“ภูเก็ตแอร์”ดิ้นฝ่าวิกฤติ


ผู้จัดการรายวัน(13 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ภูเก็ตแอร์ เผชิญมรสุมหนัก ประกาศหยุดบินเส้นทางแม่สอดวันนี้ พร้อมเตรียมพิจารณาหยุดบินเส้นทางบุรีรัมย์ เผยทนแบกภาระขาดทุนไม่ไหว เหตุระยะหลังมีข่าวเชิงลบกระทบชื่อเสียงบริษัท ระบุเครื่องลื่นไถลตกรันเวย์แม่สอด เป็นเหตุสุดวิสัย เกิดจากทัศนวิสัยไม่ดี ระบุขอทำใจก่อนลุยทำตลาด-สร้างแบรนด์ต่อปีหน้า เบื้องต้นขอลดขนาดองค์กร ส่วนเครื่องบินที่ว่างพร้อมเปิดให้เช่า ด้านกรมขนส่งทางอากาศคาดจะสรุปสาเหตุอุบัติเหตุภูเก็ตแอร์ไถลออกจากรันเวย์ภายใน 1 เดือน พร้อมส่งกล่องดำบันทึกการบินไปถอดที่ญี่ปุ่น และเพิ่มความเข้มงวดของมาตรฐานการซ่อมบำรุงเครื่องบินทุกลำ

นายชัยรัตน์ เมฆศุกรีย์ กรรมการบริหาร สายการบินภูเก็ตแอร์ กล่าวว่า จากกรณีเครื่องบินภูเก็ตแอร์ลื่นไถลออกนอกรันเวย์ที่สนามบินแม่สอด จ.ตาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดผู้บริหารของสายการบินภูเก็ตแอร์ ได้เข้าพบกรมการบินพาณิชย์ เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้เหตุผลว่าขณะนั้นท้องฟ้ามีเมฆมาก ประกอบกับมีฝนตกทำให้รันเวย์ลื่น ซึ่งนักบินพยายามดึงเบรคแล้ว แต่ยังไม่อยู่และลื่นไถลลงข้างทาง ซึ่งทางกรมการบินพาณิชย์ก็รับคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว

ขณะเดียวกันทีมผู้บริหารบริษัท สายการบินภูเก็ตแอร์ ได้หารือและเห็นตรงกันว่า จะขอหยุดบินในทุกเส้นทางที่ขาดทุน ซึ่งเส้นทางที่จะหยุดบินตั้งแต่วันนี้ ( 13 ก.ย.48) คือ กรุงเทพ-แม่สอด และจะพิจารณาหยุดบินในเส้นกรุงเทพ-บุรีรัมย์ แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าวันไหน โดยจะเหลือบินเพียง 2 เส้นทาง คือ กรุงเทพ-ระนอง 5 เที่ยวต่อสัปดาห์ และกรุงเทพ-ย่างกุ้ง 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ เพราะทั้ง 2 เส้นทางยังมีผลประกอบการที่ดีและพอมีกำไรบ้าง

สำหรับที่ผ่านมา ภูเก็ตแอร์ทยอยหยุดบินในหลายเส้นทาง เช่น กระบี่ , ภูเก็ต และ อัมสเตอร์ดัม เพราะไม่สามารถทนแบกภาวะการขาดทุนได้ เนื่องจากน้ำมันแพง ประกอบกับระยะหลังภูเก็ตแอร์มักมีข่าวเชิงลบออกมามาก ทำให้ลูกค้าขาดความมั่นใจ และไม่เลือกใช้บริการ

ในเรื่องนี้ อยากขอความเห็นใจจากลูกค้าและสื่อมวลชน เพราะหากพิจารณาถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น จะเป็นเหตุสุดวิสัย และเกิดจากปัจจัยที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งการยึดเครื่องบินที่สนามบินประเทศเกาหลี ไม่ให้บินออก เพราะไม่จ่ายค่าจอดและค่าเช่าสนามบินตรงนั้น เป็นเพราะบริษัทผู้ที่เช่าเครื่องบินของภูเก็ตแอร์ไม่ปฏิบัติตามกฎ ซึ่งเมื่อเกิดเรื่อง บริษัทเราก็นำเงินไปเคลียร์เองแล้วนำเครื่องบินกลับมา ล่าสุดการเกิดเหตุเครื่องบินลื่นไถลรันเวย์ ที่สนามบินแม่สอด จ.ตาก ก็เพราะสภาพอากาศและทัศนวิสัยไม่ดี จึงเป็นเหตุสุดวิสัย และนักบินเราก็ตัดสินใจดีทำดีที่สุดแล้ว จะเห็นได้ว่าไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ แถมยังได้รับคำชมจากผู้โดยสารด้วย

