ธุรกิจหลักยังคงซบเซา แต่หัวใจของคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์กำลังสดใสกับงานทางด้านดนตรี
งาน ที่ตนเองรักมากแต่เพิ่งมีเวลาได้ลงมาทำอย่างเต็มที่
ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลศรีวิกรม์ได้ขยายตัวอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
ในปี 2538-2539 นั้น กลุ่มนี้คือ เจ้าของโปรเจ็กต์ ตึกสูง ที่กำลังทำการก่อสร้างมากที่สุดในเมืองไทย
จนกระทั่งเกิดภาวะวิกฤติทางการเงิน คุณหญิงก็ได้ใช้ความสามารถไปดึงผู้ร่วมทุนใหญ่ชาวต่างชาติให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญ
และทำให้บริษัทประคองตัวผ่านพ้นช่วงนั้น มาได้
วันนี้ในวัย 61 ปี คุณหญิงจึงมีเวลาได้กลับมาทำงาน ที่ตัวเองรักอีกครั้งหนึ่ง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่านักธุรกิจหญิงแกร่งคนนี้มีเสียงเพลงในหัวใจมาตลอด
และในอดีตเธอเคยเป็นครูสอนดนตรีด้วยซ้ำไป เพราะเธอได้จบการศึกษา ที่ Royal
Academy of Music จากประเทศอังกฤษ ต่อมาเมื่อได้แต่งงานกับเฉลิมพันธ์ ลูกชายคนหนึ่งของพระยาศรีวิกรมาฑิตย์
และคุณหญิงวาศ เศรษฐี ที่ดินเก่าแก่ราย หนึ่งของเมืองไทย ชีวิตก็ได้เปลี่ยนมาทำธุรกิจ
เริ่มจากการตั้งโรงเรียนศรีวิกรม์ขึ้นมา เมื่อปี 2506 หลังจากนั้น ก็ได้ร่วมกันสร้างอาณาจักรทางด้านพัฒนา
ที่ดินอย่างต่อเนื่อง ภาระ ที่หนักอึ้งของธุรกิจ ที่นับวันจะยิ่งใหญ่ขึ้นๆ
ทำให้คุณหญิงไม่ได้ทำงาน ทางด้านดนตรี ที่ตัวเองรักเลยก็ว่าได้
จนกระทั่งได้มีโอกาสแต่งเพลง Reach for the Star โดยมีนักร้องสาว วัยรุ่นสุดฮอต
อมิตา ทาทายัง เป็นผู้ขับร้องในพิธีเปิดกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้ง ที่ 13 ที่กรุงเทพมหานครครั้งล่าสุด
ที่ผ่านมา ผลงานครั้งนี้ชื่อเสียงของคุณหญิงทางด้านดนตรีก็ได้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้น ไม่นาน "เฉลี่ยสุข" ค่ายเพลงเล็กๆ ที่คุณหญิงใฝ่ฝันจะทำมานาน
ก็ได้เกิดขึ้นมี Good Boy เป็นวงดนตรีในสังกัดเป็นวงแรก และวง A-DAP 2000
ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2543 ที่ผ่านมา
แนวดนตรีทั้ง 2 วง เป็นเพลง Pop-Rap และ Pop-Rock ที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มคนทั่วไป
คุณหญิงต้องการอย่างยิ่ง ที่จะสนับสนุนคนรุ่นใหม่ ที่รักในเสียงเพลง และมีพรสวรรค์อยู่แล้ว
ดังนั้น ตัวศิลปินเองส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีความสามารถทางด้านการดนตรีมาก่อน
โดยเฉพาะวง A-DAP นั้น ศิลปินทั้ง 3 คนเคยผ่านงานร้องเพลงประกอบโฆษณา และยังเป็นอาจารย์สอนร้องเพลง
ที่เมษ์วดีอีกด้วย
บทบาทของคุณหญิงในเฉลี่ยสุขก็คือ การเป็นผู้ดูแลบริษัทเองทั้งหมดดูแลในเรื่องการแต่งเพลง
รวมถึงการคัดเลือกศิลปินด้วยตัวเอง โดยมีณธนา หลง-บางพลีเป็นโปรดิวเซอร์คนสำคัญ
"ตอนนี้งานทางด้านพัฒนา ที่ดินก็ยังดูแลเป็นหลักอยู่ กำลังสะสางเรื่องโครงการเก่าๆ
ดูแลปรับปรุงแผนเรื่องการเงิน โครงการใหม่ๆ ก็เลยยังไม่เกิดแต่อยู่ในระหว่างการรอเวลา
และผู้ร่วมทุนใหม่เขาก็มีความสามารถช่วยได้มากเลย ก็เลยคิดว่าเอาล่ะ ช่วงนี้ล่ะ
ได้เวลามาทำเรื่องงานเพลงเสียที" คุณหญิงกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
และเล่าให้ฟังต่อว่า
"แปลก สมองดิฉันเหมือนติดสวิตช์ พอลงมือแต่งเพลงสมองก็จะคิดแต่เรื่องเพลงเท่านั้น
ความคิดจะไหลออกมาได้เรื่อยๆ สมองด้านธุรกิจก็จะถูกปิดปั๊บเหมือนกัน"
นอกจากจะเฉลี่ยสุขไปให้คนฟังทางด้านเสียงเพลงแล้ว ล่าสุดคุณหญิงยังทำ ละครเพลงการกุศลเรื่อง
"รุ้งหลังฝน" ซึ่งจัดแสดงในวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2543 เพื่อฉลองครบรอบ
50 ปี ของการราชาภิเษกสมรสแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
เนื้อเรื่องของละคร เพลง "รุ้งหลังฝน" จะเกี่ยวกับชีวิตของเด็กขายพวงมาลัย
และเด็กเร่ร่อน ที่มีความฝัน
ละครเพลงเรื่องนี้หากใครได้ดูต้องยอมรับว่านอกจากเนื้อเรื่องดีแล้ว นักแสดง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมาแสดงกันเป็นครั้งแรกนั้น สามารถแสดงได้ดีน่าประทับใจมาก
และเพลงประกอบ ซึ่งเป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่มีความไพเราะแล้ว คุณหญิงยังแต่งเพลงใหม่ประกอบเพิ่มอีก
3 เพลงคือ รุ้ง, อย่ากลัว และขอเป็นคนไทย
รุ้งหลังฝน ได้เปิดโอกาสให้เด็กหลายคนได้แสดงความสามารถทางด้านเสียงเพลง
และการแสดงอย่างเต็มที่ ซึ่งคุณหญิงเองก็คาดหวังไว้เช่นกัน