|
ปชช.อ่วมแบงก์รัฐจ่อขึ้นดบ.
ผู้จัดการรายวัน(13 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
แบงก์เฉพาะกิจของรัฐซ้ำเติมประชาชน พร้อมใจปรับอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารพาณิชย์ หลังแบงก์ชาติปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.5% กรุงไทยเล็งขยับดอกเบี้ยทั้งสองขาเท่า 5 แบงก์ใหญ่ ขณะที่ออมสินคาดปรับ 0.25-0.5% ส่วน ธ.ก.ส.ชี้ อาจตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ได้ถึง ต.ค.นี้ ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าตามเงินญี่ปุ่นทะลุ 40.90 บาทต่อดอลลาร์ หลังพรรครัฐบาลของนายจุนอิชิโร โคอิซูมิ ชนะการเลือกตั้ง
นายอนันตผล พันธุ์เพ็ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริหารกลุ่ม กลุ่มบริหารการตลาด สายงานบริหารผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารหลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.5% มาอยู่ที่ 3.75% ว่า วันนี้ (13 ก.ย.) คณะกรรมการธนาคารจะมีการพิจารณาเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าจะมีการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งกรุงไทยคงจะปรับอัตราดอกเบี้ยทุกประเภทในระดับเท่ากับธนาคารขนาดใหญ่ของรัฐ 5 แห่ง
"ถ้าธนาคารกรุงไทยขยับอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยทั้งตลาดคงขยับขึ้นตาม สำหรับในช่วงที่ผ่านมา เมื่อประมาณ 2-3 เดือน เราก็ได้ออกเงินฝากประเภท 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.75%" นาย อนันตผล กล่าว
นายสมชาย วาณิชย์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินมีนโยบายที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝาก ตามธนาคารพาณิชย์ โดยอาจจะรอให้ธนาคารกรุงไทยมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นก่อน และคาดว่าจะปรับขึ้นในระดับ 0.25-0.5%
"ตอนนี้สภาพคล่องของเรายังมีอยู่ เพราะเรามีการระดมเงินฝากจากการออกพันธบัตร ซึ่งมีการให้ดอกเบี้ย 1 บาทต่อหน่วย หรือต่อ 50 บาท เมื่อถือครอบระยะเวลา 3 ปีด้วย จากเดิมที่ไม่มีดอกเบี้ย มีเพียงการลุ้นรางวัล แต่ก่อนที่จะออกพันธบัตร เงินฝากของเราก็ไหลออกไปแบงก์อื่นเยอะเหมือนกัน ดังนั้น เราจึงต้องมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อผ่อนคลายในส่วนของเงินฝาก" นายสมชาย กล่าว
ด้านนายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า โดยธรรมชาติแล้วธนาคารคงจะไม่สามารถคงอัตราดอกเบี้ยสวนกระแสตลาดได้ ซึ่งท้ายที่สุดก็คงจะต้องมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ธ.ก.ส.จะพยายามคงอัตราดอกเบี้ยไว้ คาดว่าน่าจะสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ได้ถึงเดือนตุลาคม 2548 นี้
สำหรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยใหม่ ที่คิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยงของพืชพันธุ์ที่เพาะปลูกนั้น กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยจะพยายามให้สามารถประกาศใช้ทันในเดือน พฤศจิกายน 2548 นี้ ซึ่งหากเป็นไปได้ ทางธนาคารก็ต้องการใช้โครงสร้างใหม่ สำหรับการเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยใหม่ครั้งใหม่นี้
นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า ธนาคารจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในเดือน ตุลาคม 2548 นี้ โดยจะปรับขึ้นในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐานขึ้น 0.25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.25% ซึ่งการปรับขึ้นในครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นตามสภาวะตลาดที่มีต้นทุนสูง
"ดอกเบี้ยขึ้นเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบการควรจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
นางจามรี เศวตจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสินเชื่อธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำสภาวะและสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงประกอบการพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนลูกค้าใหม่ของธนาคาเพราะสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นสินเชื่อในระยะยาว
บาทแข็งทะลุ 40.90 บาทต่อดอลล์
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทของไทยเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักของวันที่ 12 กันยายน (วานนี้) อยู่ที่ระดับ 40.85 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า และแข็งค่าขึ้น 1.22 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
หากเทียบกับค่าเงินยูโร สหภาพยุโรป ค่าเงินบาทได้แข็งค่าขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ แต่อ่อนค่าลง 0.12 %เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่เมื่อเทียบกับค่าเงินเยน จะพบว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าลง 0.51% ในวันก่อน และอ่อนค่าลง 0.51 % เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
นักค้าเงินจากธนาคารไทยธนาคาร กล่าวว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าบาทเงินบาทของไทย เปิดตลาดที่ 40.85 - 40.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 40.86 - 40.89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 40.92 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และต่ำสุดอยู่ที่ 40.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้การที่บาทแข็งค่าลงส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากพรรครัฐบาลของนายจุนอชิโร โคอิซุมิ ประเทศญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้ง ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นตาม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|