ในเมื่อสินค้าหลายอย่าง กำลังมีการแข่งขันกันดีไซน์รูปทรง และหน้าตากันใหม่ เพื่อให้ทันสมัยรับปี 2000 "บ้าน" เองก็เช่นกัน

สถาปนิกหลายคนถูกตั้งคำถามว่า ในปี 2000 นี้ บ้านจะถูกออกแบบให้มีการเปลี่ยน แปลงไปจากเดิมอย่างไรบ้าง

นิธิ สถาปิตานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสถาปนิก A49 ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตของคนเปลี่ยนไปมากความคิดในการออกแบบบ้านเองก็ต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ เช่นกัน

อย่างแรก ที่เคยเน้นกันมาตลอดว่าในบ้านให้ลมผ่านได้ มีช่องรับลมทุกห้อง ต้องโปร่งสบายนั้น ต้องเปลี่ยนไปแน่นอน เพราะมลภาวะของอากาศเป็นพิษในกรุงเทพฯ ไม่ได้เอื้อเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียแล้ว ฝุ่น ที่ดำสกปรกทำให้เครื่องเรือน และเฟอร์นิเจอร์ ที่ทำด้วยผ้าสีหวานๆ ใสๆสกปรกได้ง่ายมาก

ดังนั้น บ้านยุคนี้ส่วนใหญ่จะต้องออกแบบ ให้ติดแอร์คอนดิชั่นทั้งหมด ไม่ได้ติดเฉพาะห้องนอนเหมือนเดิมแล้ว เมื่อเวลาอยู่บ้านทุกคนต้องการความเย็นสบายห้องสะอาดไม่มีฝุ่น ลูกค้าส่วนใหญ่จะยอมเสียเงินในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอย่างเต็มอกเต็มใจ

เมื่อมีการใช้แอร์เพิ่มขึ้น ค่าไฟก็จะต้องสูงขึ้นตาม สิ่งหนึ่ง ที่สถาปนิกต้องคำนึงถึงก็คือ ต้องออกแบบให้เป็นบ้าน ที่ประหยัดพลังงาน มีแสงเข้าได้น้อยที่สุด

ข้อจำกัดในเรื่องเวลาของคนกรุงเทพฯ เองทำให้การออกแบบห้องต่างๆ ในบ้านเองก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย อย่างเช่นพื้นที่ของห้องครัวของบ้านจะเล็กลง แต่จะนิยมให้สร้างแพนทรีเล็กๆ ติดกับห้องนอนมากขึ้น เพื่อใช้ทานอาหารเบาๆ ในตอนเช้า และตอนเย็นก็จะใช้ห้องนี้ทานอาหารเช่นกัน ทานเสร็จดูทีวี และเข้านอน ซึ่ง เป็นห้องที่ใกล้ๆ กัน ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็อาจจะใช้ชีวิตด้วยการออกไปเที่ยว และทานข้าวนอกบ้าน การเข้าครัวใช้ห้องอาหารใหญ่ๆ จะมีโอกาสน้อยครั้งมาก

และจากภาวะเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกวันนี้มีหลายครอบครัว เมื่อแต่งงานแล้วไม่ได้แยกไปอยู่ต่างหากลำพังเหมือนเมื่อก่อน แต่จะดัดแปลงบ้านของพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งของเรือนหอ เป็นห้องเดี่ยวแยกจากครอบครัวใหญ่ แต่จะมีส่วนรับแขก แพนทรีเล็กๆ เป็นสัดส่วนพร้อม

สำหรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาไม่ค่อยมีผลกับการตกแต่งบ้านเท่าไรนัก นิธิอธิบายว่า เป็นเพราะความชอบของคนบางทีมันเปลี่ยนยาก บางคนก็อาจจะชอบอะไร ที่ทันสมัย บางคนก็ชอบสิ่งของตกแต่ง ที่ดูแล้วคลาสสิก จะมีบ้าง ที่ลูกค้าเป็นวัยรุ่นที่จะชอบอะไรเป็นไปตามแฟชั่น ก็จะเปิดแมกาซีนใหม่ๆ เลียนแบบ แต่ลูกค้า ที่มีอายุวัยกลางคนขึ้นไปจะไม่เปลี่ยน และจะไม่มองเรื่องบ้านเป็นแฟชั่นเด็ดขาด

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งหนึ่ง ที่น่าสนใจ เพราะทุกวันนี้ คนยังนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศ และมีแนวโน้มเยอะขึ้นด้วย อาจจะเป็นเพราะราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับสินค้าในประเทศ ทั้งเฟอร์นิเจอร์หนัง และผ้า

"เรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย เพราะน่าจะได้มีการสนับสนุนใช้ของไทย แต่ต้องยอมรับว่ามันนั่งแล้วสบายกว่าจริงๆ การดีไซน์สวย ของเมืองไทยต้องยอมรับว่าเราแพ้ในเรื่อง การดีไซน์ และความสบายในการใช้ก็ผิดกัน ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์มาจากทั่วโลก ยังตกใจเลยมาทุกประเทศจากอิตาลี ฝรั่งเศส เดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา สแกนดิเนเวีย"

บ้านในยุค 2000 นี้ จึงไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรง ที่หวือหวาอะไรมากมายนัก แต่น่าจะเป็นบ้าน ที่มีการออกแบบให้ใช้ประโยชน์สนองตอบผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้นกว่ายุคที่ผ่านๆ มา