เทรดหุ้นBTจริงตุลาฯนี้ พยุงมูลค่า-รายย่อย50%


ผู้จัดการรายวัน(26 กันยายน 2545)



กลับสู่หน้าหลัก

"ไทยธนาคาร" ไปไม่ถึงดวงดาว รายย่อยจองซื้อหุ้นซบเซายอดซื้อเพียง 50% จากจำนวนที่จัดสรรทั้งสิ้น 194 ล้านหุ้น ระบุปัจจัยตลาดทุนทั่วโลกไม่เอื้อ ลุ้นนักลงทุนสถาบัน จะจองเกินโควตาวันนี้(26) หากสถาบันจองไม่หมด บล.ไทยพาณิชย์รับเละ "พีรศิลป์ ศุภผลศิริ" อ้อนนักลงทุนพิจารณาปัจจัยพื้นฐานอย่าตื่นกับกระแสสงคราม เลื่อนซื้อขายหุ้นออกไป 1 ต.ค.นี้ ลูกค้าจองหุ้นไทยธนาคารมั่นใจฐานะธนาคาร ยันคุ้มค่าเงินที่จองซื้อหุ้นแน่ ชี้ธนาคารมีความมั่นคง ไม่กังวลหากเลื่อนเวลาหุ้นซื้อขายออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (25 ก.ย.)เป็นวันแรกของการเปิดจองซื้อหุ้นของธนาคารไทยธนาคารในส่วนที่กระจายให้กับประชาชนจำนวน 194 ล้านหุ้น จากจำนวนที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนำออกมาขาย 707 ล้านหุ้น บรรยากาศการจองซื้อหุ้นดังกล่าวของนักลงทุนรายย่อยไม่คึกคักเท่าที่ควรนักลงทุนเข้าคิวรอจองซื้อหุ้นรายแรกเวลา 7.00 น. เริ่มเปิดจองหุ้นเวลา 9.00 น. จนถึงเวลา 15.00 น. หรือหากมีจำนวนการจองหุ้น 233 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 1.2 เท่าของจำนวนหุ้นที่เสนอให้กับนักลงทุนรายย่อยจะหยุด ปรากฏว่านักลงทุนประเภทรายย่อยจองซื้อหุ้นเพียง 50% ของจำนวนที่จัดสรร

นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร (BT) กล่าวพอใจระดับหนึ่งในการขายหุ้นธนาคารให้กับนักลงทุนรายย่อยในวานนี้(25) ถึงแม้สถานการณ์ในตลาดหุ้น ทั่วโลกจะมีความอ่อนไหวต่อกระแสข่าวการทำสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกา กับอิรักจนส่งผลกระทบต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย แต่ ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไปยัง ให้ความเชื่อมั่นต่อปัจจัยพื้นฐานของหุ้นไทยธนาคาร ทำให้การเปิดจำหน่ายหุ้นอยู่ในระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับสถานการณ์ตลาดหุ้นทั่วโลก

โดยภายหลังปิดระบบการจองซื้อเวลา 15.30 น. ปรากฏว่ามีการจองซื้อเกินกว่า 50% ของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้กับประชาชน สำหรับหุ้นในส่วนที่เหลือจากรายย่อย หากนักลงทุนประเภทสถาบันแสดงความจำนงในการซื้อหุ้นเกิน จำนวนที่แบ่งให้สถาบัน 216 ล้านหุ้น ธนาคารจะนำส่วนที่เหลือของรายย่อยมาจัดสรรให้กับสถาบัน และหากนักลงทุนประเภทสถาบันซื้อหุ้นธนาคารไม่หมดจำนวนที่จัดสรรบล.ไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรท์)ก็รับซื้อทั้งจำนวน

ขณะเดียวกันบรรยากาศตลาดทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ยังไม่มีความแน่นอนในเรื่องของภาวะสงครามระหว่างสหรัฐฯและอิรัก ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน)ปรับลดลงเกือบ 200 จุดจนกระทบมายังตลาดหุ้นของไทยที่หลุด 350 จุด

จากบรรยากาศที่ไม่เอื้ออำนวยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่นอกเหนือการควบคุมของธนาคาร ธนาคารจึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดสิ่งที่เห็นได้ชัดภาย คือนักลงทุนที่เข้ามาจองซื้อส่วนใหญ่แล้วเป็นนักลงทุนที่พิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของธนาคารที่มีความแข็งแกร่งมีผลประกอบการที่ดี

