|
ขึ้นราคาเหล้ารับภาษีต้นปี
ผู้จัดการรายวัน(8 กันยายน 2548)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัทเหล้าประชุม ด่วนรับมือภาษีเหล้าใหม่ คาดขึ้นราคา ต้นปีเพราะยังมีสต๊อกเก่า กลุ่มเซกัน- ดารี่ต้องปรับตำแหน่งใหม่ให้สูงขึ้น กันขาเมายกระดับหันไปดวดเหล้ามีเกรด เพราะราคาไม่ต่างกันมากนัก ส่วนคอแบล็ค ชีวาส เฮนเนสซี่ ไม่ต้องห่วง เพราะภาษีเท่าเดิม กรมสรรพสามิตเตรียมขึ้นค่าใบอนุญาตขายสุรา บุหรี่ และไพ่
หลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ วันที่ 6 กันยายน 2548 ให้เพิ่มภาษีสุรา ประเภท สุราปรุงพิเศษ และสุราพิเศษ ประเภทบรั่นดี-วิสกี้ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2548 วานนี้ ผู้ประกอบการทุกค่ายได้ประชุมอย่างเร่งด่วน ได้แก่ บริษัท ริชมอนเด้ (บางกอก) จำกัด ซึ่งมีกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ โกลเด้นไนท์, สเปย์ รอยัล บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด ประเทศไทย จำกัด ได้แก่ ฮันเดรด ไพเพอร์ส, มาสเตอร์เบลน ส่วนกลุ่มเจริญ สิริ-วัฒนภักดี ได้แก่ แม่โขง มังกรทอง แสงโสม ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางในการทำตลาดจากนี้ไป รวมทั้งการปรับราคาสินค้าขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากการประชุมวานนี้ แต่มีแนวโน้มว่า ผู้ประกอบการจะปรับราคาขึ้นช่วงต้น ปีหน้า เพราะเชื่อว่าผู้ประกอบการแต่ละรายยังมีสต๊อก สินค้าที่สามารถขายในราคาเดิมจนถึงปลายปีได้ และแนวโน้มที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับโพซิชั่นนิ่งสินค้าใหม่มีสูง โดยเฉพาะวิสกี้ในกลุ่มเซกันดารี่ อาทิ ฮันเดรด ไพเพอร์ส, สเปย์ รอยัล เพราะโครงสร้างราคาภาษีใหม่จะส่งผลให้ราคาขยับขึ้นใกล้กับวิสกี้ในกลุ่มสแตนดาร์ด ทำให้มีโอกาสที่กลุ่ม ผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปดื่มเหล้าในกลุ่มสแตนดาร์ด แบล็ค ชีวาส ราคาเดิม
อัตราภาษีสุราใหม่นี้จะทำให้เหล้าแสงโสมเสียภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 112 บาท จากเดิมที่เสียภาษี 67 บาท และแม่โขง เสียภาษี 105 บาท จากเดิม 63 บาท
ส่วนสุรานำเข้ากลุ่มเซกันดารี่ เช่น สเปรย์ รอยัล จะเสียภาษี 112 บาท จากเดิม 67 บาท มาสเตอร์เบลนด์ เสียภาษี 98 บาท จากเดิม 58 บาท ฮันเดรดไพเพอร์ส เสียภาษี 112 บาท จากเดิม 82 บาท รีเจนซี่ เสียภาษี 106 บาท จากเดิม 72 สำหรับสุรานำเข้าระดับสแตนดาร์ด อาทิ แบล็คเลเบิล ชีวาส รีกัล เฮนเนสซี่ นั้นจะเสียภาษีเท่าเดิม เนื่องจากกลุ่มนี้จะเสียภาษีตามมูลค่าซึ่งถือว่าสูงอยู่แล้ว
นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมฯจะไปดำเนินการศึกษาผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนภาษีสุรากลั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายสุราไทยอย่างไรบ้าง เพราะการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้จะทำให้ราคาสุรากลั่นไทยบางยี่ห้อมีราคาที่ใกล้เคียงกับสุราต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 4-5 เดือน อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายสุราหลังจากปรับขึ้นภาษีจะลดลงหรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับเทคนิคทางการตลาดของผู้ประกอบการด้วยว่าจะปรับขึ้นราคาขายปลีกอย่างไรไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรการภาษีเพียงอย่างเดียว
นายอุทิศกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังศึกษาแนวทางในการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตขายสุรา ยาสูบ และไพ่ โดยได้ทำการศึกษา ในภาพรวมด้วยการเปรียบเทียบกับค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตของต่างประเทศ แต่การจะปรับขึ้นเป็นเท่าใด นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับผลการศึกษา ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ สถานการณ์ สภาพสังคมและการซื้อขายของประเทศไทย โดยคาดว่าข้อสรุปผลการศึกษาอย่างเร็วภายในสิ้นปี 2548
"กรมกำลังศึกษาอยู่ว่าค่าธรรมเนียมที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเหมาะสมหรือยัง หากเทียบกับของต่างประเทศ เช่น ยุโรป ถือว่าค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของประเทศไทยถูกมาก ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการกระทำผิด แต่ถ้าหากปรับขึ้นก็จะทำให้ใบอนุญาตมีคุณค่ามากขึ้น เพราะได้ใบอนุญาตมายากกว่า" นายอุทิศกล่าว
สำหรับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตสุราในปัจจุบัน อยู่ที่ 110 บาทต่อปี ซึ่งในจำนวนนี้ได้รวมค่าขออนุญาต ของกระทรวงมหาดไทย 10% ส่วนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตยาสูบอยู่ที่ 20 บาท ต่อปี และค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตไพ่อยู่ที่ 20 บาท ต่อปี ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ประกอบการขอใบอนุญาตสุรา ประมาณ 6 แสนราย ใบอนุญาตยาสูบ ประมาณ 1 ล้านราย และใบอนุญาต ไพ่ ประมาณ 24,000 ราย
น.พ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการศูนย์ วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) กล่าวว่า ต้องยินดีกับประเทศไทยที่คณะรัฐมนตรียังคงการคิดภาษี 2 วิธี คือ คิดทั้งภาษีตามปริมาณและภาษีตามมูลค่าแล้วแต่วิธีใดให้ภาษีแก่รัฐมากกว่ากัน ซึ่งเป็นระบบที่นอกจากจะให้รายได้รัฐมากกว่าแล้วยังเป็นระบบที่คุ้มครองสุขภาพอีกด้วย
ทั้งนี้ ผลกระทบที่ตามมาคือ การบริโภคสุรากลุ่มที่ถูกเก็บภาษีสูงขึ้น อาจจะลดลงบ้าง เพราะราคาจะแพงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตจะผลักภาระภาษีให้แก่ผู้บริโภค แต่ภาพรวมการบริโภคสุราจะไม่ลดลง เพราะผู้บริโภคจะย้ายไปดื่มสุราที่ราคาถูกหรือราคาคงที่ จะส่งผลให้สุราขาวขายดีขึ้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|