"ซีเอ็ด"ชูโมเดลร้านสะดวกซื้อดันคีออสยึดรถไฟใต้ดิน8แห่ง


ผู้จัดการรายวัน(12 กันยายน 2548)



กลับสู่หน้าหลัก

ซีเอ็ดปรับทิศทางสู่ร้านหนังสือสะดวกซื้อยึดคอนเซ็ปต์ แนวเดียวกับบุ๊คสไมล์ในร้านเซเว่นฯ พร้อมทั้งเผยผลกำไรเติบโต 30% ต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน พร้อมดันคีออสในสถานีรถไฟฟ้าอีก 8 แห่งรองรับไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพฯเปลี่ยน

นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทได้ปรับรูปแบบร้านหนังสือซีเอ็ด ให้เป็นรูปแบบของร้านหนังสือสะดวกซื้อ เนื่องจากที่ผ่านมามีการเปิดสาขาย่อยในโลตัส เอ็กซ์เพรส รวมทั้งมีการนำสินค้าที่ไม่ใช่หนังสือมาจำหน่ายในร้านมากขึ้น โดยปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 15% ที่เหลืออีก 75% เป็นสินค้า ประเภทหนังสือ ส่งผลให้รูปแบบของร้านมีการพัฒนาจนมีลักษณะใกล้เคียงกับร้านสะดวกซื้อมาก ซึ่งรูปแบบดังกล่าวคล้ายคลึงกับร้านบุ๊คสไมล์ที่เข้าไปเปิดในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น

อย่างไรก็ตาม ร้านซีเอ็ดฯมีจุดแตกต่างจากร้านบุ๊คสไมล์ตรงที่มีสินค้าหลากหลายกว่า เนื่องจากมีพันธมิตรทั้งสำนักพิมพ์และค่ายผลิต ซีดีเพลงต่างๆ มากมาย โดยล่าสุดได้นำซีดีเพลงของค่ายแกรมมี่เข้ามาวางจำหน่ายร่วมด้วย เนื่องจากบริษัท แกรมมี่ เป็นหุ้นส่วนรายใหม่ที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทฯ 14%

ส่วนผลกำไรในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 30% จากปีที่แล้วแม้เศรษฐกิจ ในประเทศจะแย่ลงก็ตาม และคาดว่าจะมีการเติบโตของผลกำไรในอัตราเดียวกันนี้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบการจัดการภายในองค์กรเอง โดยปีหน้าจะใช้เงินลงทุน 30 ล้านบาทในการขยายศูนย์กระจายสินค้าซีเอ็ดที่กิ่งแก้วบางพลี จากเดิม 7,000 ตร.ม.เพิ่มเป็น 15,000 ตร.ม. เพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อหนังสือที่จะเพิ่มขึ้นอีกทั้งจากร้าน และจากอินเทอร์เน็ต โดยลูกค้าจะใช้เวลาซื้อหนังสือไม่เกิน 1 วันนับจากวันสั่งซื้อเพื่อไม่ให้ลูกค้าเสียอารมณ์คอยนานในการซื้อหนังสือจากทางร้าน

นอกจากนั้น ยังเป็นผลพวงจากการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ทำต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว โดยระบบจะแล้วเสร็จในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทสามารถ ลดต้นทุนการจ้างพนักงานลงได้อีก 20% จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาร้านซีเอ็ดฯทั่วประเทศรวม 400 กว่าแห่ง แบ่งเป็นสาขาใหญ่ 189 สาขา และสาขาย่อยอีก 160 สาขา โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะเปิดให้ครบ 30 สาขา ส่วนในปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 20 สาขา โดยมีมูลค่าการลงทุน 1.5 แสนบาทต่อสาขา

ล่าสุดบริษัทฯเพิ่งเปิดสาขาย่อยแห่งใหม่ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสุขุมวิท โดยเตรียมจะเปิดเพิ่มในพื้นที่ชอปปิ้งมอลล์ของสถานีฯ ให้ครบทั้งหมด 8 แห่ง โดยมีการทำสัญญาเช่าพื้นที่ขายกับบริษัท เมโทรมอลล์ที่ได้รับสัมปทานในอัตรา 3,000 บาทต่อตารางเมตรตลอดอายุสัญญาเช่า 3 ปี ซึ่งบริษัทฯจะใช้เงินลงทุนต่อสาขาประมาณ 5 แสนบาท

การเปิดสาขาย่อย หรือคีออสของร้านซีเอ็ดที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินนั้น ถือเป็นการเปิดเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การเดินทางของคนกรุงเทพฯที่กำลังจะเปลี่ยนไปภายใน 1 ปีข้างหน้า โดยมีราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเป็นตัวเร่ง ทั้งนี้จะมีการใช้สถานีต่างๆ เป็นจุดนัดพบและเป็นแหล่งเดินชอปปิ้งด้วย
ส่วนการเลือกสาขาร้านซีเอ็ดฯนั้นจะเลือกเพียง 8 สถานีจากจำนวน ทั้งหมด 11 สถานีที่มีชอปปิ้งมอลล์ เนื่องจากบริษัทฯพิจารณาจากจำนวน ผู้โดยสารรถไฟฟ้าฯ เป็นหลัก ส่งผลให้มี 3 สถานีที่บริษัทฯตัดสินใจไม่ไปเปิดสาขา ได้แก่ คลองเตย, ศูนย์ฯสิริกิติ์ และเพชรบุรี ส่วนสาขาสถานีฯ สุขุมวิทที่เพิ่งเปิดไปนั้นมีจำนวนทราฟฟิก หรือจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าฯ 40,000 คนต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวภายใน 3 ปี ทั้งนี้จะส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่เข้าร้านซีเอ็ดฯเพิ่มขึ้นอีก จากเดิมที่มีอยู่แล้วประมาณ 2 ล้านคนต่อเดือนต่อจำนวนสาขาใหญ่ทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหนังสือที่วางขายในร้านส่วนใหญ่เป็นหนังสือตามกระแสซึ่งสะดวกต่อการซื้อ เช่น หนังสือพิมพ์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.