส้ม สับปะรด พริก ปลาน้ำจืด โคเนื้อ สุกร เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|