“บริษัทเราให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าเครื่องของภูเก็ตแอร์ไม่เคยมีข่าวเรื่องการขัดข้องของเครื่องยนตร์ เพราะเราเช็คละเอียด เราอยู่ในธุรกิจนี้มานานและเราก็ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด ราคาตั๋วก็คิดไม่แพง แต่เหตุการณ์หลายๆอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ทุกวันนี้เกือบทุกเส้นทางที่เราบินประสบปัญหาขาดทุน ทั้งเส้นทางภูเก็ต ที่มีลูกค้าน้อยลง ขณะเดียวกันเส้นทาง ที่ไม่มีใครต้องการบิน เราก็บินให้เพื่อ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องเดินทาง เช่น เส้นทางบุรีรัมย์ และเส้นทางแม่สอด เราจึงขอความเห็นใจจากสังคมบ้าง”

จากปัญหาที่เกิดขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทตั้งแต่ต้นปีมีผลการดำเนินงานขาดทุนกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่ง บริษัทใช้วิธีนำกำไรที่ได้จากธุรกิจอื่นมาอุดหนุน เช่น ธุรกิจโรงแรมรีสอร์ต และ อสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เป็นต้น ส่วนเครื่องบินที่หยุดบิน บริษัทจะนำไปเปิดให้เช่า ซึ่งเรามีพันธมิตรที่เป็นบริษัทการบินอยู่บ้าง ส่วนแผนงานในอนาคตที่วางไว้คือ การลดขนาดองค์กร และการทำตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ในปีหน้า ซึ่งระหว่างที่หยุดบินนี้ เราจะนำเรื่องทั้งหมดมาไตร่ตรอง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคุณภาพบุคลากร โดยเฉพาะนักบิน เรายืนยันว่าพนักงานเรามีประสิทธิภาพ และมีประสบการณ์สูง ทุกคนเป็นมืออาชีพ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการลื่นไถลตกรันเวย์ที่แม่สอด ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากนักบิน หรือเครื่องบินอย่างแน่นอน

กรมขนส่งทางอากาศเร่งหาข้อมูล

ทางด้านนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า กรมฯได้สอบสวนเพื่อหาสาเหตุอุบัติเหตุกรณีที่เครื่องบินของสายการบินภูเก็ตแอร์ลื่นไถลออกจากรันเวย์ที่ท่าอากาศยานแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) โดยเบื้องต้นได้สั่งระงับการบินของนักบิน พร้อมกับส่งไปตรวจสุขภาพที่เวชศาสตร์การบิน โรงพยาบาลภูมิพล และเรียกผู้บริหารของสายการบินภูเก็ตแอร์ ประกอบด้วย นายเชาวลิต เจียมเจริญวุฒิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายชาย คล่องอักขระ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการบิน นักบินคือ นายสมสกุล เสมา และผู้ช่วยนักบิน นายไพโรจน์ เกาจาลี มาสอบถาม

ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่นำกล่องดำบันทึกการบินเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุไปถอดข้อมูลการบันทึกการบินที่ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งขอเทปบันทึกการบินของท่าอากาศยานแม่สอดมาสอบสวนด้วย ซึ่งกระบวนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงทั้งหมด คาดว่าจะทราบผลประมาณ 1 เดือนนับจากนี้ โดยกรมฯ จะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้คณะกรรมการสอบสวนอากาศยานและเรือประสบภัย ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน เพื่อพิจารณาและตัดสินลงโทษตามกฎหมายต่อไป ส่วนจะถึงขั้นถอดถอนใบอนุญาตธุรกิจการบินหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาความร้ายแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นจากธุรกิจการบินนั้น ๆ

นายชัยศักดิ์ กล่าวว่า เครื่องบินของสายการบินภูเก็ตแอร์ที่ประสบอุบัติเหตุ เริ่มใช้งานมาตั้งแต่ปี 2512 ซึ่งตามมาตรฐานด้านการบิน หากซ่อมบำรุงถูกต้อง เครื่องบินยังใช้งานได้ ทั้งนี้ กรมฯ ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบมาตรฐานเครื่องบิน โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อตรวจสอบ ล็อกบุ๊ก หรือสมุดบันทึกประวัติการบินเครื่องบินทุกเครื่องเพื่อให้มั่นใจว่า ได้มีการซ่อมบำรุงและดูแลอย่างดีหรือไม่

สำหรับท่าอากาศยานแม่สอดได้ปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 - 14 กันยายนนี้ เพราะเครื่องบินของสายการบินภูเก็ตแอร์ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายออกไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.