"การแปรรูปของแบงก์หยุดไม่ได้เพราะได้มีการดำเนินการหลายขั้นตอนทั้งกระทรวงการคลัง กองทุนฟื้นฟูฯซึ่งแบงก์ยังมั่นใจในศักยภาพ ของประเทศ รวมทั้งตลาดทุนของไทยมีแนวโน้มที่ดี ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานของแบงก์ก็ถือ ว่ามั่นคงแข็งแกร่ง จึงดำเนินการตามแผนเดิมทุกอย่าง" นายพีรศิลป์กล่าว

ธนาคารต้องการที่จะนำเสนอหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม การที่ตั้งราคา 10.30 บาทถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน รวมทั้งราคาตามมูลค่าบัญชีอยู่ที่ 8.00 บาท และราคาในตลาดอยู่ที่ประมาณ 10 บาท การเสนอขายราคาดังกล่าวจึงเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย โดยเปรียบเทียบกับหุ้นในตลาดที่มีปัจจัยที่ดียังมีน้อย จึงน่าจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุน

"สถานการณ์ตลาดจะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ แต่ธนาคารก็ได้เสนอราคาหุ้นที่ยุติธรรมกับนักลงทุนที่สุดแล้ว ในระดับที่ 1.2 เท่าของบุคแวลู ซึ่งก็ถือว่าต่ำมากแล้ว และเชื่อว่านักลงทุนที่เข้ามาซื้อจะพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานหุ้นแท้จริง" นายพีรศิลป์

นอกจากนี้ธนาคารก็มีการนำเสนอในเรื่องการจ่ายปันผลให้กับนักลงทุน คาดว่า 6-12 เดือนข้างหน้าจะสามารถจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้ ประกอบกับผลประกอบการของธนาคารมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

หุ้นของธนาคารจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 1 ตุลาคม 2545 โดยราคาหุ้นอาจมีการขึ้นลงบ้างตามภาวะตลาด เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ธนาคารเชื่อว่าเป็นเรื่องระยะสั้นเพราะยังมั่นใจเรื่องปัจจัยพื้นฐาน และมั่นใจว่าภาวะการเกิดสงครามคงจะไม่รุนแรง จนกระทั่งตลาดทุนไทยล่มสลาย

ธนาคารไทยธนาคารแจ้งขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยขึ้นเครื่องหมาย "SP" ในการหยุดซื้อขายหุ้นของธนาคารระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.ที่ผ่านมาปรากฎว่าธนาคารได้ขอเลื่อน การเปิดซื้อขายหุ้นออกไปถึงสิ้นวันที่ 30 ก.ย.นี้

ลูกค้าไม่ห่วงภาวะหุ้น มั่นใจฐานะ-คุ้มค่าเงิน

พลตำรวจตรีดำริ นิสสัยพันธุ์ ข้าราชการบำนาญ ซึ่งมาจองซื้อหุ้นที่สำนักงานใหญ่ ธนาคาร ไทยพาณิชย์(SCB)เป็นคนแรก เมื่อเวลา 9.10 น กล่าวว่า มาจองซื้อหุ้น BT จำนวน 1 หมื่นหุ้น เนื่องจากเห็นว่าธนาคารไทยธนาคารมีความมั่นคงมากขึ้นและมีรัฐบาลถือหุ้นใหญ่ ซึ่งในอนาคตมองว่าธนาคารจะมีกำไรและคุ้มค่ากับเงินที่เข้าไปลงทุน

ในส่วนของภาวะตลาดหุ้นที่ไม่เอื้ออำนวยในช่วงนี้ตนไม่กังวล เนื่องจากมองว่าเมื่อหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ราคาน่าจะปรับตัวเพิ่ม ขึ้นมากกว่าราคาจอง 10.30 บาท ซึ่งตนคงจะขายหุ้นออกในวันแรกและเมื่อราคาปรับลดลงก็จะเข้าไปซื้อหุ้นกลับคืน โดยเห็นว่าการลงทุนก็ต้องมีความเสี่ยงแต่มีความมั่นใจในการลงทุน เพราะไม่ใช่เป็นการเล่นการพนัน

นอกจากนี้มั่นใจว่าหุ้น BT คงจะเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ตามกำหนดเดิมที่ประกาศไว้จึงไม่กลัวว่าจะมีการเลื่อนระยะเวลาหุ้นเข้าซื้อขายออกไป เนื่องจากกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนปัจจุบันเป็นที่น่าเชื่อถือของนักลงทุน

ทั้งนี้ธนาคารไทยธนาคารเสนอขายหุ้นทั้งหมด 707 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายนักลงทุน สถาบัน216 ล้านหุ้น เสนอขายผ่านผู้จัดจำหน่าย 297 ล้านหุ้น และขายให้กับประชาชนทั่วไป 194 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 10.30 บาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.